“พาณิชย์” ผนึกกำลัง “กระทรวงดีอีเอส” เปิดจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ดันร้านธงฟ้าเป็นจุดบริการ Drop Off ให้กับไปรษณีย์ไทย เพิ่มโอกาสให้กับเกษตรกรและ SMEs สามารถส่งสินค้าได้ง่าย ผ่านเครือข่ายร้านธงฟ้ากว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ ดีเดย์เปิดให้บริการตั้งแต่เดือน เม.ย. นี้เป็นต้นไป
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานการลงนามระหว่างกรมการค้าภายใน และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาร้านธงฟ้าเป็นจุดบริการไปรษณีย์ (ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า) ณ ห้องประชุมบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์ ว่า โครงการนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยใช้กลไกเครือข่ายร้านธงฟ้าที่มีอยู่ทั่วประเทศให้เป็นจุดดรอปพัสดุ (Drop Off) ของไปรษณีย์ ตามแนวทางการใช้ศักยภาพและใช้จุดแข็งของกันและกันในการขับเคลื่อนและสร้างโอกาสให้กับร้านธงฟ้า เกษตรกร ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) และไปรษณีย์ไทยเอง
สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากช่วยเพิ่มเครือข่ายบริการให้ของไปรษณีย์ไทยให้ครอบคลุมการให้บริการประชาชนทั้งประเทศ ยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับร้านธงฟ้า ที่จะมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น มีช่องทางในการเพิ่มรายได้มากขึ้น และในส่วนของเกษตรกร ผู้ประกอบการ SMEs ร้านค้าออนไลน์ และประชาชนทั่วไป จะได้ประโยชน์ในการส่งสินค้าที่สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น เพราะร้านธงฟ้าอยู่ใกล้บ้าน ลดข้อจำกัดในการเดินทางไปไปรษณีย์ไทย และยังสามารถเลือกเวลาส่งสินค้าได้ด้วย
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ไปรษณีย์ไทย ร่วมกับกรมการค้าภายใน พัฒนาระบบรองรับการขยายจุดดรอปพัสดุที่ร้านธงฟ้า เพื่อใช้และสร้างโอกาสให้กับร้านธงฟ้าที่มีอยู่ทุกชุมชน เป็นช่องทางในการให้บริการไปรษณีย์ และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และผลักดันให้ระบบฝากส่งสิ่งของเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายยิ่งขึ้น จากการมีจุดดรอปออฟที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่
“ไปรษณีย์ไทย เป็นกลไกสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่ก้าวทันทุกการแข่งขัน คล่องตัว มีเครือข่าย ข้อมูล ระบบการให้บริการ และเทคโนโลยีที่รองรับความต้องการได้หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งความเชี่ยวชาญของบุรุษไปรษณีย์ ซึ่งความโดดเด่นเหล่านี้ จะช่วยสร้างโอกาสให้กับทุกคน และหนุนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโตได้แบบไร้รอยต่อ” นายประเสริฐกล่าว
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้วยการพัฒนาระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ และใช้กลไกนี้เป็นจุดเชื่อมต่อภาคส่วนต่าง ๆ ให้ได้รับประโยชน์ และสำหรับโมเดลการพัฒนาร้านธงฟ้า 20,000 แห่ง ให้เป็นจุดให้บริการงานไปรษณีย์ในลักษณะดรอปออฟในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ สังคม ชุมชนให้มีการเติบโตในหลากหลายมิติ ตั้งแต่ในส่วนของร้านธงฟ้าที่สามารถสร้างรายได้โดยไม่ต้องลงทุน และสามารถสร้างเครือข่ายกับธุรกิจต่าง ๆ ได้มากขึ้น ในส่วนของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่มีสัญญากับไปรษณีย์ไทยจะได้รับความสะดวกในการดรอปสิ่งของที่จุดให้บริการใกล้บ้าน ทำให้ดรอปง่าย สร้างรายได้ เครือข่ายครอบคลุมด้วยคุณภาพบริการตอบโจทย์ธุรกิจ
สำหรับจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ในระยะแรก จะเปิดเป็นจุดดรอปพัสดุ ผู้ฝากส่งเพียงเตรียมการฝากส่งล่วงหน้า ซึ่งผู้ให้บริการร้านธงฟ้าสแกนบาร์โค้ดหน้ากล่องผ่านแอปพลิเคชันเพื่อรับสิ่งของเข้าระบบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะเข้ามารับพัสดุไปดำเนินการเพื่อส่งต่อให้ผู้รับปลายทาง และระบบจะคำนวณรายได้ให้ร้านธงฟ้า โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนเมษายน 2567 ตามเวลาทำการของร้านธงฟ้าแต่ละแห่ง ส่วนระยะต่อไปจะเปิดให้บริการทั้งจุดรับพัสดุและเป็นจุดรอจ่ายพัสดุให้ผู้รับปลายทาง ทั้งนี้ จากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายรวมมากกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนร้านธงฟ้าเข้าร่วมโครงการ โดยสามารถสมัครได้ที่ เว็บไซต์ https://newthongfah.dit.go.th/ ของกรมการค้าภายใน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอคำแนะนำเบื้องต้นได้ที่ 02-8313791 (6 คู่สาย) ตั้งแต่เวลา 08.00–18.00 น. ของวันทำการ และเวลา 08.30–16.30 น. สำหรับวันเสาร์และวันอาทิตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี