ถามว่าหากเราต้องนั่งรถยนต์ที่ขับโดยเด็กอายุ 10 ปีที่เพิ่งขับรถยนต์ได้ เราจะยอมนั่งรถยนต์คันนั้นหรือไม่ ถามต่อไปว่า หากเราต้องส่งพ่อแม่ของเราไปผ่าตัดสมองกับหมอที่เพิ่งจบใหม่ ไร้ประสบการณ์ เราจะกล้าส่งพ่อแม่เราไปให้หมอคนนั้นผ่าตัดหรือไม่
ผู้เขียนเชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำในสิ่งที่ถูกตั้งเป็นคำถามในข้างต้น แต่ทว่าแล้วทำไมเราจึงปล่อยให้ประเทศไทยอยู่ในกำมือของ แพทองธาร ชินวัตร คนที่ไม่มีประสบการณ์บริหารประเทศแม้แต่น้อย และยังเป็นคนที่ถูกวิจารณ์ตลอดเวลาว่าปราศจากความรู้ความสามารถในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ไม่มีความเข้าใจเรื่องระบบการเมืองโลก และระบบการเมืองในประเทศ ไม่มีความสามารถแม้กระทั่งการสื่อสารกับคนไทยด้วยกันเอง เพราะฉะนั้น ก็จึงทำให้เราทุกคนเห็นกันโดยทั่วไปแล้วว่า แพทองธารไม่มีความสามารถในการเจรจาสื่อสารกับผู้นำการเมืองของประเทศต่างๆ
บ้านเมืองของเรากำลังเผชิญกับวิกฤตสารพัดชนิด ทั้งภายในและภายนอกประเทศ แล้วยิ่งนับวันก็ยิ่งต้องเผชิญกับวิกฤตที่หนักหนาสาหัสมากขึ้น แต่เราดันปล่อยให้ประเทศไทยอยู่ในกำมือของคนไร้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน ตกลงแล้ว เราทุกคนกำลังจะฆ่าตัวตายพร้อมๆ กันใช่ไหม
มีใครบ้างไหมที่กล้าบอกว่าทุกวันนี้ประเทศไทยไม่มีวิกฤต ไม่มีปัญหาเศรษฐกิจ ประเทศมีความมั่งคั่งร่ำรวยและรุ่งเรือง
เราทุกคนที่มีสติปัญญาต่างรู้ตรงกันว่าประเทศไทยมีหนี้สินมากมาย ทั้งหนี้สินของภาครัฐ และหนี้สินของประชาชน ไทยกลายเป็นประเทศที่ติดอยู่ในกับดักของผู้มีรายได้ปานกลางมาเกือบ 3 ทศวรรษแล้ว เรายังไม่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นประเทศพัฒนาได้ เพราะคนไทยยังปล่อยให้ประเทศไทยมีนักการเมืองไร้สติ ไร้ปัญญา และไร้ความรับผิดชอบ
เราเคยเชื่อว่าหากเรามีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ประเทศของเราจะพัฒนา คนไทยจะมีความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่สุดท้ายเรากลับต้องเจอกับผู้สมัคร สส. จำนวนไม่น้อยที่มีแต่ความเลวทราม ในขณะที่คนดี มีความรู้ความสามารถแท้จริง มีความละอาย ไม่กล้าทำบาป ไม่กล้าทำชั่ว ไม่ต้องการเข้าไปข้องเกี่ยวกับการเมือง คนดีเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่กล้าลงรับสมัคร สส. แต่เราได้พบแล้วว่าคนเลวสารพัดเลวเข้าไปสมัคร สส. กันจนมีคำพูดแบบน่าสมเพชว่า มันไม่มีคนดีให้เราเลือก ดังนั้น เราก็เลือกคนที่เลวน้อยที่สุดก็แล้วกัน
เฮ้ย! บ้าไปแล้ว เราต้องเลือกคนเลวเข้าไปเป็น สส. หรือ ไม่ว่ามันจะเลวมากหรือเลวน้อย มันก็คือคนเลวทั้งนั้น แล้วเราไม่มีคนดีจริงๆ ให้เราเลือกหรือ ทำไมเราจึงต้องยอมรับในเรื่องน่าสมเพชเช่นนี้ อันที่จริงแล้ว เราต้องเน้นย้ำว่า เราต้องเลือกคนดีแท้จริง ไม่ใช่เราต้องเลือกคนเลวน้อย เพราะเราต้องมี สส. ที่ไม่เป็นคนเลวด้วยประการทั้งปวง
ไทยเคยเผชิญกับปัญหาสารพัดชนิด เช่น ปัญหาโรคระบาดที่แพร่ไปทั่วโลก เช่น COVID-19 ในครั้งนั้นเราก็แทบจะเอาตัวไม่รอด แต่เราก็ยังอยู่รอดมาได้ แม้จะทุลักทุเลบ้าง แต่ก็ยังรอด เพราะเราพยายามช่วยกันคนละไม้ละมือ ประกอบกับเรายังโชคดีที่มีนักการเมืองที่ไม่โง่เขลาจนไร้ปัญญา ดังนั้นบ้านเมืองของเราจึงรอดพ้นจากวิกฤตโรคระบาดที่แพร่ไปทั่วโลกได้ เราเคยเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งมาแล้ว แต่เราก็เอาตัวรอดมาได้ แม้ว่าก่อนจะรอดพ้นจากวิกฤตนั้น เศรษฐกิจไทยก็ดิ่งลงเหวไปแล้ว แต่เราก็ค่อยๆ กู้มันกลับมาได้
แต่มาในยุคนี้ เป็นยุคที่วิกฤตมันแสนจะหนักหนาสาหัส เพราะมันเป็นวิกฤตที่เกิดจากความบ้าบอของผู้นำการเมืองโลก ที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาอำนาจ นั่นคือ โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ความบ้าบอของทรัมป์ที่แสดงออกในขณะนี้คือการทำลายระเบียบโลก (world orders) อย่างชัดเจน
ระเบียบโลกที่เคยมีมาในระยะ 60-70 ปี ถูกทำลายลงในพริบตาด้วยความอหังการของทรัมป์ ซึ่งสมาชิกโลกก็กำลังพยายามหาทางรับมือและแก้ปัญหากับความเสียสติของทรัมป์ แต่เราก็ยังพอจะรู้คร่าวๆ ว่า ในที่สุดแล้วทรัมป์ก็ต้องพ้นไปจากอำนาจในอีกประมาณ 4 ปีข้างหน้านี้ แต่กว่าจะถึงวันที่ทรัมป์หมดอำนาจ โลกใบนี้อาจเกิดสงครามโลกครั้งที่สามก็เป็นได้ หากสมาชิกโลกปล่อยให้ทรัมป์ป่วนโลกไปเรื่อยๆ
เราจึงเห็นว่าผู้นำประเทศต่างๆ พยายามหาหนทางแก้ความบ้าของทรัมป์ เพื่อทำให้ประเทศของแต่ละคนไม่ถูกประเด็น tariffs เสียสติของทรัมป์ทำลายประเทศต่างๆ
แน่นอนว่าประเทศเล็กๆ ย่อมไม่สามารถจัดการกับความบ้าของทรัมป์ได้โดยฉับพลัน แต่ถึงกระนั้น ผู้นำของแต่ละประเทศก็พยายามจะแก้ปัญหาให้ได้ แม้จะต้องเสียเกียรติด้วยการยอมไปเจรจากับทรัมป์ แต่มันคือความจำเป็นและไม่มีทางเลือกสำหรับประเทศที่เล็กและด้อยกว่าสหรัฐฯ
แต่ในขณะที่ผู้นำโลกต่างก็พยายามหาช่องทางไปเจรจากับทรัมป์ ครั้นเมื่อหันมามองรัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน ก็พบเพียงความว่างเปล่า ความไร้สติสิ้นปัญญา เพราะยังพูดกันไม่รู้เรื่องรู้ราว ยังไม่มีคนหน้าไหนจากรัฐบาลไทยชุดนี้พูดเรื่องการเจรจากับทรัมป์ได้อย่างชัดเจน เมื่อฟังแพทองธารพูดเรื่องนี้ ก็พบว่าไปทางหนึ่ง ครั้นเมื่อฟัง พิชัย ชุณหวชิร พูดเรื่องเดียวกัน ก็ปรากฏว่าเรื่องก็กลับไปอีกทางหนึ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ แพทองธาร พูด
ถามว่าระหว่าง แพทองธาร กับ พิชัย ใครพูดรู้เรื่องมากกว่ากัน ใครพูดแล้วทำให้คนไทยเข้าใจ และพอจะมองเห็นทางออกของปัญหา tariffs ไร้สติของทรัมป์ได้ ตอบว่า ไม่มีเลย ไม่มีจริงๆ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็พบสิ่งเดียวคือไร้ทางออก เพราะคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ล้วนไร้ปัญญา
ในเมื่อประเทศกำลังจะเดินเข้าสู่ปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจ แต่คนไทยก็ได้ยินว่ารัฐบาลกำลังสร้างหนี้ก้อนใหม่อีก 5 แสนล้านบาท รัฐบาลบอกแค่ว่าจะกู้เงินก้อนดังกล่าว แต่ไม่บอกว่ากู้มาเพื่ออะไร นำเงินไปใช้จ่ายด้านไหน แล้วเมื่อกู้เงินก้อนใหญ่ก้อนนี้แล้วจะทำให้วิกฤตเศรษฐกิจของไทยทุเลาเบาบางลงอย่างไร แล้วจะหาเงินจากไหนไปชำระดอกเบี้ย และเงินต้นคืนเจ้าหนี้ มีคำถามมากมาย แต่รัฐบาลไม่มีปัญญาตอบให้กระจ่าง
ถามว่ารัฐบาลรู้ใช่ไหมว่าหนี้สาธารณะของไทยกำลังจะชนเพดานที่ตั้งไว้ หากรู้แล้วทำไมยังจะดันทุรังกู้ต่อไป แต่หากรัฐบาลจำเป็นต้องกู้จริงๆ ก็ต้องกู้ แต่ก่อนจะกู้ รัฐบาลตอบให้ชัดได้ไหมว่า กู้มาเพื่อการใด รัฐบาลไม่ควรกู้มาเพื่อเพิ่มภาระดอกเบี้ยและหนี้สินให้กับคนไทยและประเทศไทย
ถามว่าแพทองธารตอบได้หรือไม่ว่าทำไมรัฐบาลต้องกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท แพทองธารจะมีปัญญาตอบไหมว่ากู้ไปเพื่อใช้จ่ายด้านไหนเป็นสำคัญ แล้วจะเพิ่มภาษีหนี้สินให้กับประเทศไปอีกกี่สิบปี คนไทยต้องแบกรับภาระหนี้ไปอีกกี่ชั่วอายุคน
คนไทยรู้ดีว่าแพทองธารได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากเศรษฐา ทวีสิน ก็เพราะอิทธิฤทธิ์ของทักษิณ ชินวัตร สทร. พ่อของแพทองธาร ถามว่าเมื่อทักษิณส่งแพทองธารไปไว้ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ทักษิณมั่นใจหรือว่าแพทองธารมีความสามารถในการบริหารประเทศได้ ถามต่อไปว่าทักษิณไม่รู้บ้างหรือว่าระดับสติปัญญา ความรู้ความสามารถของแพทองธารมีมากน้อยแค่ไหน คอการเมืองไทยบอกตรงกันว่าทักษิณต้องรู้ดี แต่ถามว่าเมื่อรู้แล้วทำไมทักษิณยังกล้าทำ
ทักษิณคิดว่าส่งแพทองธารไปเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วตนเองก็ทำหน้าที่เป็นผู้บงการอยู่หลังฉากการเมือง แล้วก็สั่งให้ลิ่วล้อบริวารของทักษิณไปทำหน้าที่ผู้ประกบแพทองธาร ดังนั้น จึงไม่ต้องประหลาดใจที่เวลาแพทองธารพูดจาหรือตอบคำถามนักข่าวสายการเมือง จะต้องมีลิ่วล้อบริวารของทักษิณไปยืนเสนอหน้ารายรอบแพทองธารเพราะทักษิณรู้ว่าแพทองธารตอบคำถามสำคัญไม่ได้ เมื่อตอบไม่ได้ก็จะได้โยนให้บรรดาลิ่วล้อบริวารทักษิณรับหน้าที่แทน
นับเป็นภาพน่าสมเพช และน่าสังเวชเหลือเกินที่คนแก่คราวพ่อ คราวลุง ต้องไปทำหน้าที่ไม้ประดับ หางเครื่อง ตัวประกอบให้เด็กรุ่นลูก ทั้งๆ ที่บรรดาไม้ประดับเหล่านั้นรู้ดีว่าแพทองธารมีสติปัญญาแค่ไหน แต่เมื่อเขาเหล่านั้นได้รับคำสั่งจากทักษิณแล้ว ก็ต้องทำตามโดยไม่มีปัญญาโต้แย้งหรือท้วงติง
ในยามที่วิกฤตต่างๆ กำลังรุมล้อมประเทศไทยตลอดเวลา แต่แพทองธารไม่มีปัญญาแก้วิกฤตได้ส่วนเหล่าบรรดาหางเครื่องของแพทองธารก็ไม่มีปัญญาแก้วิกฤตเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็หมายถึงความวิบัติบรรลัยของประเทศกำลังคืบคลานเข้ามาทุกขณะ
ปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่สามารถถูกแก้ไขได้ หรืออาจจะพยายามแก้ไขก็ได้ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องสติปัญญาและความสามารถ ดังนั้น ปัญหาจึงไม่หมดไป แต่ที่น่าวิตกยิ่งกว่าคือปัญหากลับหนักขึ้นทุกวัน แล้วในที่สุดปัญหาจะถมทับประเทศไทยและคนไทยให้ต้องพบกับความวิบัติบรรลัย เพราะว่าเราปล่อยให้คนไร้สติ สิ้นปัญญา ไม่มีความสามารถ แถมไร้ความรับผิดชอบมีอำนาจรัฐ
เราจะปล่อยให้ประเทศชาติและประชาชนก้าวเข้าสู่ยุคมิคสัญญีกลียุคด้วยการปล่อยให้นายกรัฐมนตรี และเหล่ารัฐมนตรีไร้ความสามารถบริหารประเทศต่อไป กระนั้นหรือ เราทุกคนพร้อมใจกันส่งประเทศไทยให้ตกไปอยู่ในขุมนรก ใช่หรือไม่
เราทุกคนร่วมกันแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการที่ทุกคนต้องพร้อมใจกันแสดงให้รัฐบาลที่ไร้สติสิ้นปัญญารู้ว่าเราคนไทยทุกคนไม่ยอมให้รัฐบาลทำลายประเทศชาติอีกต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี