วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพุธ ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ความเห็นแย้งฯ ที่อาจทำให้ใครนอนไม่หลับ

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดีร่วมกันกระทำผิดเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยานความเร็วรถยนต์ฯ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ผู้ต้องหา เพื่อให้พ้นผิด หรือรับโทษน้อยลง

1. ศาลพิพากษา จำคุก 3 ปี นายเนตร นาคสุข


จำคุก 2 ปี นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม

และยกฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมจำเลยที่เหลือ 5 ราย

2. คำพิพากษาศาลบางตอน

ศาลพิเคราะห์ว่า นายชัยณรงค์ จำเลยที่ 4 เข้าไปโดยอวดอ้างตน “ขอความกรุณา ไม่ให้เกิน 80 เพราะตามกฎหมายไม่ให้เกิน 80” ซึ่งทุกคนในห้องได้ยินชัยณรงค์กล่าวอ้างสถานะและบทบาทหน้าที่การเป็นอัยการ ศาลมองว่าชัยณรงค์ใช้สถานะตัวเองแทรกแซงพนักงานสอบสวนไม่ให้ทำหน้าที่อิสระ เป็นการกระทำความผิดส่วนตัว

นายเนตร จำเลยที่ 8 อดีตรองอัยการสูงสุด ศาลฯ พิจารณาว่า ใช้อำนาจสั่งฟ้องคดีโดยมิชอบ มีเจตนาช่วยเหลือนายวรยุทธให้ได้รับโทษน้อยลง จากการรับฟังพยาน 2 ปากที่ได้มาให้การใหม่เรื่องความเร็วรถซึ่งผ่านมานานแล้ว ทำให้คำให้การของพยานไม่น่าเชื่อถือ แต่จำเลยที่ 8 ใช้ดุลพินิจไม่ชอบ ทั้งที่ตัวเองเป็นอัยการระดับสูง ควรต้องใช้ดุลพินิจโดยรอบคอบ อีกทั้งศาลเห็นว่าจำเลยที่ 8 วินิจฉัยคดีโดยไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ ทั้งที่ควรนำตัวนายวรยุทธเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้องค์กรอัยการเสียหาย

พิพากษาว่า นายชัยณรงค์ จำเลยที่ 4 มีความผิด สั่งจำคุก 2 ปี

นายเนตร จำเลยที่ 8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 สั่งจำคุก 3 ปี

และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1-3 และ 5-7

ที่น่าสนใจ คือ ศาลให้ออกหมายขัง จำเลยที่ 1-3 และ 5-7 ระหว่างอุทธรณ์

คือ ให้ขังระหว่างอุทธรณ์ แม้ว่าจะยกฟ้องจำเลยเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม จำเลยทุกคนก็มีสิทธิประกันตัว

3. แต่ที่อาจทำให้จำเลยคดีนี้ นอนไม่หลับต่อไป คือ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้ทำความเห็นเเย้ง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 8 คน

เนื้อหาและถ้อยคำในความเห็นแย้ง มีเหตุผลแน่นหนา น่าสนใจมาก

บางตอนเช่น

“....ตามภาพจากกล้องวงจรปิดถนนบริเวณที่เกิดเหตุค่อนข้างโล่ง การจราจรไม่หนาแน่น และ ความเร็วของรถยนต์ที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดแล่นด้วยความเร็วสูง การเฉี่ยวชนของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์คันที่นายวรยุทธและดาบตำรวจวิเชียรขับชนกันลักษณะขับตามกันไป

เมื่อพิจารณา สภาพแวดล้อมทั้งหมดและความเสียหายของรถทั้งสองคันแล้ว ความเร็วของรถยนต์คันที่นายวรยุทธขับ และพันตำรวจเอกธนสิทธิคำนวณความเร็วได้ในครั้งแรกนั้น แม้จะมีความคลาดเคลื่อนของความเร็วรถยนต์ไปบ้าง ความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธขับก็น่าจะเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างแน่นอน

จึงฟังได้ว่าการสอบปากคำพันตำรวจเอกธนสิทธิเพิ่มเติมทั้งสองครั้ง เกี่ยวกับวิธีการคำนวณหาความเร็วของรถยนต์คันที่นายวรยุทธขับและมีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์ลงเหลือ 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น มีเจตนาและวัตถุประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์คันที่นายวรยุทธ ขับให้ลดลงเหลือต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกินกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนดและเพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธในการที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

และพันตำรวจเอกธนสิทธิลงลายมือชื่อในคำให้การเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์ในการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งสองครั้ง เนื่องจากถูกโน้มน้าว กดดันให้ลงลายมือชื่อโดยไม่ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกคำให้การด้วยความสมัครใจ

การเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์มีการกระทำกันเป็นขบวนการ ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ

โดยจำเลยที่ 5 ทนายความของนายวรยุทธได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมไปที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำารวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่มี จำาเลยที่ 1 เป็นกรรมาธิการ และร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการในคดีที่นายวรยุทธเป็นผู้ต้องหาเพื่อขอให้สอบปากคำพันตำรวจเอกธนสิทธิเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับความเร็วของรถยนต์คันที่นายวรยุทธขับ

ก่อนวันสอบปากคำพันตำรวจเอกธนสิทธิเพิ่มเติม จำเลยที่ 1 ให้พลตำรวจโทมนูพาพันตำรวจเอกธนสิทธิไปพบที่บ้านพัก จำเลยที่ 1 พูดขอให้ลดความเร็วรถยนต์คันที่นายวรยุทธขับ

วันสอบปากคำพันตำรวจเอกธนสิทธิเพิ่มเติม จำเลยที่ 1 ในฐานะอดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด จำเลยที่ 2 เป็น ผู้บังคับบัญชาของพันตำรวจเอกธนสิทธิเข้าร่วมในการประชุมด้วย เพื่อสร้างความกดดัน และพูดโน้มน้าวให้พันตำารวจเอกธนสิทธิให้การเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์ลง

ซึ่งจากการถอดเทปการสนทนา (เทปที่ 2) จำเลยที่ 4 ได้พูดในที่ประชุมว่า “อยากให้ขอให้เป็น 79.22 ตามที่อาจารย์สายประสิทธิ์ คำนวณ” (หมายถึงจำเลยที่ 7) จำเลยที่ 2 พูดว่า “เราคำนวณตามอาจารย์ได้ไหม”

คำพูดของจำเลยที่ 2 เป็นการสนับสนุนคำพูดของจำเลยที่ 4 ให้เปลี่ยนความเร็วรถยนต์ลงจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 79.22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ส่วนจำเลยที่ 5 เป็นทนายความของนายวรยุทธ

จำเลยที่ 6 รู้จักกับนายเฉลิม อยู่วิทยา บิดาของนายวรยุทธ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทสยามไวเนอรี่ จำกัด ผู้ที่ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินแก่สโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่จำเลยที่ 6 ดูแล

และจำเลยที่ 7 ได้เบิกความตอบศาลถามว่า เกี่ยวกับคดีนี้จำเลยที่ 5 และที่ 6 มาขอพบอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อติดต่อขอพบข้าฯ อธิการบดีอนุญาตและโทรศัพท์ให้ข้าฯ ไปพบที่ห้องทำงานของอธิการบดี ข้าฯ ได้พบกับจำเลยที่ 6 แต่ไม่แน่ใจว่ามีจำเลยที่ 5 อยู่ด้วยหรือไม่ หลังจากนั้นก็ พบจำเลยที่ 6 อีกประมาณ 2 ถึง 3 ครั้ง และเคยไปรับประทานอาหารกับจำเลยที่ 6 ที่ร้านอาหารที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว แต่ในการพูดคุยไม่ได้พูดคุยเฉพาะเจาะจงกำหนดความเร็วให้ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

จำเลยที่ 6 และที่ 7 น่าจะรู้จักและมีความคุ้นเคยกันมาก่อน

จำเลยที่ 5 และที่ 6 ได้ร่วมกันประสานงานให้จำเลยที่ 7 มาแสดงวิธีการคำนวณความเร็วของรถยนต์คันที่นายวรยุทธขับ เพื่อให้พันตำรวจเอกธนสิทธิเห็นคล้อยตามและยอมให้การเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์

จำเลยที่ 4 เป็นพนักงานอัยการอาศัยความรู้ ในด้านกฎหมายเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลข้อกฎหมายเกี่ยวกับ ความเร็วรถยนต์ และช่วยพูดโน้มน้าวให้มีการลดความเร็วรถยนต์

จำเลยที่ 7 เป็นนักวิชาการเข้าร่วม ประชุมเพื่อแสดงวิธีการคำนวณความเร็วรถยนต์ และทราบมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าการสอบปากคำพันตำรวจเอกธนสิทธิเพิ่มเติมเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์คันที่นายวรยุทธขับให้เหลือความเร็วของรถยนต์ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากจำเลยที่ 4 พูดในที่ประชุมว่า “เปล่าคือตามกฎหมายเนี่ยห้ามขับเกิน 80 อยากจะขอความกรุณาให้มันอยู่ range ตรงนั้น” “อันนี้ ขอความกรุณาท่านผู้การ คือ ทางอัยการเค้าสั่งมาอย่างนี้ คือเค้าก็มองว่าเค้าจะช่วยนะ คือก็อยากให้เค้าสบายใจนิดนึง ใช่ไหมฮะ เวลาเค้าจะสั่ง คือที่เค้าสั่งมาเนี่ยเค้าตั้งใจจะช่วยเต็มที่ แล้วก็อยากจะขอความกรุณานะฮะ เรียนตรงๆ เลยฮะ”

ถ้าไม่มีการตกลงรายละเอียดเรื่องการลดความเร็วของรถยนต์กันไว้ก่อนแล้วจำเลยที่ 4 ก็ไม่น่าจะพูดประโยคเหล่านั้นในที่ประชุม เพราะผู้ที่ได้รับฟังย่อมเข้าใจได้ว่าน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อีกทั้งในการประชุม พันตำรวจเอกธนสิทธิก็ยังคงยืนยันความเร็วของรถยนต์ตามวิธีการคำานวณของตนเช่นเดิมจนต้องมีการสอบปากคำพันตำรวจเอกธนสิทธิเพิ่มเติมถึง 2 ครั้ง

พยานในชั้นไต่สวนมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า พันตำรวจเอกธนสิทธิลงลายมือชื่อในบันทึกคำให้การเพิ่มเติมทั้งสองครั้งโดยไม่สมัครใจ

จำเลยที่ 3 เป็นพนักงานสอบสวนปล่อยให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสอบปากคำพันตำรวจเอกธนสิทธิเพิ่มเติม พูดโน้มน้าวให้พันตำรวจเอกธนสิทธิเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถ และจัดทำบันทึก คำให้การเพิ่มเติมของพันตำรวจเอกธนสิทธิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนจำเลยที่ 8 หลังจากมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากจำเลยที่ 5 ทนายความของนายวรยุทธแล้ว เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยสั่งคดี และวินิจฉัยสั่งคดีไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยหลังจากพันตำรวจเอกธนสิทธิลงลายมือชื่อในบันทึกคำให้การเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์คันที่นายวรยุทธขับลงเหลือความเร็วต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว จำเลยที่ 3 ส่งมอบบันทึกคำให้การเพิ่มเติมของพันตำรวจเอกธนสิทธิให้แก่จำเลยที่ 8 ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีของนายวรยุทธพิจารณา จำเลยที่ 8 วินิจฉัยสั่งคดีโดยไม่ฟ้องนายวรยุทธในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายทั้งที่ก่อนหน้านั้นพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีได้มี คำสั่งฟ้องนายวรยุทธในข้อหาดังกล่าวไว้แล้ว

การกระทำของจำเลยทั้งแปดมีเจตนาช่วยเหลือนายวรยุทธ เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษในความผิดในข้อหาดังกล่าว จำเลยที่ 3 เป็นพนักงานสอบสวนมีอำนาจหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ส่วนจำเลยที่ 8 เป็นพนักงานอัยการมีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยสั่งคดี

จำเลยที่ 3 และที่ 8 ปฏิบัติหน้าที่โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายเพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ ไม่ให้ต้องได้รับโทษ การกระทำของจำเลยที่ 3 และที่ 8 จึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามฟ้องโจทก์

จำเลยที่ 5 และที่ 6 ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 7 ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนและในการวินิจฉัยสั่งคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของเจ้าพนักงาน แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ถึงที่ 7 จะร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 3 และที่ 8 โดยแบ่งหน้าที่กันทำ ก็ไม่ต้องร่วมรับผิดในฐานะตัวการ เป็นเพียงผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 3 และที่ 8 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86”

สำหรับรายชื่อจำเลยทั้ง 8 คน ประกอบด้วย

จำเลยที่ 1 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ที่ 1

จำเลยที่ 2 พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.กองพิสูจน์หลักฐาน ที่ 2

จำเลยที่ 3 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวน(สบ 3) สน.ทองหล่อ ที่ 3

จำเลยที่ 4 นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส

จำเลยที่ 5 นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร

จำเลยที่ 6 นายธนิต บัวเขียว ที่ 6

จำเลยที่ 7 รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม นักฟิสิกส์ อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ ม.เทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ

จำเลยที่ 8 นายเนตร นาคสุข อดีตรอง อสส.

คำพิพากษาข้างต้น ยังไม่ถึงที่สุด ต้องรอติดตามคำพิพากษาในชั้นสูงขึ้นไป
อีกครั้ง

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:15 น. 'เมย์'ล่าแชมป์! ฮีโร่อลป.พร้อมลุย-เช็คโปรแกรมซีเกมส์วันอาทิตย์
22:07 น. สดุดีวีรบุรุษจากชายแดนใต้! พ่อเปิดใจทั้งน้ำตา ภูมิใจ พลฯมุสตากีม ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรี พลีชีพช่องอานม้า
22:01 น. ลิฟท์ สุพจน์ ไม่อยากให้คนชมลูกเยอะ กลัวเหลิง เสียใจคนใกล้ตัวโกงเงิน 3 แสน
21:55 น. ป้องกันแชมป์! 'เงือกเนย'เพิ่มอีกทองเดี่ยวผสม400ม.
21:47 น. ปรากฎการณ์! 'บิว'กวาดสถิติหลังคว้าทอง200เมตร
ดูทั้งหมด
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
เขมรหน้าแหกคาบ้าน! โพสต์ชวน'ลาว-เมียนมา-มาเลย์'มาสู้ไทย แต่เจอคอมเมนต์สวนกลับหงายเงิบ
หนาวมาแน่! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จ่อถล่มอีสาน เหนือ-ใต้รับมือฝนตก-คลื่นสูง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
ดูทั้งหมด
เขียนให้คิด : เงินสีเทา นักการเมืองสีเทาในเมืองไทย
บุคคลแนวหน้า : สิบแปดสิงห์
ผศ.นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย 2537-2568
เส้นใต้บรรทัด : เพราะ‘พรรคส้ม’จะล้ม‘อนุทิน’
บทบรรณาธิการ : 14 ธันวาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เมย์'ล่าแชมป์! ฮีโร่อลป.พร้อมลุย-เช็คโปรแกรมซีเกมส์วันอาทิตย์

ลิฟท์ สุพจน์ ไม่อยากให้คนชมลูกเยอะ กลัวเหลิง เสียใจคนใกล้ตัวโกงเงิน 3 แสน

ป้องกันแชมป์! 'เงือกเนย'เพิ่มอีกทองเดี่ยวผสม400ม.

ปรากฎการณ์! 'บิว'กวาดสถิติหลังคว้าทอง200เมตร

เอาให้จบไป! เนวิน ลั่น ปชช.อยากเห็นรัฐบาล-กองทัพ จัดการปัญหาเขมรให้เบ็ดเสร็จ

ได๋ ไดอาน่า โพสต์ข้อความอาลัยเชฟสมศักดิ์ ผู้ใหญ่ใจดีแห่งเชฟกระทะเหล็ก

  • Breaking News
  • \'เมย์\'ล่าแชมป์! ฮีโร่อลป.พร้อมลุย-เช็คโปรแกรมซีเกมส์วันอาทิตย์ 'เมย์'ล่าแชมป์! ฮีโร่อลป.พร้อมลุย-เช็คโปรแกรมซีเกมส์วันอาทิตย์
  • สดุดีวีรบุรุษจากชายแดนใต้! พ่อเปิดใจทั้งน้ำตา ภูมิใจ พลฯมุสตากีม ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรี พลีชีพช่องอานม้า สดุดีวีรบุรุษจากชายแดนใต้! พ่อเปิดใจทั้งน้ำตา ภูมิใจ พลฯมุสตากีม ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรี พลีชีพช่องอานม้า
  • ลิฟท์ สุพจน์ ไม่อยากให้คนชมลูกเยอะ กลัวเหลิง  เสียใจคนใกล้ตัวโกงเงิน 3 แสน ลิฟท์ สุพจน์ ไม่อยากให้คนชมลูกเยอะ กลัวเหลิง เสียใจคนใกล้ตัวโกงเงิน 3 แสน
  • ป้องกันแชมป์! \'เงือกเนย\'เพิ่มอีกทองเดี่ยวผสม400ม. ป้องกันแชมป์! 'เงือกเนย'เพิ่มอีกทองเดี่ยวผสม400ม.
  • ปรากฎการณ์! \'บิว\'กวาดสถิติหลังคว้าทอง200เมตร ปรากฎการณ์! 'บิว'กวาดสถิติหลังคว้าทอง200เมตร
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร

เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร

12 ธ.ค. 2568

การค้าขาย การบริโภค และการออม

การค้าขาย การบริโภค และการออม

11 ธ.ค. 2568

ไทยป้องกันตนเอง

ไทยป้องกันตนเอง

10 ธ.ค. 2568

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

9 ธ.ค. 2568

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง  รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

8 ธ.ค. 2568

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

5 ธ.ค. 2568

พูดแล้วทำ  กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

พูดแล้วทำ กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

4 ธ.ค. 2568

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง

3 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved