การฉีดเมโส หรือ Mesotherapy ถือว่าเป็นการฉีดวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อผิวโดยตรง เพื่อช่วยบำรุงและ ฟื้นฟูสภาพผิวที่มีการเสื่อมสภาพ และ ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ บนผิวหน้าได้ดี อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นกระจ่างใส และ ลดการอักเสบ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ในบทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับเมโสหน้าใส ว่าจะช่วยให้หน้าใสได้อย่างไร มีอันตรายไหม และเหมาะกับใครบ้าง?
เมโสหน้าใส คืออะไร?
การทำทรีทเม้นท์ที่สามารถช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกโดยตรง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางลัดในการนำส่วนผสมที่มีประโยชน์อยู่ในครีมต่างๆ มาสกัดเป็นตัวยาที่สามารถดูดซึมได้รวดเร็ว นำมาฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังโดยตรง และจะออกฤทธิ์ไวขึ้น โดยจะเริ่มเห็นผลได้ภายใน 1 อาทิตย์หลังฉีด สามาถช่วยให้ผิวบนใบหน้าดูชุ่มชื้นอ่อนเยาว์มากขึ้น
คำว่า “เมโส” มีที่มาอย่างไร?
คำว่าเมโส มีที่มาจากคำว่า meso ที่แปลว่า ตรงกลาง ซึ่งหมายถึงการฉีดลงไปใน “ชั้นกลางของผิว” หรือในผิวชั้นกลาง (Dermis) เป็นชั้นที่ผิวหนังแท้ จะมีการประกอบไปด้วยคอลลาเจนและ อิลาสติน เป็นเนื้อเยื่อที่มีความเกี่ยวพันที่ให้ความแข็งแรงและให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวหนังและ hyaluronic acid ซึ่งจะมีอายุที่เพิ่มมากขึ้นหรือมรพฤติกรรมการในการใช้ชีวิตจะทำให้เซลล์ระดับคอลลาเจน และอิลาสติน ทำให้โครงสร้างผิวเกิดการเสื่อมสภาพลง
เมโสหน้าใส ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
หน้าที่หลักของเมโสหน้าใส คือการฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงและมีความยืดหยุ่น โดยมีหลักการฉีดลึกลงไปบริเวณกลางผิวเพื่อให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิ์ ตัวเมโสหน้าใสจะมีตัวยาหลายยี่ห้อคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ตัวยาที่นิยมมาใช้ในการฉีดเมโสหน้าใสมีดังนี้
- Tensonez ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน
- Filorga ช่วยลดเลือนจุดด่างดำเช่น ฝ้า กระ ทำให้ผิวชุ่มชื้น
- Depigment ช่วยลดฝ้า ลดการสร้างเม็ดสีผิว
- Alpha arbutin เน้นลดฝ้าโดยตรง
- Made Collagen ลดผดผื่น สิวอักเสบ ทำให้ผิวแข็งแรงลดอาการผิวแพ้ง่าย
การฉีดเมโสหน้าใสเหมาะกับใครบ้าง?
1.เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวอย่างรวดเร็ว กว่าการทาครีม
2.เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตนเอง พักผ่อนน้อยทำงานหนัก
3.เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าดูหมองคล้ำ เพื่อช่วยให้ผิวหน้ากลับมากระจ่างใสขึ้น
4.เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งผิวดูเสื่อมสภาพ ต้องการบำรุงผิวให้สดใสขึ้น
5.เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส ดูอิ่มเอมอยู่ตลอดเวลา
เมโสหน้าใส อันตรายไหม?
ไม่อันตราย พราะตัวยามีส่วนผสมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ตามหลักแล้ว สารประเภท Homeopathy เป็นวิตามินต่างๆ ที่สามารถช่วยบำรุงฟื้นฟูสภาพผิว และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิว หนังให้แข็งแรง ถ้าเลือกฉีดโดยใช้ตัวยาเมโสแท้ที่มีการผ่านอย. อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ฉีดเมโสหน้าใส เจ็บไหม?
แพทย์จะไม่มีการใช้ยาชา เพราะเป็นหัตถการที่ใช้เวลาไม่นาน สามารถใช้แค่น้ำแข็งประคบเย็นเพื่อช่วยลดความเจ็บที่เกิดจากรอยเข็ม และ แพทย์จะฉีดลงบนผิวชั้นกลาง คนไข้จึงจะไม่รู้สึกเจ็บได้เลย
เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน?
ตัวยาจะออกฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 1-2 เดือน หากมีการฉีดอย่างสม่ำเสมอตัวยาจะอยู่ได้นานขึ้น และที่สำคัญควรดูแลตัวเองให้ดี ไม่ทำพฤติกรรมที่ส่งผลทำร้ายผิวหนังโดยตรง เช่น การออกแดด พักผ่องน้อย และ ควรลดดื่มแอลกอฮอลล์หรือสูบบุหรี่ให้น้อยลงเพื่อช่วยให้ผิวคงสภาพที่ดีเอาไว้
เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด vs 16 จุด?
แบบสะกิด แพทย์จะใช้เข็มสะกิดทั่วใบหน้าให้ตัวยาได้มีการซึมลงใต้ชั้นผิว เป็นวิธีที่เจ็บ มีการทิ้งรอยแผล ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน แต่สามารถช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้
แบบฉีด16 จุด แพทย์จะใช้เข็มฉีดตามจุดไหบเวียงจองต่อมน้ำเหลือง ฉีด16 จุดทั่วใบหน้า สามารถช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าการสะกิดมีแผลน้อย เจ็บน้อยกว่า ไม่ต้องพักฟื้นสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำ
เมโสหน้าใสฉีดแล้วออกฤทธิ์นานกี่เดือน ทำบ่อยแค่ไหน และมีข้อระวังอะไรบ้าง?
เริ่มเห็นผลภายใน 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลอย่างเต็มที่ภายใน 7-14 วัน หากฉีดครั้งแรกควรมีการฉีดอาทิตย์ละครั้งใน 1 เดือนแรก และหลังจากนั้นควรฉีดทุกๆ 2 อาทิตย์เพื่อช่วยให้ผิวคงสภาพที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับข้อระวังในการฉีดเมโสหน้าใสต้องฉีดในสถานพยาบาลคลินิกที่น่าเชื่อถือ ฉีดโดยแพทย์ เพราะตัวแท้ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น เช่น ถ้าหากมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ หรือฮอร์โมน ก็จะทำให้ชั้นผิวบาง เกิดฝ้า ผิวไวต่อแดด เกิดริ้วรอยบางรายถึงขั้นเกิดมะเร็งได้อีกด้วย
ผลลัพธ์สิวลดลงเมื่อฉีดมาเด้คอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ก่อนหลังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันขึ้นกับสภาพผิวเดิมและความต่อเนื่องในการฉีดมาเด้คอลลาเจน แนะนำฉีดต่อเนื่องจะได้ผลลัพธ์ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี