เหตุโศกนาฏกรรมอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่มผ่านไปนาน 2 สัปดาห์แล้ว คนงานที่ตายก็ตายไป คนงานที่เจ็บป่วยก็รักษากันไป คนงานที่สูญหายก็ยังคงหายตัวไม่พบ แต่ที่สำคัญคือสังคมไทยได้ประจักษ์อีกครั้งว่า หลังจากอาคารดังกล่าวถล่ม ก็ได้ยินคำพูดชนิดคุยโวโม้สนั่นจากปาก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า จะสอบหาความจริงเรื่องนี้ภายในหนึ่งสัปดาห์
แต่ครั้นเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ อนุทิน ก็ออกมาให้ข่าวว่ายังไม่สามารถบอกกล่าวความจริงกับสังคมได้ แต่ต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่งแต่ครั้งนี้ไม่ยอมกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนว่าขอเวลากี่วัน
ส่วนแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ประกาศว่าจะติดตามเรื่องนี้แล้วนำความจริงมาเสนอให้สาธารณชนทราบ โดยทำเป็นพูดแบบขึงขังว่า ต้องทำความจริงให้กระจ่างเพื่อให้โลกรับรู้ความจริง
แต่มาถึงบัดนี้ยังไม่พบว่าทั้งแพทองธาร และอนุทินจะออกมาตอบเรื่องอาคาร สตง. ถล่มให้กระจ่างชัด แถมยังดูเสมือนเงียบไปเสียอีก แต่สำหรับแพทองธารออกมาอ้างว่าต้องทำความจริงเรื่องตึกถล่มให้กระจ่างภายใน 90 วัน
เวลาเราเห็นแพทองธารบอกว่าต้องสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้ตึก สตง. ถล่มอย่างใกล้ชิด และต้องให้รายละเอียดอย่างชัดเจน ใช้กระบวนการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด แล้วต้องประกาศความจริงให้โลกรับรู้
ขออภัยจริงๆ ที่ต้องหัวเราะเมื่อได้ยินแพทองธารพูดเช่นนั้น ถามว่าหัวเราะทำไม ตอบว่าหัวเราะเพราะมันดูเสมือนว่านายกรัฐมนตรีทำงานสุดแสนจะขึงขังเอาจริงเอาจังเสียเหลือเกิน แต่ทว่ามันคือการเล่นละครเท่านั้น
ถามจริงๆ เถอะ จำเป็นหรือที่นายกรัฐมนตรีต้องย้ำว่าให้สอบหาสาเหตุอย่างใกล้ชิด แล้วแจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริงกับสังคม แล้วให้ใช้กระบวนการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด หากนายกรัฐมนตรีไม่ย้ำในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสอบหาสาเหตุจะไม่ติดตามงานหรือแล้วจะไม่ใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดไปลงโทษหรือ
ไม่จำเป็นที่นายกรัฐมนตรีต้องพูดเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องกระทำอยู่แล้ว เพราะมันคือหน้าที่ แต่หากเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน หรือทำงานไม่มีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรีก็ต้องใช้อำนาจของประมุขฝ่ายบริหารลงไปจัดการขั้นเด็ดขาด เพื่อให้ความจริงปรากฏและเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง ขอย้ำว่าหน้าที่สำคัญของนายกรัฐมนตรี คือ ต้องทำให้งานบรรลุผลสำเร็จให้ได้ เพราะมันคือหน้าที่สำคัญของนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีต้องบอกความจริงกับสังคมให้ได้ด้วย
การรับปากแล้วไม่สามารถทำได้จริง ทำให้สาธารณชนวิพากษ์ว่าเป็นการรับปากแบบส่งเดช หรือรับปากแบบขอไปทีของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับปากไปเพื่อให้สังคมดูเสมือนว่าผู้มีอำนาจรัฐได้ทำงานแล้ว
มีเรื่องมากมายหลายสิบหลายร้อยเรื่องที่รัฐบาลคุยโวว่าจะทำให้สำเร็จ หรือทำความจริงให้ปรากฏ แต่สาธารณชนก็ได้ประจักษ์แจ้งแล้วว่าเป็นเพียงลมปากของรัฐบาลเท่านั้น
สาธารณชนวิพากษ์ว่าในที่สุดแล้วเรื่องตึก สตง. ถล่มจะเงียบหายไป เหมือนกับทุกๆ เรื่องที่เคยเป็นข่าวใหญ่ในสังคมไทย แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เรื่องแบบนี้ถูกวิพากษ์ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของรัฐบาลขี้คุยขี้โม้ ดีแต่ปาก แต่ไร้ฝีมือบริหารประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี