สตรอแมนน์ กรุ๊ป ประเทศไทย ผู้นำเข้ารากฟันเทียมภายใต้แบรนด์ “สตรอแมนน์” (Straumann) เผยตลาดทันตกรรมรากฟันเทียมในไทยยังไปได้อีกไกล เตรียมเดินหน้ารุกตลาดเต็มสูบ มองปัญหาของคนไข้ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและพร้อมร่วมแก้ไข นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการทั้งกลุ่มพรีเมี่ยมและแมส ด้วยจุดเด่นด้านนวัตกรรมคุณภาพ บริการหลังการขายโดยการรับประกันสินค้าตลอดชีวิตคนไข้ พร้อมกับการเปิดตัว ไอทีไอ (ITI) หรือ International Team for Implantology สาขาประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมาซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่เกิดจากการรวมตัวกันของทันตแพทย์ผู้ชำนาญในส่วนเฉพาะงานด้านทันตกรรมรากฟันเทียมทั่วโลกเมื่อ 42 ปีก่อน มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพงานด้านทันตกรรมรากเทียมให้มีมาตรฐานและประสบความสำเร็จในการรักษาในอัตราที่สูง สำหรับ ITI ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งแรงผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งสู่การเติบโตในกลุ่ม Wellness & HealthCare พร้อมประเดิมโปรเจคแรกจัดโครงการมอบรากฟันเทียมแก่พระสงฆ์ไทยจำนวน 42 รากฟันเทียม
นางนงลักษณ์ กิจเจริญการกุล ประธานบริหารบริษัทสตรอแมนน์กรุ๊ป (ประเทศไทย) ผู้นำเข้ารากฟันเทียมภายใต้แบรนด์“สตรอแมนน์” (Straumann)กล่าวว่า “สตรอแมนน์เป็นแบรนด์รากฟันเทียมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์บริษัทก่อตั้งมาปีนี้เป็นปีที่68และเป็นแบรนด์รากเทียมที่มียอดขายเป็นอันดับ1ในตลาดทันตกรรมรากฟันเทียมของโลกโดยครองส่วนแบ่งทางการตลาด29%จากมูลค่าตลาดรวมกว่า340,000ล้านบาทสำหรับประเทศไทยแบรนด์รากเทียมสตรอแมนน์ได้เข้ามาเกือบ20ปีทำให้พบว่าตลาดรากฟันเทียมในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมกว่า600ล้านบาทถึงแม้ในช่วง2ปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19แต่สามารถเติบโตกลับคืนมาใกล้เคียงเดิมและจะยังเติบโตได้อีกมากเมื่อวิเคราะห์จากปริมาณการใช้รากฟันเทียมของคนไข้ในประเทศที่มีอยู่เพียง70,000รากเทียมซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรไทยกว่า67ล้านคนอีกทั้งไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในยุคNext Normal หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะสุขภาพร่างกายและช่องปากรวมถึงยังให้ความสำคัญกับการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงรวมทั้งการดูแลหลังการเข้ารับบริการ
นอกจากนี้ยังได้พบปัญหาสำคัญของคนไข้ทั้งการใช้รากฟันเทียมที่ไม่ได้คุณภาพทำให้ต้องเข้ารับการรักษาใหม่หรือปัญหาการใช้รากฟันเทียมจากบริษัทนำเข้าที่ไม่ใช่บริษัทเจ้าของสินค้ามาทำตลาดโดยตรงในประเทศทำให้มีโอกาสปิดตัวหรือเลิกนำเข้าได้ทุกเมื่อหากเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจหรือยอดขายไม่ได้ตามเป้าส่งผลต่อคนไข้เมื่อเกิดปัญหากับรากฟันที่ใช้อยู่จำเป็นต้องถอนรากฟันเทียมตัวเก่าที่ติดแน่นในกระดูกออกเนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ส่วนที่ต้องใช้รักษาทดแทนในคนไข้บางรายมองว่าราคารากฟันเทียมสูงจึงไม่อยากใส่ทำให้เกิดปัญหาในช่องปากต่างๆตามมาอาทิฟันข้างเคียงล้มช่องว่างระหว่างฟันกว้างมากขึ้นฟันคู่สบยื่นยาวการบดเคี้ยวผิดไปเป็นต้น
ดังนั้นบริษัทฯจึงได้เตรียมปรับแผนการตลาดเพื่อให้สอดรับความต้องการของกลุ่มคนไข้และการเติบโตของตลาดทันตกรรมรากฟันเทียมในอนาคตตั้งแต่การนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านทันตกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานรากเทียมมาเพื่อครอบคลุมทุกความต้องการทุกข้อบ่งใช้โดยยังคำนึงถึงคุณภาพและการบริการโดยในส่วนรากฟันเทียมแบ่งออกเป็นรากฟันเทียมแบรนด์Straumann ซึ่งถือเป็นเรือธงที่นำเข้ามาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดPremium segment ในประเทศไทยรวมถึงคนไข้ชาวต่างชาติที่เดินทางมารักษาในประเทศไทยด้วยการชูจุดเด่นด้านคุณภาพที่เอื้อต่อการรักษาทั้งในด้านขนาดรากเทียมที่เล็กกว่าแต่แข็งแรงกว่าทำให้สามารถลดเวลาและขนาดของบริเวณผ่าตัดให้น้อยและเล็กลงการมีเทคโนโลยีที่ผิวรากเทียมทำให้แผลหายเร็วกว่าปกติและมีทางเลือกให้คนไข้กลุ่มที่มีโรคบางชนิดเช่นโรคเบาหวานโรคกระดูกพรุนเพิ่มโอกาสในความสำเร็จของการรรักษา รวมถึงการรับประกันสินค้าตลอดชีวิตการใช้งานของคนไข้และworldwide guarantee ทำให้สะดวกในการขอเคลมสินค้าเมื่อมีปัญหาโดยตรงกับบริษัทฯในประเทศที่อาศัยอยู่ได้ทันทีไม่ว่าจะทำการรักษามาจากประเทศไหนก็ตาม รากฟันเทียมแบรนด์Neodent ซึ่งถือเป็นแบรนด์รากฟันเทียมน้องใหม่ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้เพียง5ปีเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มValue segment หรือกลุ่มคนไข้ระดับแมสด้วยจุดเด่นการตอบโจทย์ด้านราคาพร้อมทั้งคุณภาพและการดูแลหลังเข้ารับบริการที่ได้มาตรฐานอีกทั้งล่าสุดได้นำเข้าเทคโนโลยีและอุปกรณ์สำหรับการจัดฟันใสเพื่อเจาะตลาดการจัดฟันใสในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นช่วยให้การจัดฟันใสมีราคาที่เอื้อมถึงได้ในรายคนที่สนใจทำ
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง“ไอทีไอ”หรือInternational Team for Implantology (ITI)ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนทันตแพทย์ด้านทันตกรรมรากฟันเทียมเปิดตัวInternational Team for Implantology - Thailand section อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเพื่อร่วมมือกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านทันตกรรมรากเทียมด้วยการสนับสนุนให้ความรู้แก่ทันตแพทย์ผ่านการจัดอบรมโดยทันตแพทย์รากเทียมที่มีชื่อเสียงระดับโลกพร้อมทั้งสนับสนุนงบประมาณการวิจัยให้แก่ทันตแพทย์เพื่อนำผลวิจัยต่างๆมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นและสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆที่จะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเป็นประโยชน์ในการรักษาต่อคนไข้ในอนาคต
ดร. อเล็กซานเดอร์ อ็อชเนอร์ ประธานบริหารองค์กรInternational Team for Implantology (ITI) กล่าวว่า “ITI เป็นองค์กรนานาชาติที่ก่อตั้งมานานกว่า42ปีมีเครือข่ายกว่า40ประเทศและมีสมาชิกกลุ่มทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านงานรากเทียมกว่า18,000คนจาก100ประเทศทั่วโลกโดยมีพันธกิจหลักคือการแบ่งปันความรู้ทางงานทันตกรรมรากเทียมและสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องรวมถึงการจัดกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆทั้งการประชุมสัมนาย่อยและการประชุมระดับประเทศระดับภูมิภาคและระดับโลกโดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสตรอแมนน์กรุ๊ป
สำหรับในประเทศไทยITI ได้เข้ามาเป็นที่รู้จักกว่า19ปีปัจจุบันมีสมาชิกทันตแพทย์ไทยมากกว่า300คนโดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็น1ใน40ประเทศจัดตั้งInternational Team for Implantology - Thailand section อย่างเป็นทางการเพื่อร่วมมือกันยกระดับคุณภาพวงการทันตกรรมงานรากเทียมในประเทศไทยเพื่อให้คนไข้ได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุดพร้อมกันนี้เพื่อเป็นการฉลองสู่ปีที่42ของITI จึงได้ร่วมมือกับบริษัทสตรอแมนน์กรุ๊ปประเทศไทยจัดทำโครงการมอบรากฟันเทียมจำนวน42รากฟันให้แก่พระภิกษุสงฆ์ที่มีปัญหาในด้านการบดเคี้ยวและมีความจำเป็นต้องใช้รากฟันเทียมทดแทนฟันที่สูญหายพร้อมทั้งได้ร่วมมือกับทันตแพทย์สมาชิกITI เพื่อดำเนินการรักษาให้แก่พระภิกษุสงฆ์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณพรปวีณ์เสนะโกวรโทร. 061 396 5252 หรือ www.iticsr.com
นางนงลักษณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทั้งนี้สตรอแมนน์ได้ตั้งเป้าหมายทางการตลาดในปี2565 จะสามารถทำรายได้รวมกว่า300 ล้านบาทตอกย้ำการเป็นผู้นำทางธุรกิจด้านทันตกรรมรากฟันเทียมในประเทศไทยพร้อมทั้งเป็นผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านทันตกรรมรากฟันเทียมอีกทั้งได้ตั้งเป้าหมายสำคัญภายใน5 ปีข้างหน้าเตรียมสร้างฐานการผลิตในประเทศไทยหากได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาล”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี