กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (MOEA)มอบหมายให้สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA)ส่งคณะผู้แทนจากบริษัทไต้หวันเข้าร่วมงานSTYLE Bangkok 2024 โดยปีนี้เป็นการเข้าร่วมงานครั้งแรกด้วยวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการชาวไต้หวันในการสำรวจวัฒนธรรมและโอกาสทางธุรกิจที่สร้างสรรค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้งานจัดขึ้นในวันที่20 – 24 มีนาคม2567 ณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
บูธTaiwanDesign Pavilion จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นของผู้ประกอบการที่แสดงให้เห็นทั้งทางด้านวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของชาวไต้หวันด้วยการออกแบบที่เป็นเลิศการันตีด้วยรางวัลต่างๆรวมทั้งหมด24 รายมาร่วมจัดแสดงสินค้ามากกว่า100 รายการภายในงาน STYLE Bangkok 2024 เพื่อต้องการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยรับรู้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไต้หวันที่มีการออกแบบสวยงามทันสมัยและมีนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยไม่แพ้สินค้าจากประเทศอื่นๆพร้อมกันนี้ในวันเปิดงานยังมีการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จากแบรนด์ไต้หวันที่มาร่วมออกบูธเพื่อส่งเสริมการรับรู้ถึงงานออกแบบคุณภาพสูงของไต้หวันให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศและเพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย
จากการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นภายในปี2567โดยค่าการเติบโตของGDP อยู่ที่3.8% โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลยุคปัจจุบันวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ภายในท้องถิ่นจึงมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมเหล่านี้ในเอเชีย
เพื่อเป็นการช่วยให้คณะผู้ประกอบการจากไต้หวันมีความเข้าใจในตลาดไทยมากยิ่งขึ้นก่อนงานนิทรรศการ สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวันจึงได้จัดให้มีการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จิมทอมป์สัน, หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) และร้านค้าปลีกเช่นห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัฟเวอรี่สถานที่เหล่านี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับราคาในตลาดไทยสำหรับผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันไต้หวันมีบริษัทผู้ผลิตสินค้าด้านนวัตกรรมสุขภาพเทคโนโลยีใหม่ๆมากมายเพื่อทำการผลิตสินค้าส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศมากขึ้นซึ่งทางรัฐบาลไต้หวันที่ผ่านมาก็มุ่งเน้นส่งเสริมเพื่อจะช่วยยกระดับนำสินค้าไต้หวันให้สามารถออกไปแข่งขันเทียบชั้นบนเวทีระดับโลกได้จึงได้กำหนดองค์ประกอบของสินค้าไต้หวันว่าจะต้องมีทั้งเรื่องของงานวิจัยและการพัฒนา, การออกแบบดีไซน์ที่สวยงามมีความโดดเด่น, สินค้าต้องมีคุณภาพราคาจับต้องได้และการทำเรื่องกลยุทธ์การตลาด
Taiwan Design Pavilion ได้จัดแสดงแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงเช่นWAGA, DAQICONCEPT, Hu Creates, J.A.B Design, KIN MATON, emspec, Forever Green Bio, HMM, HUROYAMA, novium, PAI PEN PRO, Travel Buddy, csd, Chuan Yu, Dragonfly, DRYTECH, LUFTQI, Sleepville Critters, RICOCAFE, Fukugawa, Cubila, O-GRILL, KANLEE และDian-YA เพื่อแสดงถึงการออกแบบที่สร้างสรรค์งานฝีมือที่มีคุณภาพสูงและผลิตภัณฑ์นำเทรนด์ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงของไต้หวันมีความโดดเด่นในเวทีระดับนานาชาติ
Ms. Ya-Lin Chen (หย่า-หลินเฉิน) ผู้จัดการโครงการแบรนด์ฮูโรยาม่า (HUROYAMA)ซึ่งเป็น1ใน24 ผู้ประกอบการไต้หวันด้านการออกแบบเป็นเลิศที่การันตีด้วยรางวัลต่างๆที่ได้มาร่วมออกบูธแสดงสินค้าTaiwan Design Pavilion ครั้งนี้กล่าวว่า“ปัจจุบันฮูโรยาม่า (HUROYAMA) คือแบรนด์ผู้สร้างสรรค์ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ใช้ในครัวเรือนโดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำและงานครัวด้วยการผสมผสานแนวคิดการออกแบบที่ง่ายต่อการใช้งานและยกระดับคุณภาพชีวิตสินค้าแปรงทำความสะอาดห้องน้ำและสุขภัณฑ์จนได้รับรางวัลออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและออกแบบสินค้าให้อยู่ในคุณภาพสูงที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานจนได้มีโอกาสขยายธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายเข้าไปยังประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคแต่ผู้บริโภคหาซื้อได้แค่จากไต้หวันเท่านั้นฮูโรยาม่า (HUROYAMA) จึงมองว่านี่คือโอกาสทางการตลาดจึงได้ขยายฐานไปยังประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีก่อนปรากฎว่าได้ผลตอบรับที่ดีผ่านยอดขายที่เติบโตขึ้นทุกปีจึงมีแนวความคิดว่าควรขยายธุรกิจออกไปให้กว้างไกลมากขึ้นโดยมองมาที่ตลาดไทยเนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยชอบสินค้าที่มีดีไซน์มีการออกแบบที่สวยงามเหมือนกันดังนั้นสินค้าไฮไลท์3 ตัวที่นำมาออกบูธสินค้าTaiwan Design Pavilion ครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นฝาปิดท่อน้ำเพื่อป้องกันเศษผมหรือฝุ่นแปรงขัดห้องน้ำและที่รองนั่งที่สามารถพับเก็บได้สำหรับใช้ไปปิกนิกในสวนจะสามารถช่วยทำให้มีผู้ประกอบการคนไทยสนใจมาเป็นตัวแทนจำหน่ายของฮูโรยาม่า (HUROYAMA) เนื่องจากฮูโรยาม่า (HUROYAMA) ยังเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่พึ่งก่อตั้งในไต้หวันได้ไม่นานจึงทำให้ยังมีผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายไม่มากนักแต่ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสามารถจับตลาดผู้บริโภคกลุ่มที่มีกำลังการซื้อระดับปานกลางขึ้นไป”
นอกจากนี้อีก1ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงการันตีด้วยรางวัลต่างๆที่มาร่วมออกบูธTaiwan DesignPavilion ครั้งนี้ได้แก่แบรนด์HMM (เฮชเอ็มเอ็ม)โดยMr. Michael Lee (ไมเคิลลี) ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์HMM (เฮชเอ็มเอ็ม) กล่าวว่า“ปัจจุบันHMM คือแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ชงกาแฟและอุปกรณ์สำนักงานที่มีความประณีตในการออกแบบโดยคำนึงถึงลักษณะการใช้งานจริงรังสรรค์การออกแบบอย่างเรียบง่ายมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดังนั้นผลิตภัณฑ์ทุกล้วนมาจากงานฝีมือที่ใช้ทักษะขั้นสูงจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีความงดงามเหนือกาลเวลาและสามารถใช้งานได้จริง และนั่นทำให้ผลงานทุกชิ้นของHMMได้รับการการันตีด้วยรางวัลต่างๆมากมายตั้งแต่ปี2014 ถึงปัจจุบันเช่นปี2023 NYNOW Winter รางวัลสินค้ายอดเยี่ยมMugr Cloud ปี2022 Shopline Best Brand Award รางวัลเหรียญทองการออกแบบบรรจุภัณฑ์และที่ผ่านมาสินค้าของHMM เป็นรู้จักอย่างมากในตลาดยุโรปจนมาปี2567 เป็นโอกาสที่แบรนด์HMM ต้องการมองหาตลาดใหม่ๆในโซนเอเซียมากขึ้นนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นเกาหลีก็คือประเทศไทยเนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยมีลักษณะคล้ายคลึงกับคนไต้หวันที่ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์โดยที่สินค้าของHMM อาทิอุปกรณ์สำนักงานมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆในเรื่องของนวัตกรรมดีไซน์การออกแบบที่ไม่เหมือนกับอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆทั่วไปเช่นกรรไกรที่ออกแบบมาให้สามารถใช้อีกด้านนึงของกรรไกรกรีดกล่องพัสดุได้หรือการออกแบบไม้บรรทัดกับมีดคัทเตอร์ให้สามารถอยู่รวมกันเป็นชิ้นเดียวได้อย่างไรก็ดีเป้าหมายของHMM นอกจากจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีนวัตกรรมและดีไซน์ที่ก้าวล้ำมากขึ้นแล้วยังต้องการขยายตลาดออกไปให้กว้างขึ้นจากยุโรปมายังตลาดเอเซียดังนั้นการมาออกบูธTaiwan Design Pavilion ครั้งนี้นอกจากจะมาหาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแล้วยังต้องการมาศึกษาพบปะและสัมผัสกับผู้บริโภคคนไทยว่าเป็นอย่างไรหากในปีนี้สามารถหาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยได้แบรนด์HMM พร้อมให้การสนับสนุนและเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มที่”
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่างมากเช่นกันคือแบรนด์CSD (ซีเอสดี)ของบริษัทไชน่าเซอจิเคิลเดรสซิ่งเป็นบริษัทชั้นนำของไต้หวันในฐานะผู้ออกแบบและพัฒนาสินค้าเกี่ยวกับเวชภัณฑ์ทางการแพทย์อาทิหน้ากากอนามัยชุดป้องกันเชื้อทางการแพทย์,สำลี, ผ้าพันแผลภายใต้แบรนด์CSD โดยบริษัทแห่งนี้มีอายุกว่า76 ปีแล้วดังนั้นCSD จึงเป็นแบรนด์จัดหาเวชภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมากในวงการแพทย์และพยาบาลตามโรงพยาบาลชั้นนำโดยเฉพาะช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด19 ส่งผลให้ผู้คนคำนึงถึงความปลอดภัยในการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันมากขึ้นผ่านวิธีมองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูงในการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยแม้วันนี้สถานการณ์โรคระบาดโควิด19 จะยุติความรุนแรงลงแล้วแต่หน้ากากอนามัยก็ยังมีสัดส่วนทางการตลาดที่จะยังสามารถสร้างยอดขายได้อยู่กล่าวคือปัจจุบันผู้บริโภคได้หันมาซื้อหน้ากากอนามัยใช้เพื่อป้องกันฝุ่นพิษPM 2.5 แทนการซื้อใช้เพียงเพื่อป้องกันโควิด19 โดยเฉพาะประเทศไทยปัจจุบันเจอปัญหาเรื่องมลพิษและฝุ่นPM 2.5 อย่างมากดังนั้นCSD ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งของไต้หวันที่ต้องการเข้ามาขยายตลาดในประเทศไทยหลังจากก่อนหน้านี้CSD เป็นแบรนด์หนึ่งที่ขายอยู่ที่ไต้หวันสิงคโปร์ญี่ปุ่นสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆเกือบทั่วโลกทั้งนี้การเข้ามาร่วมออกบูธTaiwan Design Pavilion จึงมีวัตถุประสงค์ในการมาหาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแม้ภาพรวมของตลาดหน้ากากอนามัยในประเทศไทยจะมีสินค้าจากแบรนด์ต่างๆออกมาทำตลาดให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้อย่างมากมายก็ตามแต่หน้ากากอนามัยแบรนด์CSD นอกจากมีความแตกต่างในเรื่องของการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงแล้วยังมีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่มีสีสันสวยงามโดดเด่นด้วยความเป็นแฟชันและมีลวดลายต่างๆจึงคิดว่าCSD จะสามารถเข้ามาเจาะตลาดผู้บริโภคคนไทยได้อย่างแน่นอนในอนาคต”
งานนิทรรศการ STYLE Bangkok 2024 จัดขึ้นเป็นระยะเวลารวม 5 วันตั้งแต่วันที่20 – 24 มีนาคม2567 ณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดหาผลิตภัณฑ์ หรือความร่วมมือระหว่างองค์กรในประเทศและต่างประเทศสร้างโอกาสในการขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์คุณภาพสูงจากไต้หวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี