นายเลียง ไชยกาล ผู้แทนราษฎรเมืองอุบลราชธานีนั้น ถือได้ว่าเป็นผู้แทนฯ จอมกระทู้ท่านหนึ่งของสภาฯยุคแรก ท่านเคยถามเล่นงานรัฐบาลบ้าง หรืออภิปรายเข้าข้างรัฐบาลบ้าง ที่เล่นงานรัฐบาลนั้นก็พอประมาณไม่รุนแรงถึงขั้นจะล้มรัฐบาล แต่มาคราวนี้ในปีพ.ศ. 2480 นายเลียง จะไปได้แรงหนุนจากใครมาก็ไม่ทราบได้ จึงได้ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเรื่องเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินของพระคลังข้างที่ อันเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี และผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ ระดับสำคัญ ในแผ่นดินหลายคน ตอนแรกคนคงนึกว่าเป็นการถามหาคำตอบตามปกติ แต่กลายเป็นกรณีใหญ่โตขึ้นมา เรื่องเกิดขึ้นในวันประชุมสภาวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2480 นายเลียง ไชยกาล อภิปรายว่าตนขอทำหน้าที่ควบคุมรัฐบาลโดยการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี
“ข้อ 1. กรมพระคลังข้างที่เดิมขึ้นกับสำนักงานนายกรัฐมนตรี และโอนไปขึ้นกระทรวงการคลัง… ได้มีการโอนขายอสังหาริมทรัพย์ของกรมพระคลังข้างที่มากที่สุด…”นายเลียง เผยรายชื่อผู้ซื้อดังนี้ 1. พระยาฤทธิฯ ซื้อที่ดินสองแปลงที่บางรัก 2. นายวิลาศ โอสถานนท์ ซื้อที่ดินหนึ่งแปลงที่บางรัก หลวงนิเทศ ซื้อที่ดินหนึ่งแปลงที่ อำเภอพระนคร หลวงชำนาญนิติเกษตร ซื้อที่ดินหนึ่งแปลงที่บางรัก หลวงอรรถสารประสิทธิ์ ซื้อที่ที่ดินหนึ่งแปลงที่บางรัก นายจำนงค์ราชกิจ (อยู่กับพระองค์เจ้าอาทิตย์) ซื้อหนึ่งแปลงที่อำเภอพระนคร ร.อ.กระวี ฉัตรภูติ ซื้อแปลงที่อำเภอดุสิต ร.อ.กุหลาบ ซื้อหนึ่งแปลงที่สำเพ็ง หลวงยุทธศาสตร์ (เลขาหลวงพิบูลย์) ซื้อหนึ่งแปลงที่อำเภอบางซื่อ พระดุลย์ธารณ์ปรีชาไวท์ ซื้อหนึ่งแปลงที่สำเพ็ง และยังมีอีกหลายหลายแต่หาหลักฐานยังไม่ได้
ในข้อนี้ถามว่ามีความจริงเพียงไร นอกจากนั้นนายเลียง ยังถามอีกว่า “ราคาที่ขายนั้น ถูกมากใช่หรือไม่… เหตุใดจึงไม่ประกาศขายให้มหาชนรู้เพื่อที่จะซื้อ เพราะเรื่องนี้ปรากฏว่าขายให้พวกกันเองแทบทั้งนั้น… ข้าพเจ้ายังประมาณราคาได้ว่าที่ขายนั้นมันถูกอย่างน่าสงสัยนัก และเรื่องนี้ท่านจะทำดัง ต่อไปนี้ได้หรือไม่ คือประกาศให้มหาชนซื้อ รายนี้โดยเงินสดถ้าได้มากกว่านี้แล้วให้ไล่เจ้าหน้าที่ ออกจากราชการ และฟ้องลงโทษ ถ้าไม่ได้ราคาดีกว่าที่ขายอยู่นั้นข้าพเจ้าขอลาออกจากสภาผู้แทนราษฎรโดยไม่สมัครอีกตลอดชีวิตเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกัน” นายเลียง ท้าพิสูจน์อย่างเข้มข้น
นายเลียง ไชยกาล อภิปรายรุกฆาตต่อ “ท่านทราบหรือไม่ว่าที่ดินแทบทุกแห่งที่ขายคราวนี้ มีลักษณะที่น่าสนใจอยู่ข้อหนึ่งคือรายได้จากที่ดิน ไล่เลี่ยกันกับเงินค่าซื้อผ่อนส่ง… เช่นที่ดินรายที่ขายให้พระดุลย์ธารณ์ปรีชาไวท์ ได้ค่าเช่าเดือนละ 150 บาท ผ่อนส่งเดือนละ 100 บาทเป็นต้น”
ที่นายเลียง ไชยกาล อภิปราย จะเป็นความจริงขนาดไหนก็ไม่ทราบ แต่เมื่อนายกรัฐมนตรี ชายชาติทหาร นายพันเอก พระยาพหลฯ ได้ยืนขึ้นตอบ ท่านยอมรับกลางสภาฯว่ามีการซื้อขายจริง และท่านยังใจกว้างยอมให้นายไต๋ ปาณิกบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนคร เปิดอภิปรายทั่วไปได้ตามที่ขอดังนั้นจึงมีการอภิปรายในสภาฯต่อมาจนค่ำจึงเลิกประชุมสภา
ในค่ำวันนั้นเอง นายพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาก็ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงเห็นได้ว่าเสียงเดียวของนายเลียง ไชยกาล ที่ตั้งกระทู้ ได้ทำให้รัฐบาลล้มลงได้ทันที แต่ผู้คนก็สงสัยว่าใครเป็นไอ้โม่งที่ต้องการให้พระยาพหลฯลาออกจากนายกรัฐมนตรี และให้ข้อมูลต่างๆแก่นายเลียง ไชยกาล บางคนเพ่งเล็งไปที่นายพันโท หลวงพิบูลสงคราม แต่ที่จริงไม่น่าใช่ เพราะหลวงพิบูลฯเองก็มีรายชื่อเป็นผู้ที่ซื้อที่ดินของพระคลังข้างที่ในบริเวณนั้นอยู่ด้วยคนหนึ่ง แต่เหมือนนกรู้ ท่านได้รีบคืนที่ดินที่ตนซื้อมากลับให้พระคลังข้างที่ ดังที่ ปรากฏอยู่ในรายงานผลสอบสวนของคณะกรรมการเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินของพระคลังข้างที่ ครั้งนั้น
เรื่องนี้จบลงที่สภาฯ ได้เลือกพระยาพหลฯกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แสดงว่าผู้ที่วางแผนล้มพระยาพหลฯยังลังเลที่จะเข้ามาตอนนี้
นรนิติ เศรษฐบุตร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี