คำว่า “สึ่งตึง”
เป็นคำภาษาเหนือ โดยมีความหมายว่า โง่เง่า,ซื่อบื้อ
โดยรวมแล้ว “คนสึ่งตึง” หมายถึง คนที่ไม่ค่อยเต็มบาท บ้าๆ บอๆ เป็นการเปรียบเปรยถึงคนที่ทำอะไรเปิ่นๆ งุ่มง่าม หรือขาดไหวพริบในบางครั้ง
“สึ่งตึง”กลายมาเป็นคำที่โด่งดังชั่วข้ามคืน หลังจาก นายทักษิณ ชินวัตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ในสนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ซึ่งในทางการเมืองแล้ว เป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ซึ่งมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ “เท้ง” เป็นหัวหน้าพรรค
จริงอยู่ที่การปราศรัยบนเวทีเลือกตั้ง ไม่ผิดอะไรกับการทำสงครามน้ำลาย สาดน้ำลายเข้าใส่กันซึ่งต่างฝ่ายเนื้อตัวอาจต้องเปียกปอน แต่ที่น่าสนใจก็คือ นายทักษิณ ชินวัตร ถึงขั้นที่ใช้คำพูดว่า “สึ่งตึง” กระแทก ฟาดไปที่หัวหน้าพรรคประชาชน
เรื่องของเรื่อง เริ่มจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวซึ่งป้อนคำถามว่า พร้อมที่จะจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยหัวหน้าพรรคประชาชนตอบว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยจะสามารถรวมกับพวกเราได้ ก็อาจจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่างยกตัวอย่างว่า อาจจะต้องมีการสื่อสารว่าการกระทำที่ผ่านมา เขาทำผิดต่อประชาชนจริงๆ และมีการสื่อสารเรื่องนี้อย่างชัดเจน
เพียงแค่นี้ ก็ไม่ผิดอะไรกับแหย่รังแตน หรือกระตุกหนวดเสือ เพราะนายทักษิณ ถือโอกาสใช้เวทีหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่ โต้ตอบฟาดหัวฟาดหาง กระแทกเต็มๆ ว่า “เมื่อสักครู่ผมนั่งรถมา ก็เห็นป้ายของพรรคประชาชนที่หัวหน้าคือเท้ง หรือหนุ่มซินตึ๊ง ซึ่งเขาบอกว่าพรรคประชาชนจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยได้ ก็ต่อเมื่อพรรคเพื่อไทยออกมาขอโทษประชาชนที่เคยทำผิดกับประชาชน เขาเอาอะไรมาพูด ตอนนี้พรรคประชาชนหรือพรรคก้าวไกล ติดหล่มอยู่กับการตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ที่ตั้งไม่ได้ โทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเอง เพราะเขาจะเอา 112 อยู่นั่น
อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันมีบุตรสาวเป็นนายกรัฐมนตรี ยังจัดหนักต่อไปว่า ระบบการเมืองคือระบบรัฐสภา ที่หากใครรวมส่งได้เกินกึ่งหนึ่งก็จะได้เป็นรัฐบาล เมื่อปี 2562 ที่พรรคเพื่อไทยชนะมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง พรรคพลังประชารัฐ ชนะเป็นอันดับ 2 ซึ่งเราตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจึงต้องมาเป็นฝ่ายค้านกับพรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้น เขาก็ไม่เห็นพูดอะไรสักคำเพราะเขารู้ว่าเราชนะที่หนึ่งแต่รวมเสียงไม่ได้ แต่พอเขาชนะเป็นพรรคลำดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยให้โอกาส แต่รวมเสียงยังไงก็รวมไม่ได้ สว. ไม่เอาใครก็ไม่เอา เป็นคนไม่มีเพื่อน แล้วมาโทษคนอื่น แบบนี้แหละเขายังเป็นละอ่อน ก็คิดแบบละอ่อน บอกว่าจะมารวมกับพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาล ถามแล้วหรือยังว่าเราจะเอาหรือไม่ ยังไม่ได้บอกว่าเราจะเอามารวม แต่บอกว่าให้เราไปขอโทษประชาชน มันสึ่งตึง
ไม่รู้ว่า ตัวนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งถูกใช้คำว่า “สึ่งตึง” จะโต้ตอบ หรือคิดอ่านประการใด แต่คนที่ได้ยินได้ฟังแล้ว การใช้คำพูดจิกหัวแบบนี้ มันคือการเหยียดหยันแน่นอน
คนหนุ่มอย่าง นายณัฐพงษ์ เกิดวันที่ 18 พฤษภาคม 2530 อนาคตยังอีกยาวไกล ถูกเรียกหยันว่า “สึ่งตึง” ฉะนั้น ก็ขอได้โปรดชั่งน้ำหนัก เทียบเคียงกันว่า คนหนุ่มสาว อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน อย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดวันที่ 21 สิงหาคม 2529 แก่กว่าเพียงปีเดียว สมควรจะถูกเรียกว่าอะไรดี!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี