เป็นประเด็นย้อนศร พุ่งกลับไปที่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
โดยเฉพาะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
เมื่อรัฐบาลบอกว่าจะเดินหน้า พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ให้มีการเปิดกาสิโนเป็นส่วนหนึ่ง อ้างว่าสามารถควบคุมได้ ป้องกันการฟอกเงิน และแก้ปัญหาบ่อนเถื่อนไปด้วย
แต่ถูกตอกหน้ากลับไปว่า สิ่งที่รัฐบาลพูดมันสวนทางกับความเป็นจริง เพราะปัจจุบันการบังคับใช้กฎหมายพวกพนันออนไลน์ สลากออนไลน์ สลากแพลตฟอร์มผิดกฎหมาย ขายเกินราคา ยังคงเกลื่อนเมือง
นับเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง
1. เพจ CSI LA โพสต์ข้อความว่า
“ถ้าประเทศเรายังจัดการ“หวยเกินราคา” ไม่ได้
อย่าหวังเลยว่า คาสิโนถูกกฎหมายจะมาทำให้ประเทศดีขึ้น
เราไม่ได้จะกลายเป็น มาเก๊าหรือสิงคโปร์ หรอก
แต่เสี่ยงจะกลายเป็น เขมร หรือพม่า เวอร์ชันมีไฟนีออน ที่เต็มไปด้วยบ่อนเถื่อน แหล่งฟอกเงิน และการค้ามนุษย์ใต้โต๊ะ”
ปรากฏว่า มีคนเข้าไปแสดงความเห็นสนับสนุนจำนวหลายหมื่นคน ในทำนองว่า จริงมาก จริงที่สุด ใช่เลย ถูกต้องเลย เช่น
บางคนระบุว่า “มีคนพูดว่าจะเอาการพนันเถื่อนขึ้นมาให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อจะเก็บภาษี แต่ถ้ามีกาสิโนหรือบ่อนถูกกฎหมายแล้ว ใครจะรับรองว่าบ่อนเถื่อนจะไม่มี ต่อไปก็คงจะมีทั้งบ่อนเถื่อน และบ่อนไม่เถื่อน อยู่ด้วยกันเลยใช่ไหม ให้เราเลือกเล่น”
บางคนบอกว่า “ใช่ลอตเตอรี่ของรัฐบาลยังขาย 80 บาทยังไม่ได้เลยทุกวันนี้ยังขายกันใบละ 100 ถึง 130 อยู่เลย แล้วถ้ามีบ่อนกาสิโนมันจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไง พูดจริงๆนะรัฐบาลมันต้องการให้มีบ่อนกาสิโนก็เพื่อพวกพ้องและพวกนายทุนเท่านั้นแหละ ทำเพื่อต้องการฟอกเงิน.......”
บางคนบอกว่า “รัฐบาลกับความย้อนแย้งของนโยบาย: จากราคาหวยสู่โปรเจกท์กาสิโน
ในขณะที่รัฐบาลไทยยังไม่สามารถควบคุมราคาหวยให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดได้อย่างจริงจัง ทั้งที่เป็นเรื่องใกล้ตัวประชาชนและมีการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง กลับมีแนวคิดจะผลักดัน “กาสิโนถูกกฎหมาย”เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเงินลงทุนจากต่างประเทศ
คำถามสำคัญคือ “ถ้ายังดูแลเรื่องง่ายๆ อย่างราคาหวยไม่ได้แล้วจะดูแลเรื่องซับซ้อนระดับกาสิโนได้จริงหรือ?” เพราะกาสิโนไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัญหาสังคม อาชญากรรม การฟอกเงิน และผลกระทบต่อเยาวชนโดยตรง
รัฐบาลควรชี้แจงให้ชัดเจนถึงแนวทางในการควบคุม ดูแล และป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากกาสิโนอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่เสนอเป็นโปรเจกท์หวือหวาเพื่อล่อกระแสเงิน โดยที่พื้นฐานระบบควบคุมของรัฐยังไม่มีความเข้มแข็งพอ” ฯลฯ
2. เพจ ฟาดให้ยับ จับมาขยี้ ระบุว่า
“...การคอร์รัปชั่นติดอันดับต้นๆ ของโลก แต่ริจะทำการพนันถูกกฎหมาย
ทั้งๆ ที่ยังจัดการกับ ท่านหลวงดีด ประดิษฐ์วาทกรรม (พ่อค้าสลากแพลตฟอร์มรายใหญ่) ยังไม่ได้เลย
ปล่อยให้ทำการตลาดโฆษณาขายสลากแบบโจ๋งครึ่ม
ปล่อยให้หอบเงินสดไปมอบให้คนถูกหวยแบบจะแจ้ง
ทั้งๆที่ควรรู้ว่าเงินสดที่มันหอบไปมอบให้ชาวบ้านอาจจะมาจากเว็บพนันก็เป็นได้ เพราะเคยทำมาแล้วจนถูกดำเนินคดีเป็นข่าวโด่งดัง
เหตุผลเดียวที่ท่านหลวงดีดยังขายสลากออนไลน์อยู่มาจนถึงวันนี้ คือ..มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน #คอร์รัปชั่น”
3. ธุรกิจเอกชนขายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รายใหญ่ ที่สุดในปัจจุบัน อยู่ในการดูแลของ “นอท ลอตเตอรี่พลัส” หรือนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์
ปัจจุบัน มีการเปิดขายสลากเกินราคา 80 บาท (อ้างว่าเป็นค่าบริการ) ในช่องทางออนไลน์ และเว็บไซต์
ที่ผ่านมา แม้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะมีคำสั่งให้ปิดเว็บ “ลอตเตอรี่พลัส.com และ lotteryplus.co.th”
หลังจากเสนอปิด “กองสลากพลัส” ไปก่อนหน้า เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เข้าข่ายการพนัน และละเมิดลิขสิทธิ์
แต่กลับมีการใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองยกเลิกการปิดกั้น “ลอตเตอรี่พลัส” ชั่วคราว
จากนั้น ผู้ประกอบการได้เปิดขายอย่างสะพัด ตั้งแต่วัน 24 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน
ยอดขายเป็นจำนวนหลายล้านใบ
เงินหมุนเวียนหลายพันล้านบาทต่องวด
ยิ่งกว่านั้น มีการระดมโฆษณาขายลอตเตอรี่ ทั้งในช่องทางออนไลน์ ตามแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงการขึ้นป้ายโฆษณาใหญ่ยักษ์ริมถนน ล่าสุดลามไปถึงเครื่องแคชเชียร์ภายในร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ เพื่อชักจูงให้ประชาชนที่เห็นโฆษณาดังกล่าวดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เพื่อซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์
ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีคดีความมาก่อน
4. น่าอัศจรรย์ใจ... คนที่มีคดีฟอกเงินติดตัว แค่เปลี่ยนเว็บ เปลี่ยนแพลตฟอร์ม ก็ค้าขายสลากเกินราคา ผิดกฎหมาย เย้ยสนง.สลาก เย้ยกฎหมายบ้านเมืองต่อไปได้
นี่หรือคือตัวอย่างการบังคับใช้กฎหมายในปัจจุบัน ที่อ้างว่าจะควบคุมกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ป้องกันฟอกเงิน ปราบปรามเบื่อนเถื่อนพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย หากได้เปิดกาสิโนเป็นส่วนหนึ่งในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์จริง
สถานีข่าวท็อปนิวส์ รายงานว่า กรณีที่ ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหานายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส กับพวกรวม 17 คน ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและจัดให้มีการเล่นการพนันผ่านมากว่า 2 ปีเศษ คดียังไม่คืบไปไหน
“..ย้อนกลับไปเมื่อ 31 ม.ค.2566 นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ในคดีร่วมกันฟอกเงิน และคดีจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์
ต่อมาวันที่ 21 เม.ย. 2566 นายพงษธร อินอำนวย นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 288/2565 ส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้อง นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส กับพวก รวม 17 คน กรณีที่มีการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปให้ นายอรรถกานต์ ตระการศักดิกุลหรือ นายเฟย ไปขึ้นเงินรางวัล 53 ล้านบาท และโอนเงินเข้าบัญชีของ “นอท” ส่วนผู้ต้องหารายอื่นอีก 16 ราย เป็นกลุ่มผู้จัดการบัญชีม้าเดินได้ คือนอกเหนือจากการเป็นบัญชีม้าแล้ว ยังทำหน้าที่ในการกดเงินด้วย ในจำนวนนี้ ดีเอสไอ แจ้งข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน และจัดให้มีการเล่นการพนัน
วันที่ 12 มิถุนายน 2566 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ นัดฟังคำสั่งคดี นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (ผู้ต้องหาที่ 9) กับพวกรวม 17 ราย โดยนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษก อสส. ในขณะนั้น บอกว่า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาคดีนี้ ได้ดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานในสำนวนด้วยความละเอียดรอบคอบแล้ว เห็นว่าข้อเท็จจริงในสำนวนคดีมีพยานหลักฐานครบถ้วนเพียงพอที่จะยื่นฟ้องผู้ต้องหาบางรายและไม่ฟ้องบางราย
พร้อมทั้งส่งสำนวนและความเห็นกลับคืนให้ คณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเสนอความเห็นต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าจะมีความเห็นไปในทางใด
ล่าสุด (26 เม.ย.2568) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เปิดเผยความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับสำนวนพร้อมความเห็นจากอัยการคดีพิเศษ ได้มีการพิจารณาสำนวนอีกครั้งพร้อมยืนตามความเห็นเดิมคือ เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 17 รายตามเดิม ซึ่งตนเองได้สั่งให้มีการตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณาสำนวนให้รัดกุมและสรุปสำนวนพร้อมความเห็นและเหตุผลที่ต้องสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อ เสนอตนพิจารณาทำความเห็นและส่งสำนวนกลับให้อัยการสูงสุดต่อไป ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
ด้านนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เมื่ออัยการมีความเห็นในคดีดังกล่าว และส่งเรื่องกลับไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วก็ถือว่า หน้าที่เป็นอันสิ้นสุด ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษก็มีหน้าที่ที่จะพิจารณาเพียงข้อเท็จจริงในสำนวนที่ส่งมา เนื่องจากอัยการคดีพิเศษไม่ได้มีข้อเสนอแนะหรือคำสั่งใดๆเพิ่มเติม ส่วนจะมีความเห็นพ้องหรือไม่พ้องกับอัยการก็ต้องส่งสำนวนกลับมาเพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาด การที่เรื่องยังอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตนเห็นว่า คดีอาจจะมีความยุ่งยากซับซ้อนและมีข้อมูลเยอะ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษอาจจะมีคดีที่จะต้องรับผิดชอบจึงทำให้การพิจารณาดำเนินการในคดีดังกล่าวเนิ่นช้าออกไป..”
สิ่งที่สังคมต้องการรู้ตอนนี้ คือ อัยการที่รับผิดชอบคดีนี้ ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา หรือทำหน้าที่เย้ยสังคมแบบอัยการในคดีบอส อยู่วิทยา?
อัยการคดีพิเศษคนนี้ ชื่ออะไร? นามสกุลอะไร? พร้อมจะอธิบายชี้แจงสังคมได้หรือไม่?
อัยการสูงสุด ชื่อ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ จะปล่อยให้องค์กรอัยการเป็นแบบนี้ อย่างนั้นหรือ?
5. สลากแพลตฟอร์มเอกชน ขายในราคาเกิน 80 บาท หรือมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมกว่า 80 บาท ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงยืนยัน และไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ชัดเจน ระบุว่า
“สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำหน่ายสลากดิจิทัลในราคาไม่เกิน 80 บาท ผ่านแอปเป๋าตังเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น
สำหรับการจำหน่ายสลากเกินราคาและการซื้อสลากผ่านแพลตฟอร์มเอกชนในราคาเกิน 80 บาท หรือมีการคิดค่าบริการเพิ่มเติมกว่า 80 บาท ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและสนับสนุนให้มีการขายสลากเกินราคาอีกด้วย”
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะได้ออกสลากดิจิทัลราคาไม่เกิน 80 บาท มาขายประชาชนทั่วไป และได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว แต่มันอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่อย่างแท้จริง
6. น่าคิดว่า ในร่างกฎหมายที่จะเปิดกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์นั้น
กำหนดห้ามจ้างใครเพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน แต่โทษของคนช่วยทำการตลาดนั้น แค่โทษปรับ คล้ายๆ กับการลงโทษขายสลากเกินราคา
ปัญหาสลากแพลตฟอร์มขายเกินราคา ผิดกฎหมาย ฟอกเงิน ยังฉาวโฉ่ตำตาอยู่อย่างนี้ ยังจะมีหน้ามาบอกให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะควบคุมได้หากเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย
จะเอาอะไรไปควบคุมกาสิโน สลากเกินราคา-สลากแพลตฟอร์ม ยังเย้ยก.ม.
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี