บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด จัดงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ “แสงฟ้าครบรอบ 50 ปี” (SFC 50 Years Anniversary) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Transforming for Sustainable Future - ปรับเปลี่ยนไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน” ด้วยแนวคิดการบริหารจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมเผยภาพรวมตลาดรับเหมาก่อสร้าง คาดในปี 63 มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น

นพ.เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในงานก่อสร้างอาคาร สูง กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2510 โดยมีชื่อเดิมว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด แสงฟ้าการช่าง ต่อมา ในปี พ.ศ.2512 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด” ในช่วงยุคบุกเบิก เรารับงานเหล็กรูปพรรณเป็นหลัก ต่อมาได้ ขยายขอบเขตการทำงานมากขึ้น เช่น งานรับเหมาก่อสร้างไซโลเก็บพืชผล ก่อสร้างโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ ย่าน จ.สระบุรี สืบเนื่องมาจนถึง ปี พ.ศ.2524 ที่บริษัทฯ ได้โอกาสเข้าร่วมประมูลและได้รับเลือกให้ดูแลโครงการก่อสร้าง “อาคารสำนักงานใหญ่ที่บางซื่อ ของ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด ซึ่งถือเป็นจุดพลิกผันให้บริษัทฯ เริ่มเข้าสู่การเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อาคารสูงเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน ด้วยการบริหารงานจากรุ่นสู่รุ่น จากอดีตที่ต้องเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่ก็สามารถผ่านพ้นกระแสเศรษฐกิจและยืนหยัดอยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างได้อย่างแข็งแรง รวมแล้วกว่า 50 ปี และมีโครงการที่ทำแล้วรวมทั้งสิ้นกว่า 400 โครงการ

นพ.เชิดศักดิ์ เราพร้อมพัฒนาคุณภาพของธรุกิจ โดยยึดหลัก ซื่อสัตย์ มุ่งมั่น เน้นการทำงานที่รวดเร็ว ด้วยการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างรากฐาน “ระบบอุตสาหกรรม”ผ่านแนวคิดการบริหาร การยึดมั่นในวิสัยทัศน์จากรุ่นพ่อสู่ ค่านิยมองค์กร 5 VALUES ใน Generation ที่ 2 โดยค่านิยมองค์กร 5 ประการ ประกอบด้วย 1.QUALITY ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเป็นเป้าหมายสูงสุด บริษัทฯ ได้พัฒนาและนำนวัตกรรมการทำงานใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ เช่น “LOOP CONSTRUCTION” มีระบบแบบแผน วัดผลได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทรัพยากรที่จำเป็น รวมถึงสามารถควบคุม คุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิตแบบ 100%

2.EXPERTISE ประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจ เราได้พัฒนาระบบการทำงานแบบ Loop Construction ส่งผลให้งานมีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ได้รับโอกาสและความไว้วางใจ ให้ก่อสร้างอาคารสูงมากว่า 100 โครงการ และเมื่อปี 2018 ในการจัดอันดับ 10 อาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดย www.terrabkk.com บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง รับโอกาสได้ก่อสร้าง 3 ใน 10 อาคารที่สูงที่สุดในประเทศ อันได้แก่ ตึก Four Season Private Residence, Magnolia Ratchadamri Boulevard, และ Menam Residences

3.SYNERGY และ 4.TRUSTWORTHY การทำงานร่วมกันแต่ให้ผลลัพธ์เแบบทวีคูณ และความไว้วางใจในการทำงาน ทั้งภายในองค์กร และการทำงานกับหน่วยงานอื่นภายนอกองค์กร โดยมีการปรับขบวนการทำงาน ภายใต้ Concept “SINGLE TEAM” การรวมทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องมาวางแผนโครงการร่วมกัน เพื่อให้เห็นภาพรวมเหมือนกัน เลือกทีมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน รวมถึงสร้างบรรยากาศในการทำงานแบบเชื่อใจกัน

5.CARING ความใส่ใจในการทำงาน ซึ่งเราแบ่งออกเป็น 3 หมวดคือ 1.Caring for our Customer ใส่ใจในการทำงานร่วมกับลูกค้า 2.Caring for Our People การใส่ใจในความเป็นอยู่ของพนักงานทุกระดับในองค์กร และ 3.Caring for our Society การช่วยเหลือสังคมนับเป็นหนึ่งในภารกิจของเรา

“เราต้องคอยพัฒนาธุรกิจให้เท่าทันตลอดเวลา เพราะถ้าเราคิดว่าเราดีที่สุดแล้ว ราอาจจะพึงพอใจและหยุดพัฒนา ผมมีความใฝ่ฝันที่จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีความกล้าที่จะท้าทาย ลิมิตหรือกรอบความคิดระบบการทำงานแบบเดิมๆ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่วิถีการทำงานที่จะส่งเสริมให้เราส่งมอบงาน ที่มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อ added values ให้กับลูกค้าและคู่ค้าของเรารอบด้าน “ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด กล่าว

นพ.เชิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราต้องพัฒนาเพื่อจะนำไปสู่วิสัยทัศน์ดังกล่าว ก็คือกลยุทธ์ 3 เสาหลักในการขับเคลื่อนคือ 1.การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ที่มีความสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ สร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ 2.การพัฒนาด้านเทคโนโลยีในการก่อสร้าง ซึ่งไม่ได้เน้นว่าจะต้องมีเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ที่ล้ำหน้าทันสมัยที่สุด แต่เราเรียนรู้ว่าความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา หาขบวนการทำงานในแบบใหม่ นั้นมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ 3.การพัฒนาระบบการทำงานในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการ วิถีการทำงานแบบ Single Team และ การ reinforce ขบวนการทำงานแบบ Loop Construction โดยเน้นที่ 2 ขบวนการสำคัญคือ การวางแผนที่ดี และ การควบคุมติดตามงานที่ดี

สำหรับภาพรวมตลาดรับเหมาก่อสร้างในปี 62 นั้น นพ.เชิดศักดิ์ กล่าวว่า ชะลอลงเล็กน้อยจากปีก่อน สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่แผ่วลง ภาคเอกชนชะลอการลงทุนเนื่องจาก รอความคืบหน้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ตลอดจนความเข้มงวดของ สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่มีผลบังคับใช้ในเดือน เมษายนที่ผ่านมา ทำให้งานก่อสร้างที่อยู่อาศัยในภาพรวมขยายตัวได้ในกรอบจำกัด และในช่วงปี 63 คาดว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนเติบโตตาม ในกรุงเทพ และปริมณฑล เราน่าจะยังได้เห็นการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูส ตามเส้นโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น

ทางด้านผลผลประกอบการของ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด มีรายได้เติบโตจากปีก่อนประมาณ 50% เป็นมูลค่าประมาณ 6 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเรามี Backlog ที่จะทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ในปี 63 บริษัทคาดว่าเราน่าจะเติบโตได้อยู่ที่ 15-20% และหนี่งในกลยุทธ์ของเราคือ พันธมิตรทางธุรกิจและกลุ่มฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ที่สามารถปรับตัวได้ต่อสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน ในปัจจุบัน แต่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากงาน โครงการคอนโดมิเนียมอาคารสูง เรายังมีการรับงานในส่วนของภาครัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ พหลโยธินและงานประเภท office building ซึ่งหนี่งในนั้นคือ พันธมิตรของเราในโครงการ Spring Tower ที่เราร่วมทุนกับ Aspiration One ที่จะช่วยทำให้บริษัทมี Recurring Income คือรายได้ที่เกิดขึ้นประจำในระยะยาว ซึ่งถือเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงประเภทหนึ่งให้กับธุรกิจอีกด้วย