หมู่บ้านกระสุนตก แท้จริงเป็นสำนวนที่ใช้ในวงการเมืองมากกว่าใช้ในทางอื่น โดยเป็นการ “พุ่งเป้า” ไปที่นักการเมืองหิวแสงบางรายหรือพรรคการเมืองบางพรรคที่มีพฤติกรรมสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง

โดยเฉพาะนักการเมืองหิวแสงที่สร้างตนขึ้นมาเป็นระดับ “ดาวฤกษ์” ด้วยการทำตัวเป็น “ลี้คิมฮวงจอมปามีดสั้น และเป็นจางซูยี่ขยันขว้างมีดบิน” ใส่นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม

ฉับพลันที่จอมหิวแสงพลาดพลั้งด้วยพฤติกรรมที่ “สุดฉาว” ก็จะถูกทั้งสื่อทั้งสังคมทุกภาคส่วนและนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม“รุมกันขยี้ขย้ำ” จนเกิดรายการ “หมู่บ้านกระสุนตก” เป็น“ข่าวสุดดังอย่างต่อเนื่อง”

“อย่างกรณีท่านปากจู๋เนกไทแดง และท่านมหาเศรษฐีเบอร์1ของโลก ซึ่งเป็นคู่หูคู่ฮาขยันขยี้ขย้ำคุณภาพชีวิตของชาวโลกกว่า 8,000 ล้านคนจนถดถอย วันนี้ก็ถูกชาวโลกสวดชยันโตและรุมสวดกงเต๊ก จนต้องใช้สำนวน สองผู้เฒ่าอยู่ในบ้านกระสุนตก”

“เหลียวมาดูสารขัณฑ์” ท่านโยคีศานติศีลก็เป็น “ตัวยืน”ที่อยู่ในหมู่บ้านกระสุนตก เพราะมีพฤติกรรม “17 ปีบนเส้นทางอำนาจ ตูข้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง”

สำหรับ “หมู่บ้านกระสุนตก” ในนครสารขัณฑ์ ที่ชาวสารขัณฑ์ 70 ล้านคน ต่างยิงขีปนาวุธเข้าใส่เป็นห่าฝน น่าจะเป็น “หมู่บ้านสตง.” ที่เป็น “ข้าราชการยิ่งใหญ่กว่าข้าราชการทั้งปวง” เพราะตรวจสอบผู้อื่นอย่างสุดเข้มข้นทะลุเมฆมายาวนาน

วันนี้ หมู่บ้านกระสุนตก นามว่าสตง. ก็ถูกทุกภาคส่วนตรวจสอบย้อนกลับบ้างอย่างเข้มข้น ที่ “ไม่โปร่งใส” กับการสร้างสำนักงานสตง.แห่งใหม่สูง 33 ชั้น

โดยปรากฏว่า กลายเป็น “ตึกเต้าหู้ยี้” ที่เปราะบางถล่มทลายอย่างสุดง่ายดาย สังหารชีวิตคนงานร่วม 100 ราย ในรายการ“แผ่นดินไหวในพม่าไกลสุดขอบฟ้า แต่ตึกสตง.ถล่มราบเป็นหน้ากลอง อย่างสุดจัญไร?”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม