“เซ็นทรัลแล็บไทย” จับมือ 3 พันธมิตรดันมาตรฐาน “กัญชา กัญชง” รับปลดล็อกพ้นยาเสพติด
20 พฤษภาคม 2565 บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย พิธีลงนามความร่วมมือการพัฒนาและควบคุมคุณภาพพืชสมุนไพร กัญชา กัญชง รวมทั้งวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์กับ บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด (THCG) และ บริษัท ซีบีโอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (CBO) และพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสร้างมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่ กับ บริษัท อะโกรว์แล็บ จำกัด (AgrowLab) โดยการลงนามร่วมกันของทั้ง 4 หน่วยงานนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับผู้ประกอบการ ที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจกัญชงกัญชา เช่น ธุรกิจอาหารแปรรูป ธุรกิจเครื่องสำอาง ธุรกิจทางการแพทย์ เป็นต้น เพื่อเตรียมรองรับการปลดล็อกกัญชงกัญชาออกจาก ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มิถุนายน 2565
นายชาคริต เทียบเธียรรัตน์ กรรมการผู้อำนวยการ เซ็นทรัลแล็บไทย กล่าวว่า หลังรัฐบาลมีมติปลดล็อกให้กัญชา กัญชง พ้นจากยาเสพติด และกฎหมายอนุญาตให้นำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปได้นั้น พบว่ามีผู้ประกอบการนำสารสกัดและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดกัญชง กัญชา เข้ามาทดสอบทางห้องปฏิบัติการจำนวนมาก เพื่อรองรับการทดสอบดังกล่าว เซ็นทรัลแล็บไทยได้เพิ่มศักยภาพทางห้องปฏิบัติการ ให้ครอบคลุมงานบริการด้านการตรวจวิเคราะห์ประเภทผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มีส่วนผสมของกัญชา กัญชงตลอดจนกระบวนการตรวจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ การตรวจแปลงปลูก ตรวจปัจจัยทางผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐาน รวมถึงการตรวจโรงงานผลิต ตามมาตรฐาน COA/GMP และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ข้อสำคัญคือ ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
ภายในยังจัดเสวนาในหัวข้อ “ปั้นธุรกิจกัญชา กัญชง ด้วยการสร้างมาตรฐาน รับปลดล็อกพ้นยาเสพติด 9 มิถุนายน” โดยนายอารยะ โรจนวณิชชากร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนางสุภาภรณ์ สายอรุณ ผู้จัดการกลุ่มงานบริการงานวิจัย( Research Service) เพื่อสร้างความเข้าใจในเนื้อหาและข้อกฎหมายหลังมีการปลดล็อคกัญชงกัญชา ที่สำคัญคือการสร้างมาตรฐานในภาคธุรกิจที่จะมีการนำสารสำคัญ THC และ CBD มาใช้ในผลิตภัณฑ์หลังจากนี้
คุณอารยะ โรจนวณิชชากร คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังปลดล็อกพืชสมุนไพรกัญชากัญชง ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 ในวันที่ 9 มิถุนายนในประกาศราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางนั้น รัฐบาลได้เน้นย้ำถึงการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และนำไปสู่การส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถปลูกได้แต่ต้องจดแจ้งในระบบของ อย.ส่วนด้านพาณิชย์ต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาตตามที่กฏหมายกำหนด แต่ทั้งนี้จะต้องได้คุณภาพมาตรฐาน โดยเฉพาะสารสกัดสำคัญ อาทิ THC ,CBD แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของการนำมาใช้ ซึ่งภาครัฐต้องเร่งให้องค์ความรู้ และที่สำคัญคือ การส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ที่ภาครัฐต้องให้การสนับสนุนและสร้างเครือข่ายโดยเปิดกว้างให้ห้องปฏิบัติการเอกชน เข้ามาดำเนินการ โดยมีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำหน้าที่กำกับดูแลและรับรองมาตรฐาน ทั้งยังเป็นกลไกด้านราคาที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงบริการง่ายขึ้น
ซึ่งเซ็นทรัลแล็บไทย ในฐานะห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ISO/IEC 17025 ได้รับใบอนุญาตการตรวจสารสำคัญจากภาครัฐ และผ่านการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการในการตรวจสารสำคัญในพืชกัญชกัญชา กับสำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมยินดีให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในการสร้างมาตรฐานสินค้า อีกทั้งยังได้รับกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชนอีกมากมายในการสนับสนุนผู้ประกอบการ
นายธนารัตน์ จิตต์พายัพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป (THCG) จำกัด เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือกันครั้งนี้ร่วมกับ เซ็นทรัลแล็บไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการสร้างมาตรฐานการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการร่วมกัน โดยจะกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานด้านการส่งตัวอย่าง การตรวจวิเคราะห์และการออกใบรายงานผล โดยเชื่อว่าการจับมือกันครั้งนี้ จะสร้างความมั่นใจให้กับสินค้าของบริษัทฯ ทั้งในด้านมาตรฐานและความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด มีสินค้าที่ผ่านการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานและได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และพร้อมจัดจำหน่ายแล้ว จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ขนมแฮปปี้กัมมี่ , ยาสีฟัน และ น้ำยาบ้วนปาก และยังมีสินค้าอีกกว่า 30 รายการที่อยู่ระหว่างขออนุญาตจากทาง อย.
นายวิศรุต สุคนธ์พงเผ่า กรรมการบริหาร บริษัท ซีบีโอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (CBO) ผู้ผลิตและจำหน่าย สินค้าอุปโภค บริโภคที่มีส่วนผสมจาก สารสกัด Cannabinoid ตามกฎหมายภายใต้เครื่องหมายการค้า CHARLOTTE’S TALE กล่าวว่า แม้ผู้บริโภคจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารCBD แต่ในกรอบกฎหมายและกฎระเบียบที่มีอยู่ขณะนี้ มองว่ายังไม่มีความชัดเจน อาจต้องมีการปรับและพัฒนาอยู่อีกระยะ นอกจากนี้ความแตกต่างอย่างมากในด้านคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ CBD ที่มีจำหน่ายในตลาดปัจจุบัน ผู้ผลิตบางรายยังขาดความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในผลิตภัณฑ์จากสารสกัดภายใต้การควบคุม ซึ่งความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถเอาชนะความท้าทายดังกล่าวได้ ภายใต้ความมุ่งมั่นของเราที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคนไทยทั่วประเทศ
นายตะวัน น้อยมีธนาสาร กรรมการผู้จัดการ (AgrowLab) กล่าวว่า บริษัท อะโกรว์แล็บ จำกัด เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีทางการเกษตรครบวงจร ทั้งในด้านการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี ระบบ และอุปกรณ์สนับสนุนการปลูกพืชสำหรับการปลูกพืชในรูปแบบต่างๆ ประกอบด้วย โรงงานผลิตพืชหรือโรงเรือนระบบปิด (Plant Factory) โรงเรือนปลูกพืช (Greenhouse) และการปลูกพืชกลางแจ้ง (Outdoor Farming) รวมถึงระบบการปลูกพืชเชิงอุตสาหกรรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้ จะเข้ามารองรับเกษตรกรที่สนใจสร้างมาตรฐานการปลูกกัญชงกัญชาให้เป็นไปตามมาตรฐาน อีกทั้งยังช่วยให้การควบคุมสาระสำคัญเช่น THC CBD ภายในกัญชงกัญชา อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
สำหรับข้อบังคับในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยในข้อที่ 3 ระบุไว้ว่า สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis ยกเว้นสารสกัดที่มีปริมาณ สารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้สกัดจากพืชกัญชาหรือกัญชงที่ปลูกภายในประเทศ ให้ยกเว้นจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี