ประเทศไทยในยุค“ทักษิณ ชินวัตร-คิด” และ“รัฐบาลเพื่อไทย-ทำ”โดยมี“แพทองโพย”เป็น“นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด”ให้บิดา“ชักใย”นั้น นอกจากประชาชนจะไม่“มีกิน-มีใช้”แล้วประเทศชาติบ้านเมืองก็ยัง“ไร้เกียรติ-ไร้ศักดิ์ศรี”อีกด้วย
เพราะการที่สหรัฐอเมริกาขอเลื่อนการเจรจาเรื่อง“มาตรการภาษี”ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้า“คณะทีมไทยแลนด์” จากที่จะมีการประชุมเจรจาในวันที่ 23เมษายนคือวันนี้ออกไปโดยไม่มีกำหนดนั้น ชัดเจนที่สุดว่าสหรัฐฯไม่เห็น“หัวไทย”อยู่ในสายตาจะเรียกว่าเป็นการหมิ่นหยามศักดิ์ศรีกันก็ไม่ผิดนัก
ย้อนกลับไปดู-วันที่ 17 เมษายน 2568“มาดามแพทองโพย”ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลชนิดที่ยิ้มแก้มบานในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียนพบปะเจรจาอย่างลับๆ ล่อๆ กับอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตัวจริงของไทยและ“มิน อ่อง หล่าย” ผู้นำรัฐทหารเมียนมา ที่โรงแรมโรสวูดของ“ตระกูลชินวัตร”ว่าสหรัฐฯได้ตอบรับการเจรจากับประเทศไทย โดยได้คิวในการเข้าพบอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เมษายน 2568
“มาดามแพทองโพย”เปิดเผยในวันนั้นว่า การเจรจาครั้งนี้ เป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีโดยฝ่ายไทยจะนำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร พร้อมทั้งบอกว่า “มั่นใจว่าข้อเจรจาที่เราเตรียมการไว้จะเป็นข้อเสนอที่ดีที่จะมีการพูดคุยกับทางสหรัฐฯให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ในลักษณะของ Win Winร่วมกัน”
ปรากกฎว่า ถัดมาอีกสี่วัน คือวันที่ 21 เมษายน 2568 ในช่วงหัวค่ำเมื่อสองวันก่อนมีข่าวเปิดเผยว่าสหรัฐอเมริกาขอเลื่อนการเจรจากับ“ทีมไทยแลนด์”ออกไปโดยไม่มีกำหนดถามว่านี่หรือที่บอกว่าเป็นมิตรประเทศกัน และ“มาดามแพทองโพย”เองก็ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวตอนให้สัมภาษณ์เรื่องสหรัฐฯตอบรับเจรจาว่า“ทางทีมไทยแลนด์มีข้อเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ ค่อนข้างแข็งแรงพอสมควร โดยมั่นใจผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ เพราะเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยมายาวนานการพูดคุยจึงน่าจะเกิดผลที่ดีกลับมา”
การตบหน้าของสหรัฐฯที่เลื่อนการเจรจาออกไปโดยไม่มีกำหนดจึงไม่ใช่การแสดงออกของมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมายาวนานเช่นที่“มาดามแพทองโพย”พูด และก็ไม่ใช่อย่างที่“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็นบิดาคุยโม้โอ้อวดที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า“ได้มีการพูดคุยกับคนรอบๆ ตัวโดนัลด์ ทรัมป์ หลายคน ซึ่งคิดว่าก็อยู่ในภาวะที่พูดคุยกันได้”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 เมษายนเมื่อวานนี้“มาดามแพทองโพย”ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่สหรัฐฯเลื่อนการเจรจาโดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหน้าเดิมของพรรคเพื่อไทยมายืนเป็นพระอันดับเสริมบารมี“คุณหนูนายน้อย” เป็นการแถลงด้วยการอ่านไอแพดแบบพูดคำย้ำคำในลักษณะที่ไม่มั่นใจตนเองและใช้ภาษาไทยคำฝรั่งคำ ถึงสาเหตุที่สหรัฐฯเลื่อนการเจรจาว่า “มีสาระสำคัญที่สหรัฐฯรีเควส (request :ข้อเรียกร้อง)กลับมา ให้เราทบทวนในเรื่องที่จะไปเจรจา และจะมีการนัดหมายกันใหม่อีกครั้ง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายประเทศมีภาพปรากฏว่าเข้าไปเจรจากับสหรัฐฯแล้ว-ไทยช้าเกินไปหรือไม่,“มาดามแพทองโพย”ตอบว่า “เราไม่ได้ช้าเกินไป เรามีเวลา 90 วันที่สหรัฐฯยกเว้นการขึ้นภาษีและได้คุยกับทีมงานที่เป็น Working Team อย่างไม่เป็นทางการ ว่าเรื่องไหนที่จะมีการหารือกัน เช่นบางเรื่องภาษีของสินค้าสหรัฐฯที่นำเข้ามาขายในไทยเสียภาษีแพงเกินไป เราดูว่าจะปรับให้สมเหตุสมผลเช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศ เรามีเวลาที่จะปรับ พูดจริงๆ ว่าทีมทำงานละเอียดพอสมควรยืนยันว่าไม่ช้าเกินไป” ส่วนถ้ามีการนัดหมายใหม่อีกครั้ง จะเดินทางไปเจรจาด้วยตนเองหรือไม่นั้น“มาดามแพทองโพย”ตอบว่า“เดี๋ยวดูระดับการเจรจากันก่อน แต่ตัวดิฉันพร้อมอยู่แล้วที่จะไปพูดคุยเจรจา
และมีอีกหลายประเด็นที่ผู้สื่อข่าวยิงคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ คำตอบที่ได้จาก“มาดามแพทองโพย” ก็คือ “อ๋อเดี๋ยวท่านรัฐมนตรีพิชัย (ชุณหวชิร) จะเป็นคนแถลงในรายละเอียดค่ะ”หรือไม่ก็ตอบในลักษณะ“ถามม้าตอบช้าง” หรือ“ถามวัวตอบกระบือ”
เช่นว่า-ผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจกับภาวะเศรษฐกิจของไทยตอนนี้หรือไม่, “มาดามแพทองโพย”ตอบว่า“เศรษฐกิจทั่วโลกฝืดเคืองพร้อมๆ กัน เราต้องค่อยๆ จัดการอย่างรอบคอบ ต้องมีการพูดอย่างต่อเนื่องด้วย”,ผู้สื่อข่าวถามว่าลำบากใจไหม, “มาดามแพทองโพย”ตอบว่า “คิดว่าทีมทุกคนยังทำงานอยู่ ไม่ได้ทิ้งไปไหนยังอัพเดตอยู่ นอกจากนี้ยังมีคนนอก ครม. นักวิชาการต่างๆ ที่เราปรึกษาในหลายๆ ทางมีความเห็นจากหลายภาคส่วน คิดว่าทำดีที่สุดในสถานการณ์นี้”
อีกคำถามหนึ่ง-สหรัฐฯขึ้นภาษีจะส่งผลกระทบนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเกี่ยวกับการแจกเงิน“ดิจิทัล 1หมื่นบาท”หรือไม่, “มาดามแพทองโพย”ตอบว่า “ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมในส่วนที่เราปรับปรุงได้เราจะทำได้แค่ไหน แต่แน่นอนว่าเราต้องดูผู้ประกอบการและเกษตรกรของเราด้วยว่าที่ส่งออกไปจะเป็นอย่างไรและการนำเข้าสินค้าจำเป็นของสหรัฐฯเราจะเพิ่มได้ไหม เพื่อให้เกิด WIN WIN ทั้งสองฝ่ายพยายามจะรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร และผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด”
เฮ้อ ! ประเทศไทยยุค“WIN WIN”ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยการนำของ“มาดามแพทองโพย”ที่มีแต่ทำให้คนไทย“ไม่มีกิน-ไม่มีใช้-ไม่มีเกียรติ-ไม่มีศักดิ์ศรี”
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี