สำนักซินหัว รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 เมษายน ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เตรียมเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนาม มาเลเซีย และ กัมพูชา อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 14-18 เมษายน นี้ ในฐานะแขกของรัฐบาลทั้งสามประเทศ
ทั้งนี้ ภารกิจของผู้นำจีน จะเริ่มจากเวียดนาม โดย ประธานาธิบดีสี เยือนเวียดนาม ตามด้วยการเยือนมาเลเซีย ซึ่งทำหน้าที่ ประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประจำปี 2025 ระหว่างวันที่ 15-17 เมษายน และ ปิดท้ายด้วยการเยือน กัมพูชา ระหว่างวันที่ 17-18 เมษายน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับสามประเทศอาเซียนอย่างมีนัย อาจเป็นเพราะว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ กำลังร้อนถึงขั้นปรอทแตก และ ประเทศเวียดนาม กับ กัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศร่วมยุทธศาสตร์รอบด้าน รวมถึงการร่วมอนาคตกับจีน แสดงท่าทีอ่อนข้อต่อคำขู่ของประธานาธิบดีทรัมป์
ในขณะที่ จีนประกาศทำสงครามการค้ากับสหรัฐ แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน นั้นคงเป็นเหตุผลสำคัญที่ประธานาธิบดีสี ต้องปลอบใจ เวียดนาม และ กัมพูชา ว่า อย่าหวั่นไหวไปกับคำขู่ของ ทรัมป์
ส่วนมาเลเซีย ในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียน ที่แสดงท่าที ไม่ยอมทำตามคำขู่ของสหรัฐ ประธานาธิบดีสี จึงต้องสร้างแนวร่วมทำสงครามการค้ากับชาติอาเซียน ประธานาธิบดีสีจึงให้ความสำคัญในการเยือนอาเซียนครั้งนี้ แต่เป็นปริศนาว่า ทำไม ประธานาธิบดีสี จึงไม่แวะประเทศไทย สักสองสามชั่วโมงก็ยังดี ในฐานะที่ปีนี้ ฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-จีน
เป็นไปได้ไหมว่า ประธานาธิบดีสี ไม่มีความประสงค์ จะทวิภาคีกับ iPad ไทย เพราะท่านเคยเตือนว่า “กาสิโน” นำความหายนะมาสู่ประเทศชาติ แต่ iPadไทย เถียงท่านว่า มี กาสิโน เพียง 10% เอง ดังนั้น เรื่องสงครามการค้ามันซับซ้อนเกินกว่า iPad ไทยจะเข้าใจได้การแวะเยือนประเทศไทย จึงเป็นการเสียเวลาในขณะที่สงครามการค้าเข้าสู่ภาวะวิกฤต
ในเวลาเดียวกันปักกิ่งมั่นใจว่า วอชิงตันกำลังเพลี่ยงพล้ำในสงครามการค้า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จึงใช้โอกาสนี้ปลุกใจอาเซียน และ เวียดนาม กัมพูชา ว่า ยืนอยู่ข้างจีน มีแต่ วิน วิน
ในขณะที่ คู่สงครามการค้ากำลัง “หนีญญ่ายพ่ายจแจ้น” พิสูจน์ได้จากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งชะลอขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ไปอีก 90 วัน แต่ยังคงเก็บภาษีพื้นฐาน 10% กับ 75 ประเทศต่อไป
จีนจึงฉวยโอกาสที่ศัตรู “หนีญญ่าย พ่ายจแจ้น”รุกรบในสงครามการค้า เดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐ 125% และมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนไปเป็นต้นไป โดยจีนกล่าวว่า สหรัฐละเมิดระเบียบการค้าเสรีและการค้าพหุภาคีขององค์การการค้าโลก หรือ WTO
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง รู้ทันว่า ที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ เลื่อนเก็บภาษี แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่บอกใครล่วงหน้าว่า แสดงว่าต้องการปั่นหุ้น ที่ทำให้คนรู้ข้อมูลภายในได้กำไร เป็นพันล้าน หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากว่าตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีทั่วโลก ตั้งแต่ 10% ถึง 145% มากน้อยลดหลั่นกันไป ทำให้ตลาดหุ้นตลาดทุนในอเมริกา และ ทั่วโลกปั่นป่วนอย่างหนัก โดยเฉพาะในอเมริกาหุ้นดิ่งลงถึงพื้นติดต่อกันหลายวันตลาดพันธบัตรลดค่าลง 8%
และ ในทันทีที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศเลื่อนเก็บภาษีออกไปอีก 90 วัน หุ้นในวอลสตรีทพุ่งทะยานทะลุถึงเพดาน นักลงทุนที่รู้ข้อมูลภายใน ช้อนซื้อหุ้นไว้ล่วงหน้า ได้กำไรเป็นพันล้านหมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเหมือนกับตอนที่ประเทศไทยลดค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 คนที่รู้ข้อมูลภายในล่วงหน้า ตุนเงินดอลลาร์ หรือสมคบกับทุนใหญ่ในอเมริกา ค้ากำไรจากลดค่าเงินบาท มั่งคั่งขึ้นทันตา 5,000 กว่าล้านบาท และใช้เงินที่ได้จากเอาเปรียบคนไทย ไปซื้อนักการเมืองไว้ในสังกัด เหมือน ซื้อวัว ซื้อควาย ที่ขายกันยกคอก ในขณะที่คนไทยทั่วไปหายนะกันถ้วนหน้า
สื่อต่างประเทศรายงานว่า นอกจากจีนรู้ทันการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แล้ว จีนยังมีอาวุธสำคัญที่สามารถคว่ำสหรัฐได้ หากจีนจะเอาเป็นเอาตายกับสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า กระทรวงการคลังจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐจาก 84% เป็น 125% มีผลตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนนี้โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 145%
โดยในแถลงการณ์ ระบุว่า จีนจะไม่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากกว่านี้อีก เนื่องจากไม่มีความเป็นไปได้ ที่สินค้าสหรัฐที่ส่งออกไปยังจีนภายใต้อัตราภาษีปัจจุบัน จะได้รับการยอมรับจากตลาดอีกต่อไป ดังนั้น หากสหรัฐ ยังคงเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ส่งออกไปยังสหรัฐต่อไป ฝ่ายจีนก็จะไม่สนใจเรื่องนี้
สำนักข่าวเอ็นบีซีมีข้อมูลว่าตามรายงานของ Ginnie Mae ณ สิ้นเดือนมกราคม 2025 ต่างประกาศถือครอง “พันธบัตรค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย” (Mortgage Backed Security=MBS) ของสหรัฐอเมริกา 1.32 ล้านล้านดอลลาร์
หากจีนต้องการทุบสหรัฐด้วยหมัดน็อกก็ปล่อยทรัพย์ส่วนนี้ คิดว่า อเมริกาจะคางเหลืองไหม? แน่นอนหากจีนเทขาย MBS สหรัฐไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต กาย ซีกาล่า ซีอีโอ ของ สถาบันจำนองสินทรัพย์ (Mortgage Funned) กล่าว และ เสริมว่า การเทขาย MBS จะสร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย
นั้นคือ ยุทธศาสตร์สงครามการค้า ที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง นำคำสอน ซุน วู ที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” มาประยุกต์ใช้ ทำสงครามการค้า กับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งประธานาธิบดีสี รู้ว่า ไพ่ในมือทรัมป์ ไม่มีแต้มต่อแต่ขู่ให้คู่ต่อสู้หมอบ และหลายประเทศยอมหมอบจริงดังที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ พูดว่า หลายประเทศมอบราบคาบแก้ว บอกยอมแล้วๆ ได้โปรดกรุณา อย่าขึ้นภาษีเราเลย ให้เรายินดี Kiss Ash ของท่านก็ได้ เพียงแต่ท่านไม่ขึ้นภาษีเรา
การขู่ของ ทรัมป์ ทำให้ประธานาธิบดีสี อ่านออกว่า ทรัมป์ไม่มีไพ่แต้มต่ออยู่ในมือ จึงเกทับทันที โดยขึ้นภาษีสินค้าจากอเมริกา 125% มีผลบังคับใช้ทันที
นอกจากเกทับประธานาธิบดีทรัมป์ แล้วประธานาธิบดีสี ยังรู้ด้วยว่า iPad ไทย ยกคำสอนของ ซุน วู ที่ว่า “รู้เขา รู้เรา” มาใช้ โดยไม่เข้าใจในปรัชญา ซึ่งความจริง iPad ไทยควรพูดว่า
“รู้เขลา” เหมาะสมกว่า ที่ไปเสนอซื้อสินค้าเกษตร ซื้อเครื่องบิน และอื่นๆ จากอเมริกา เพื่อแลกกับสหรัฐ ไม่ขึ้นภาษีนำเข้าจากไทยถึง 36%
นี่คงเป็นคำตอบของปริศนาว่า ทำไมประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ไม่แวะเยือนประเทศไทย ในวาระโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-จีน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี