Swiss Energy by Dr.Frei เปลี่ยนชื่อแบรนด์ สู่ Dr.Frei กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ มุ่งสู่ความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง ด้านนวัตกรรมอาหารเสริมจากสวิตเซอร์แลนด์
สวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) แบรนด์วิตามินอาหารเสริมประเภทเม็ดฟู่และแคปซูลนำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของโลก ทำการเปลี่ยนชื่อและโลโก้กลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ไปสู่ดร.ฟราย (Dr.Frei) จากการปรับเปลี่ยนนโยบายและโครงสร้างทางธุรกิจ เน้นความเป็น Home Doctor หรือ หมอประจำบ้านของคุณ โดยจะเริ่มใช้ชื่อและโลโก้ใหม่ตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป
การปรับนโยบายและโครงสร้างธุรกิจกับการรีแบรนด์สู่ ดร.ฟราย (Dr.Frei)
แรกเริ่มเดิมทีแบรนด์ที่ชื่อแบรนด์ดร.ฟราย (Dr.Frei) ถือกำเนิดขึ้นในปี 1999 โดยดำเนินธุรกิจผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ในใช้ในบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีการแตกแบรนด์ย่อยออกมาเป็นสวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) ที่เน้นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับวิตามินเพื่อสุขภาพประเภทเม็ดฟู่และแคปซูล รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และได้ทำการตลาดในหลายๆประเทศด้วยชื่อสวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) เพื่อชูความเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์อยู่ราวๆ 7 ปี และด้วยการเติบโตและความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทได้มีการขยายโรงงานผลิตเพิ่มขึ้นในหลายประเทศสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด ภายใต้มาตรฐานเดียวกันอย่าง Swiss medic, ISO, IFS และ GMP เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้คนทั่วโลก แต่ในปัจจุบันทั้งแบรนด์ดร.ฟราย (Dr.Frei) และสวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของแบรนด์และธุรกิจโดยเข้าไปอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท โกลบอลสวิสกรุ๊ป (Global Swiss Group) และหนึ่งในนโยบายใหม่ ก็คือ ทางผู้บริหารอยากให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้ชื่อสวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) เพื่อนำเสนอความเป็นแหล่งกำเนิดที่มาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ (Geographical Brand) ให้เห็นอย่างชัดเจน ให้ตรงตามชื่อสวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) แต่หากผลิตจากแหล่งอื่นๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นดร.ฟราย (Dr.Frei)โดยใช้เหมือนกันทั่วโลก
คุณลดาวัลย์ เหวียน ซีอีโอของ บริษัท วิต้าลิซี่ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายแบรนด์สวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) แต่เพียงผู้เดียวในไทย กล่าวว่า “สำหรับแบรนด์สวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) ในประเทศไทยนั้นตั้งแต่เริ่มแรกเราได้มีการนำเข้ามาจากแหล่งกำเนิดต่างๆในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นสวิสเซอร์แลนด์ เยอรมันนี และบังกาเรีย ไม่ได้นำเข้าเฉพาะแต่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ทีมผู้บริหารของบริษัทฯได้พิจารณาหลากหลายองค์ประกอบทั้งนโยบาย ภาพลักษณ์ของแบรนด์ การจดจำของผู้บริโภค รวมไปถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งแบรนด์และผู้บริโภคในประเทศไทย ประการแรก คือ ถ้าเปลี่ยนการนำเข้าผลิตภัณฑ์ไปเป็นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อคงชื่อแบรนด์สวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) เหมือนเดิม จะเป็นผลดีต่อการรับรู้ในตัวแบรนด์เพราะไม่ต้องเปลี่ยนชื่อและทำการสื่อสารใหม่ แต่จะส่งผลต่อต้นทุนโดยตรงทำให้ต้องเพิ่มราคาสินค้าซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประการที่สอง คือ เรื่องของการรับรู้ในตัวแบรนด์ หากลองสังเกตดีๆ แบรนด์สวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) ที่ใช้มาตลอด 5 ปีที่ผ่านมาในการทำการตลาดในประเทศไทย จะมีคำว่า by Dr.Frei ตัวเล็กๆอยู่ด้านล่างของโลโก้ (Swiss Energy by Dr.Frei) เป็นลักษณะของการนำแบรนด์หลักมารับรองแบรนด์สินค้าหรือที่เรียกว่า Endorsed-Brand ซึ่งเป็นการสร้างการรับรู้ในชื่อของดร.ฟราย (Dr.Frei) มาตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว
ประการที่สาม คือ แบรนด์สวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) มีเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นวิตามินอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แต่แบรนด์ดร.ฟราย (Dr.Frei) มีผลิตภัณฑ์อื่นๆที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา โดยหากพิจารณาแล้วโอกาสนำเข้าผลิตภัณฑ์อื่นๆมาทำตลาดก็จะง่ายมากยิ่งขึ้น”
“การเปลี่ยนชื่อและโลโก้ไปสู่ดร.ฟราย (Dr.Frei) ในครั้งนี้จึงไม่น่าจะส่งผลต่อการรับรู้ของผู้บริโภคมากเท่าที่ควร เพราะคาดว่าผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องกันได้ไม่ยาก โดยชื่อแบรนด์และโลโก้ดร.ฟราย (Dr.Frei) นั้นมีการออกแบบที่คล้ายคลึงกับโลโก้ของสวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) และหากมีการวางแผนการสื่อสารแบรนด์และการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างเหมาะสม ก็สามารถสร้างการรับรู้ในชื่อแบรนด์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เรายังคงใช้ฐานการผลิตและการนำเข้าจากที่เดิมเพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องของคุณภาพที่ยังเหมือนเดิม (ในราคาที่คนไทยจับต้องได้เช่นเดิม) และยังเพิ่มโอกาสในการเจาะตลาดใหม่ๆได้อีกด้วย ทีมผู้บริหารจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อและโลโก้เป็นดร.ฟราย (Dr.Frei) ในที่สุด” คุณลดาวัลย์ กล่าวสรุป
คุณลดาวัลย์ เหวียน (CEO บริษัทวิต้าลิซี่ จำกัด) และ Mr. Boris Frei ( President บริษัท โกลบอลสวิส กรุ๊ป)
5 ปีของแบรนด์ Swiss Energy กับการบุกตลาดในประเทศไทย ได้รับการตอบรับด้วยดีตลอดมา
ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อแบรนด์สู่ดร.ฟราย (Dr.Frei) แบรนด์สวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผ่านบริษัท วิต้าลิซี่ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย ด้วยเป้าหมายสูงสุดที่จะเป็นเเบรนด์ชั้นนำด้านวิตามินเพื่อดูเเลสุขภาพเเละผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพเเละความงาม และวิสัยทัศน์ที่จะผลิตอาหารเสริมระดับพรีเมี่ยมด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูงสุดในการดูแลสุขภาพของผู้คนทั่วโลก โดยเน้นการนำเข้าผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่และแคปซูลเป็นหลัก ซึ่งได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ รสชาติที่อร่อย และทานได้ง่าย มีทั้งลูกค้าขาประจำในสัดส่วน 60% และลูกค้าขาจรในสัดส่วน 40%
สำหรับการเปลี่ยนชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ไปสู่ดร.ฟราย (Dr.Frei) ในครั้งนี้ จะเริ่มต้นเปลี่ยนตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป หากใครเห็นชื่อและโลโก้ดร.ฟราย (Dr.Frei) ก็ไม่ต้องตกใจเพราะคือแบรนด์เดียวกันกับสวิสเอ็นเนอร์จี้ (Swiss Energy) โดยคุณสมบัติและมาตรฐานการผลิตทุกอย่างของผลิตภัณฑ์ยังเหมือนเดิม
ในส่วนแบรนด์ สวิสเอ็นเนอร์จี้ (SWISS ENERGY ) ยังคงมีจำหน่ายอยู่ควบคู่กับทางแบรนด์ ดร.ฟราย ( DR.FREI ) โดย SWISS ENERGY จำหน่ายในกลุ่มแคปซูลนวัตกรรม Sustained Release และ แบรนด์ DR.FREI จำหน่ายสินค้าในกลุ่มเม็ดฟู่ โดยทั้งสองแบรนด์ อยู่ภายใต้กลุ่ม โกลบอลสวิสกรุ๊ป (Global Swiss Group)
การจัดกลุ่มโครงสร้างเเบรนด์สินค้าในครั้งนี้ มีเป้าหมายสูงสุด คือการเป็น Top of mind ของลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายเป็นวิตามินนำเข้าที่ครองใจลูกค้าอันดับ 1 ของตลาดวิตามินในเมืองไทย โดยลูกค้าสามารถซื้อสินค้าแบรนด์ SWISS ENERGY และ DR.FREI ได้ที่ร้านขายยาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และสามารถดูข้อมูลสินค้าได้ที่ WWW.VITALICY-THAILAND.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี