เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2567 ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาการพัฒนาฝีมือแรงงาน เทียบโอน และสะสมหน่วยกิตในระบบธนาคารหน่วยกิต ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่งและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีนางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง และอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารในสังกัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง และผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมพิธี
นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงแรงงานมีนโยบายส่งเสริมความร่วมมือในการผลิตกำลังคนในภาคการศึกษา และภาคแรงงาน Up - Skill for More Earn เพื่อการมีงานทำรองรับเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกำลังแรงงานรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งระบบ มีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะฝีมือในทุกระดับอย่างมีมาตรฐาน ส่งเสริมให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ มีรายได้ มีงานทำ มีสวัสดิการ และเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือว่ามีเป้าหมายและกลไกในการบูรณาการภารกิจร่วมกัน ระหว่าง กระทรวงแรงงาน กับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันจัดฝึกอบรมหลักสูตรฝึกอบรมฝีมือแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ การพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อสะสมในระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) โดยนำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และหลักสูตรการฝึกอบรมฝีมือแรงงานมาเทียบโอนการเรียนรู้สู่ระบบธนาคารดังกล่าว เพื่อแรงงานจะได้วุฒิการศึกษา เป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ได้เรียนในระบบ แต่มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากการทำงาน การฝึกอบรม การทดสอบ หรือประสบการณ์ด้านอื่น ได้มีโอกาสนำไปใช้เพิ่มคุณวุฒิการศึกษาด้านวิชาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีงานทำ และมีรายได้ที่สูงขึ้น
ด้านน.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวง อว.ได้นำผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) 9 แห่ง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันที่จะร่วมมือกับกระทรวงแรงงานเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ได้เรียนในระบบ แต่มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากการทำงานนำไปใช้เพิ่มคุณวุฒิการศึกษาด้านวิชาชีพ ซึ่งนอกจาก มทร.แล้ว ยังมีอีกหลายมหาวิทยาลัยที่สนใจและพร้อมร่วมมือในเรื่องนี้
การลงนามในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยให้การบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสองกระทรวงเกิดประโยชน์กับประชาชนทุกช่วงวัยสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถสะสมในระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อให้ได้มีวุฒิ มีงานทำ และมีรายได้ที่สูงขึ้นต่อไป
ขณะที่ น.ส.บุปผา กล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีภารกิจหลักในการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน และพัฒนาแรงงานที่อยู่ในตลาดแรงงานให้มีทักษะฝีมือสูงขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานระบบธนาคารหน่วยกิตของประเทศ ในการเพิ่มแรงงานที่มีคุณวุฒิและทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานให้มีงานทำ และมีรายได้ที่สูงขึ้น จึงได้บูรณาการกับสถานศึกษา ซึ่งครั้งนี้ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และนำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างเขียนแบบเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ CAD เป็นต้น เพื่อนำไปเทียบหน่วยกิตกับคณะวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งเป็นคณะนำร่องและในอนาคตมีแผนจะขยายผลเทียบหน่วยกิตกับคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาเทคโนโลยีการผลิต และบริหารงานก่อสร้าง ในส่วนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะนำหลักสูตรการฝึกอบรมฝีมือแรงงานในสาขาที่เกี่ยวข้อง อาทิ สาขาเทคโนโลยีทางการเกษตร วิศวกรรมการบิน และวิศวกรรมไฟฟ้า ไปเทียบหน่วยกิตกับคณะเกษตร และคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อให้กำลังแรงงานจะได้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี
“ความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้แรงงานที่อยู่นอกระบบการศึกษา แต่ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนานผ่านการฝึกอบรม และทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานแล้ว นำมาเทียบโอนหน่วยกิต เพื่อปรับวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรี เป็นการร่นระยะเวลาในการเรียน และประหยัดค่าใช้จ่ายทางการศึกษาอีกด้วย” อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี