แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ปัญญาแปลว่าความรู้ทั่ว มีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกัน คือปัญญาที่เกิดจากการเล่าเรียนจดจำมาอย่างหนึ่ง กับปัญญาที่เกิดจากการศึกษาสังเกตและนมา
ขบคิดพิจารณาจนรู้ชัดอย่างหนึ่ง บัณฑิตแต่ละคนในที่นี้ เชื่อว่าต่างได้รับการศึกษาอบรมมาแล้วเป็นอย่างดี แต่ในด้านการศึกษาสังเกตนั้นอาจยังย่อหย่อนอยู่บ้าง เพราะมีประสบการณ์ในชีวิตไม่มากนัก ทุกคนจึงควรจะได้สนใจสังเกตศึกษาเรื่องราว บุคคล และสิ่งต่างๆ ที่แวดล้อมและเกี่ยวข้องกับตัวเองให้มาก อย่าละเลยหรือมองข้ามแม้สิ่งเล็กน้อย...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 24 กรกฎาคม 2540)
...nn มีคำถามว่าการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะเกิดขึ้นเมื่อไร ตอบชัดๆ ว่า ไม่น่าจะเกินเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนคำถามที่ว่าแล้วแพทองธารจะยังคงนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ ตอบว่า อยู่ต่อไป จนกว่าทักษิณ ชินวัตร สทร. จะไม่อยู่ในประเทศไทย
...nn รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเปลี่ยนตัวจาก พิชัย ชุณหวชิร หรือไม่ ตอบว่าไม่แน่ใจ เพราะต่อให้ทักษิณอยากเปลี่ยนตัว แต่ก็หาคนที่มีฝีไม้ลายมือดีจริงๆ ไปเป็นรัฐมนตรีคลังแทนพิชัยยากเย็นมาก ไม่ใช่ว่าเมืองไทยไม่มีคนดีมีฝีมือ แต่เป็นเพราะว่าคนดีไม่อยากเปลืองตัวเข้าไปเกลือกกลั้วกับนักการเมืองที่ไม่น่าทำงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานกับนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีความรู้ใดๆ ในเรื่องการบริหารประเทศแม้แต่น้อย แถมยังไม่สามารถสลัดตัวเองให้พ้นจากเงามฤตยูและคำบงการของ สทร
...nn ภูมิธรรม เวชยชัย จะกลับไปอยู่กระทรวงพาณิชย์ จริงๆ หรือ คำถามนี้ถามกันมากมาย แต่ก็เป็นคำถามที่น่าค้นหาความจริง เพราะภูมิธรรมเองก็ไม่น่าจะมีความสุขมากนักกับการกินตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และทหารใหญ่จำนวนไม่น้อยก็ไม่น่าจะ happy นักกับการที่อดีตสหายใหญ่กินตำแหน่ง รมว. กลาโหม เพราะมันดูแล้วไม่น่าจะไปด้วยกันได้แม้แต่น้อย ลองคิดดูก็แล้วกัน อดีตคอมมิวนิสต์ดันได้กินตำแหน่ง รมว.กลาโหม แต่ก็มีผู้โต้แย้งว่าไม่เห็นจะประหลาด เพราะอดีตทหารใหญ่บางคนก็ยังเข้าไปทำงานกับพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชนในปัจจุบันได้
...nn มีคำถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนจะจับมือร่วมเป็นรัฐบาลได้หรือไม่ ตอบว่า ได้อยู่แล้ว หากแกนนำทั้งสองพรรคตกลงแบ่งปันตำแหน่งและผลประโยชน์การเมืองได้ลงตัว แล้วถ้าหาก สส. พรรคประชาชนหายไปสัก 20-25 คน ก็หมายความว่า พรรคประชาชนไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่มี สส. เป็นอันดับหนึ่งอีกต่อไป ดังนั้น พรรคประชาชนจะเล่นบทกำแหงหาญเหมือนเดิมก็คงจะยาก ครั้นหากพรรคเพื่อไทยเชิญพรรคประชาชนไปร่วมรัฐบาล แล้วถีบพรรคภูมิใจไทยออกไป ก็จะทำให้เสียงของรัฐบาลมากขึ้นกว่าเดิม แต่ปัญหาคือพรรคประชาชนจะขอตำแหน่งรัฐมนตรีอะไรเป็นเครื่องตอบแทนบ้าง ส่วนการขอตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปครองนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะต้องไม่ลืมว่าหากพรรคประชาชนมีสถานะเป็นพรรคอันดับสอง ก็ไม่สามารถแสดงความอหังการได้ต่อไป
...nn ย้ำว่าการจับมือกันระหว่างพรรคประชาชนกับเพื่อไทยเพื่อตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ หากทั้งสองพรรคแบ่งปันผลประโยชน์การเมืองได้ลงตัว ส่วนข้ออ้างเรื่องประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง เป็นเพียงคำอ้างสวยหรูของทุกพรรค แต่ในความจริงไม่เคยปรากฏว่าประชาชนจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของพรรคอย่างจริงๆ จังๆ แต่อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองไทยทุกพรรคก็ยังคงโกหกประชาชนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นที่อ้างว่าต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายพรรค
...nn เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ แห่งพรรคประชาชนตอบคำถามนักข่าวว่าจะจับมือร่วมตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทยหรือไม่ คำตอบจากเท้งคือ หากพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคประชาชนก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขบางอย่าง โดยเท้งพูดว่าพรรคเพื่อไทยต้องสารภาพบาปกับประชาชนว่าที่ผ่านมานั้นได้ทรยศหักหลังประชาชน แต่เท้งก็ยังพลิ้วต่อไปว่า เงื่อนไขการร่วมจัดตั้งรัฐบาลต้องมาจากพรรคที่จะร่วมมือกัน ไม่สามารถจะมาจากพรรคใดพรรคหนึ่งได้ ตอบแบบนี้ก็ไม่ต่างจากแพทองธารตอบเรื่อง less for more, more for less เพราะไม่รู้เรื่อง ไม่มีการให้คำมั่นสัญญาอย่างจริงจัง แบบนี้เรียกว่า
ตอบแบบอะไรก็ได้ ตามใจฉัน
...nn แต่ถามจริงๆ เถอะ เท้งจะให้พรรคเพื่อไทยประกาศว่าที่ผ่านมานั้นทรยศหักหลังประชาชนหรือ ถามจริงๆ เพื่อไทยจะกล้าประกาศเช่นนั้นหรือ อย่าลืมว่าการประกาศว่าทรยศหักหลังประชาชนคือการบอกกับประชาชนว่าพรรคเพื่อไทยทำเลว ทำเรื่องบัดสีชั่วช้ากับประชาชน ถามจริงๆ พรรคเพื่อไทยจะกล้าประจานตัวเองกับสังคมหรือ
...nn หรือว่าเท้งจะยึดเอาคำตอบของแพทองธารที่บอกว่าจำเป็นต้องจับมือกับพรรคลุง เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้คะแนน สส. ไม่มากพอที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว คำถามคือการเลือกตั้งครั้งหน้า เท้งแห่งพรรคประชาชนยังเชื่ออีกหรือว่าพรรคของตนจะได้คะแนนเกินครึ่งของจำนวน สส. ในสภา เท้งไม่คิดหรือว่าพรรคสีน้ำเงิน คือพรรคภูมิใจไทยของเนวิน ชิดชอบ จะไม่มีวันยอมให้พรรคประชาชนได้ สส. เกินกว่า 200 คน ขอย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่เกินปี 2570 เป็นอันขาด และบอกได้เลยว่าการเลือกตั้งในครั้งหน้านี้ ไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่สู้แบบยิบตา แบบชนิดมึงแรงมา กูก็ต้องแรงไป เอ็งเทมาเท่านี้ข้าก็ต้องเทกลับไปให้มากกว่าที่เอ็งเทมา ขอบอกสั้นๆ ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และรุนแรงมาก จนถึงมากที่สุด ว่าแต่ว่าพรรคประชาชนเตรียมเสบียงกรัง และกระสุน รวมถึงการสร้างกระแสไว้สู้กับพรรคอื่นๆ ดีแล้วใช่ไหม
...nn การเป็นฝ่ายค้านมันง่ายกว่าเป็นรัฐบาล เพราะเป็นรัฐบาลมันต้องมีผลงานเชิงประจักษ์ แต่การเป็นฝ่ายค้านมันแค่ใช้ปากเท่านั้น การวิจารณ์คนทำงานมันง่ายกว่าลงไปทำงานเอง คำถามคือเท้งเห็นแพทองธารแล้วใช่ไหมว่า ตอนพูดหาเสียงนั้น ปากแจ๋วมาก แต่เมื่อเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ ปากที่เคยแจ๋ว ก็จู๋ลงโดยพลัน แล้วไม่ใช่ปากจู๋ธรรมดา แต่ยังบอกว่าทุกอย่างล้วนอนิจจังทั้งสิ้น นี่ขนาดแพฯ มีพ่อเป็น สทร. และมีนักการเมืองแก่ๆ เก๋าเกมการเมืองเล่นบทหางเครื่องให้แพฯ ทุกวัน แพฯ ยังเดี้ยงเลย แล้วคนที่ไม่เคยทำหน้าที่ผู้บริหารประเทศโดยแท้จริง อย่างพรรคประชาชน จะไปได้สักกี่น้ำ ไม่ต้องดูอะไรมากเลย ดูความปากแจ๋วในอดีตของภูมิธรรมกับทหารเสียก่อน ดูเท่านี้ก็เห็นชัดแล้วว่า ตอนเป็นฝ่ายค้านมันง่ายมาก เพราะใช้ปากทำงาน แต่พอเป็นรัฐบาลจริงๆ มันไม่ง่ายเลย เพราะใช้ปากทำงานไม่ได้อีกต่อไป
...nn ยังคงเล่นสงครามน้ำลายไม่เลิกระหว่างเพื่อไทยกับพลังประชารัฐ ในขณะที่ดนุพร ปุณณกันต์ อดีตพระเอกจอแก้ว ปัจจุบันเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยบอกว่าให้ป้อม ประวิตร วงษ์สุวรรณ แห่งพลังประชารัฐไปสอบถาม สส. ของพรรคให้ดีว่าใครจะอยู่หรือใครจะไป (อยู่กับเพื่อไทย) ดนุพรอ้างแบบสุดตลกว่า ปัจจุบันรัฐบาลมี 314 เสียง ก็ถือว่ามั่นคงมีเสถียรภาพมากพอแล้ว แต่ที่ตลกยิ่งกว่าคืออดีตพระเอกจอแก้วบอกว่า แต่ถ้าหากจะมี สส. จากพรรคอื่นอยากไปร่วมงานกับรัฐบาลเพื่อให้นโยบายรัฐบาล (เพื่อไทย) เข้มแข็งยิ่งขึ้นก็สามารถไปร่วมได้ พร้อมกับเชิญชวนให้ สส. จากพรรคอื่นไปร่วมกัน (กับพรรคเพื่อไทย) ลองอ่านคำตอบของดนุพรดีๆ แล้วจะเห็นว่าตรรกะสุดยับเยิน ขอถามทิ้งท้ายกับอดีตพระเอกว่า ตกลงแล้ว 314 เสียงของรัฐบาลพอไหม มั่นคงไหม หากพอและมั่นคงแล้ว จะเอา สส. เข้าไปเพิ่มอีกทำไมเล่าพ่อคุณ
...nn ตึก 33 ชั้น ณ สวนจตุจักร ที่เคยเป็นที่มั่นหมาย ที่หมายมั่นของพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง. ว่าจะเป็นตึกใหม่ของ สตง. ได้กลายเป็นผงเป็นฝุ่นไปแล้ว บัดนี้ตึกดังกล่าวได้กลายเป็นภาพหลอนของสังคมไทยไปโดยปริยาย หลังจากถล่มพังพาบลงมาราวกับปราสาททรายเมื่อถูกคลื่นความสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ เมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นับได้ว่าเป็นตึกเดียวของไทยที่พังบรรลัยลงมาจนถูกเรียกว่าพังแบบแพนเค้ก
...nn พิศิษฐ์ยอมรับว่าตนเองเลือกที่ตั้งตึกโดยดูฮวงจุ้ยไม่ดี ก็จึงทำให้มีคำถามว่า แล้วพิศิษฐ์ให้พ่อมดหมอผีรายไหนดูฮวงจุ้ยให้ พ่อมดหมอผีที่ว่านั้นมีนามว่ายักษ์ใหญ่ ใหญ่ยักษ์ ใช่หรือไม่ เรื่องนี้ต้องถามคนใน สตง. ที่รู้จักพฤติกรรมของพิศิษฐ์ ว่า อดีตผู้ว่าการ สตง. รายนี้เชื่อถือหรือหลงใหลในเรื่องไสยศาสตร์มากมายหรือน้อยนิดแค่ไหนเพียงใด
...nn คนใน สตง. ที่รู้เรื่องตื้นลึกหนาบางของการก่อสร้างตึกใหม่แต่ต้องพังถล่มลงมา บอกตรงกันว่า คน สตง. ที่ทำหน้าที่ตรวจรับตึกก่อนที่จะพังถล่มชื่อไจแอนท์ กับปูเป้ ส่วนไจแอนท์นั้นไม่ค่อยอยากเจอหน้านักข่าวสักเท่าไร เรียกว่าหลบได้ก็หลบ แต่ปูเป้นั้น ก็ไม่ได้อยากเจอหน้านักข่าวที่ตามเรื่องตึก สตง. ถล่มเลยแม้แต่น้อย แต่แม้จะหลบสักเพียงใดก็หลบไม่พ้น ครั้นนักข่าวเจอหน้าปูเป้ สตง. ก็ถามเรื่องตึกถล่ม ในฐานะที่มีหลักฐานว่าปูเป้คือคนเซ็นตรวจรับตึก แต่ปูเป้โกรธนักข่าวที่ตามติดไถ่ถามเรื่องนี้มากจนเป็นฟืนเป็นไฟ โดยอ้างว่าตนเองไม่ใช่จำเลย แต่ตนเองคือคนที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใยไร้ราคี ก็ต้องบอกว่านักข่าวไม่เคยฟันธงว่าปูเป้เป็นคนผิด แต่เพียงรู้ว่าปูเป้คนหนึ่งในจำนวนผู้เซ็นตรวจรับตึก ดังนั้นเมื่อตึกที่ปูเป้ร่วมเซ็นมันพังพินาศไปแล้ว ปูเป้ต้องตอบให้ชัดว่า ทำไมงานตรวจรับที่ปูเป้ร่วมเซ็นรับมันจึงได้วินาศสันตะโรเช่นนี้ อันที่จริงยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่คน สตง. เล่าเกี่ยวกับเบื้องหลังของปูเป้ใน สตง. แต่เรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นพฤติกรรมส่วนตัว ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการเซ็นรับตึก ก็จึงไม่อยากเอามาพูดให้รกพื้นที่หน้าหนังสือพิมพ์ แต่ต้องบอกว่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับปูเป้ สตง. น่าระทึกใจมิใช่น้อย เรื่องราวของปูเป้เป็นเรื่องที่ปิดไม่มิดใน สตง. เรื่องนี้พิศิษฐ์ ก็น่าจะรู้ และอีกคนที่น่าจะรู้ก็คือผู้ว่าการ สตง. คนปัจจุบัน ที่ชื่อ มณเฑียร เจริญผล
...nn ขอย้ำว่าตึกใหม่ของ สตง. พังพินาศไปแล้วกว่า 30 วัน แต่ก็ไม่เห็นนายกรัฐมนตรีจะมีความสามารถนำตัวคนผิดในเรื่องนี้ไปลงโทษลงทัณฑ์ได้แม้แต่คนเดียว ทั้งๆ ที่นายกฯ ประกาศชัดๆ ว่า ต้องทำเรื่องนี้ให้โลกได้รับรู้ความจริง แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม แล้วเรื่องใหญ่ยักษ์นี้ยังคงเงียบเชียบ ก็เลยทำให้หวาดใจว่า สุดท้ายเรื่องนี้จะไม่ต่างไปจากหมูเถื่อนในสมัยที่เศรษฐา ทวีสิน กินตำแหน่งนายกฯ แล้วประกาศศักดาว่าจะทำความจริงเรื่องหมูเถื่อนให้ปรากฏ แต่จนบัดนี้ หมูเถื่อนก็ยังเงียบเหงาหงอย ไม่สามารถจับใครไปลงโทษได้สักคน แต่สังคมไทยก็ยังมีหมูเถื่อนต่อไป
...nn พิธีพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครวาติกัน ผ่านไปแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปที่โลกกำลังจับตามองคือพระคาร์ดินัลท่านใดจะได้รับตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ต่อไป แต่เท่าที่ปรากฏนามของพระคาร์ดินัลที่อยู่ในข่ายจะได้รับคัดเลือกให้เป็นพระประมุขของคริสตจักรโรมันคาทอลิก มีดังนี้ ไพโตร พาโรลิน อายุ 70 จากอิตาลี แมททิโอ ซุปปิ อายุ 69 ปี จากอิตาลี ส่วนจากฟิลิปปินส์ มี 2 ท่าน คือ หลุยส์ แอนโตนิโอ ทาเกิล อายุ 67 ปี และพาโบล เวอร์จิลิโอ ซิอองโก เดวิด อายุ 66 ปี ตามมาด้วยจากแคนาดา คือเจราลด์ ซีเปรียน ลาครอกซ์ อายุ 67 ปี และฟริโดลินแอมปองโก เบซันกู จากคองโก อายุ 65 ปี โจเซฟ โทบิน จากสหรัฐฯ อายุ 72 ปี และโรเบิร์ต พริโวสต์ จากสหรัฐฯ เช่นกัน อายุ 69 ปี ทาร์ซิเซียส อิซาโอะ คิคูชิ จากญี่ปุ่น อายุ 66 ปึ ไมเคิล เซอร์นี จากแคนาดา อายุ 78 ปี คริสโตบอลโลเปซ โรเมโร จากสเปน อายุ 72 ปี ฌอง โกลด โฮเลริช จากลักเซมเบิร์ก อายุ 66 ปี และปีเตอร์ เออร์โด จากฮังการี อายุ 72 ปี แต่ก็ยังอาจจะมีรายชื่ออื่นๆ ที่ถูกเสนอเพื่อพิจารณาอีก...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี