แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา
nn การพัฒนากิจการงานให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่การสร้างความเจริญทุกๆ อย่างนั้น ย่อมจะต้องสร้างเสริมขึ้นจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อน หน้าที่สำคัญของนักปฏิบัติงานจึงมีอยู่สองอย่าง คือ รักษาพื้นฐานเดิมไม่ให้บกพร่อง กับต่อเติมเสริมพื้นฐานนั้นให้สูงขึ้นเจริญขึ้นการรักษาพื้นฐานนั้น ได้อธิบายว่า ได้แก่การพากเพียรพยายามทำงานหลักหรืองานประจำให้สมบูรณ์ไม่บกพร่อง แล้วค้นคว้าคิดอ่านพัฒนางานนั้นให้ก้าวหน้าไปเป็นลำดับ ด้วยความรอบคอบ ประกอบด้วยสติรู้เท่าทันตลอดเวลา ก็จะประสบความสำเร็จและความเจริญได้อย่างเพียบพร้อม...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 12 กรกฎาคม 2523)
nn ในขณะที่คนมีสติปัญญาทั้งโลกกำลังเตรียมรับมือกับปัญหาใหญ่ อันจะเกิดตามมาหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วางระเบิดลูกใหญ่เรื่องสงครามการค้าให้กับโลก ดังจะเห็นได้จากปฏิกิริยาหลากหลายจากผู้นำของประเทศต่างๆ บนโลกใบนี้ โดยบางประเทศก็ประกาศต่อสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟันกับทรัมป์ บางประเทศก็ขอเจรจากับทรัมป์ บางประเทศก็ยอมจำนนต่อทรัมป์ โดยผู้นำของประเทศต่างๆ ได้กำหนดกลยุทธ์ในการต่อสู้เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดแห่งรัฐของตนไว้ แต่สำหรับไทยแล้ว ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีหุ่นกระบอก แพทองธาร ชินวัตร ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ แถมยังบอกว่าสบายๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่มีปัญหา
nn ในขณะที่ประชาคมโลกที่ติดตามคำพูดของ ลอเรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้รับรู้ว่าผู้นำสิงคโปร์ชาญฉลาดและลึกซึ้งเพียงใด แต่เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของแพทองธารต่อปรากฏการณ์ช็อกโลกโดยการกระทำของทรัมป์ ก็ทำให้ทราบในบัดดลว่า ระดับสติปัญญาของนายกรัฐมนตรีไทยกับของสิงคโปร์นั้นไม่สามารถเทียบกันได้แม้แต่น้อย เพราะนายกฯ
ไทยนั้น นอกจากจะพูดไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว ยังไม่ได้เตรียมการรับมือกับคลื่นสึนามิยักษ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังจะโหมกระหน่ำเข้าสู่ไทย
nn หลังจากสาธารณชนเฝ้าเพียรถามว่า นายกฯ และรัฐบาลไทยวางเกมรับมือกับภัยพิบัติทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดกับไทยในอนาคตอันใกล้อย่างไร ก็ปรากฏว่าไม่มีคำตอบชัดเจนจากนายกฯ ครั้นถามเรื่องทีมทำงานที่จะรับมือและแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่จะตามมา ก็ไม่มีความชัดเจนใดๆ จากปากนายกฯ อีก สรุปคือนางไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย หาสาระใดๆ จากนางมิได้แม้แต่น้อย
nn แพทองธารพูด less for more, more for less กับนักข่าว เมื่อถูกถามเรื่องการแก้ปัญหา tariff มหาโหดจากทรัมป์ ถามว่านางเข้าใจหรือไม่ว่าความหมายจริงๆ ของ less for more, more for less คืออะไร แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับ tariff หรือภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ เก็บจากไทยในอัตรา 36 เปอร์เซ็นต์ อะไรคือ less อะไรคือ more ตกลงว่านางรู้อะไรบ้างกับปัญหาภาษีศุลกากรที่กำลังจะกลายเป็นต้นตอของสงครามการค้าโลกในยุคนี้
nn นายกฯ หว่อง แห่งสิงคโปร์บอกชัดๆ ว่า US tariffs could trigger full-blown global trade war.และบอกชัดๆ ด้วยว่า US President Donald Trump’s recent tariffs might lead to a global trade war if other countries retaliate แปลโดยสรุปว่า ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะเป็นตัวเร่งให้เกิดสงครามการค้าของโลก และนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เพิ่งประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ อาจนำไปสู่สงครามการค้าของโลก ถ้าหากประเทศอื่นๆ ตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรเช่นกัน
nn แต่แพทองธารกลับบอกว่าการที่ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำให้การค้าขายระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ดีขึ้น คำพูดของแพทองธารทำให้คนมีสติปัญญาทุกคนต่างถามตัวเองว่า ตกลงแล้วประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีฉลาดหรือโง่ แล้วคนไทยทั้งประเทศที่อยู่ในยุคนายกฯ คนนี้ เป็นคนโง่หรือฉลาด หากคนไทยส่วนใหญ่ฉลาด ทำไมจึงปล่อยให้ประเทศมีนายกรัฐมนตรีแบบนี้ได้
nn นับเป็นเรื่องสุดพิสดารเช่นกันที่ชาวอเมริกันปล่อยให้ประเทศมีประธานาธิบดีแบบทรัมป์ ทั้งๆ ที่คนอเมริกันอ้างว่าตนเองเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย เชื่อมั่นในระบบการค้าเสรี เชื่อมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและเชื่อมั่นในหลักการสันติภาพ แต่การที่ทรัมป์ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแล้วทำลายหลักการค้าเสรี แล้วทำให้โลกต้องก้าวเข้าสู่สงครามการค้า และอาจจะนำไปสู่ความถดถอยทางเศรษฐกิจหรือสภาวะเศรษฐกิจถดถอย (the great depression)และเป็นการจงใจทำลายระเบียบการค้าโลกในเชิงเสรีอย่างชัดเจนที่สุด หากประชาคมโลกไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมและทันกาล ก็หมายความว่าจะนำไปสู่ปัญหาสภาวะการลงทุนชะงักงัน การบริโภคในประเทศต่างๆ ทั่วโลกหดตัว และเศรษฐกิจของโลกอาจจะไม่ฟื้นตัว หรืออาจจะพังพินาศลงได้ แล้วหากแก้ปัญหาไม่ได้ แต่กลับปล่อยให้ปัญหาบานปลาย โลกอาจเข้าสู่สภาวะสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็เป็นได้
nn ถามใจคนอเมริกันว่า ทำไมปล่อยให้เกิดปัญหานี้ ทั้งๆ ที่มันสุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะนำไปสู่ปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอย หากการเจรจาผ่อนคลายวิกฤตการณ์นี้ไม่ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญคือจะเกิดปัญหาใหญ่ต่อภาคการผลิต เพราะไม่มีความมั่นใจว่าจะค้าขายกันอย่างไรต่อไป เมื่อไม่มั่นใจก็ไม่มีการผลิตใหม่ๆ ออกมา ปัญหาต่อมาคือเงินเฟ้อจะหนักมากขึ้น กำลังซื้อจะหดหายไป
nn มีการตั้งคำถามว่าทรัมป์ต้องการให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ คำตอบนี้ต้องให้ทรัมป์ตอบด้วยตัวเอง แต่หากวิเคราะห์การกระทำของทรัมป์ในเรื่องการสุ่มเชื้อเพลิงด้านสงครามการค้าแล้ว ก็พอจะคาดได้ว่า หากแก้ปัญหานี้ไม่ได้ โลกใบนี้ก็เสี่ยงจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้โดยไม่ยาก
nn ในยุคทศวรรษ 1930 สหรัฐฯ มีประธานาธิบดีคนที่ 31 ชื่อเฮอร์เบิร์ต คลาร์ก ฮูเวอร์ ในยุคนั้นได้เกิดปัญหา great depression โดยมีต้นตออย่างหนึ่งของปัญหาคือกำแพงภาษีแบบบ้าคลั่งของฮอว์ลีย์และสมูท (Hawley and Smoot Tariff Act) ที่ออกมาป่วนโลกในปี 1930 แล้วก็มีข่าวว่าทรัมป์ยึดถือฮูเวอร์เป็นต้นแบบของประธานาธิบดีในฝันของเขาด้วย แต่ก็หวังว่าทรัมป์คงไม่ลากโลกใบนี้ไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3
nn จีนจะไม่มีวันยอมให้ทรัมป์กดหัวจีนเป็นอันขาด แล้วก็ไม่มีวันที่จีนจะยอมให้ทรัมป์เล่นงานจีนฝ่ายเดียว รอดูการเอาคืนสหรัฐฯ โดยจีนก็แล้วกัน รับรองว่าไม่เบาเลย คราวก่อนๆ นั้น สี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีน อาจจะบอกว่าสีทนได้ สีทนได้ แต่มาวันนี้สีไม่ทนแล้ว แล้วเมื่อสีไม่ทน ก็หมายความว่าทรัมป์ต้องเจอกับหมัดเด็ดของสีอย่างแน่นอน
nn โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กัว เจียคุน โพสต์ภาพดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดิ่งหัวลง แล้วลงข้อความว่า สงครามการค้า และกำแพงภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ ก่อการไว้ได้เริ่มแล้ว
เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมและไร้เหตุผลมาก แน่นอนว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นทั่วโลกคงจะดิ่งลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาทางบรรลุปัญหาวิกฤตภาษีศุลกากรแบบบ้าคลั่งของสหรัฐฯ ได้ แต่ก็หวังว่าคนอเมริกันจะไม่ทนไม่ยอมให้ทรัมป์ลากเขาเหล่านั้นไปลงนรกพร้อมกันทั้งประเทศ ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าน่าจะมีคนคนหนึ่งลุกขึ้นมาจัดการกับทรัมป์นั้น ก็ได้แต่รอว่าวันไหนกันแน่ที่ทรัมป์จะถูกจัดการ แต่ขอร้องว่าอย่าให้มีการลอบยิงลอบทำร้ายกันเลย มันป่าเถื่อนสิ้นดี และหวังว่าจะไม่มีใครลอบยิงทรัมป์อีก
nn ปิดท้ายด้วยเรื่องน่าสมเพชเมื่อเห็นรายชื่อคณะทำงานที่รัฐบาลอ้างว่าตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาไทยถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบบ้าเลือด แค่เห็นชื่อพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นหัวหน้าทีมก็ลมจับ สลบเหมือดแล้ว อนิจา! ประเทศไทยยุคแพทองธารเป็นนายกฯ คิดได้เท่านี้เองหรือ น่าสลดใจยิ่งนัก...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี