'สามารถ'มอง'เพื่อไทย'หวังดึงเวลาตัดสินยุบ'ก้าวไกล'รอสว.หมดอายุเลือกนายกฯ ได้ สกัดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ยัน'บิ๊กป้อม'มีบารมีมากกว่าจะไปเป็นรองนายกฯให้'เศรษฐา'
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2567 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก 30 วัน แต่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นควรให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 พ.ค.2567 ว่า ตนมั่นใจว่าพอครบกำหนดพรรคก้าวไกลก็จะไม่ชี้แจงอะไร เพราะเขาชี้แจงไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว แต่ครั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งเรื่อง 44 สส.ที่ลงชื่อร่วมแก้ไขมาตรา 112 มาด้วย
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นในเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งอะไรมา ศาลก็จะนัดอ่านคำพิพากษา ซึ่งตนก็คิดว่าจะไปตกวันที่ 10 พ.ค.หรือไม่ก็วันที่ 17 พ.ค.แต่ถ้าตกวันที่ 10 พ.ค. วันที่ 11 พ.ค.สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะหมดอายุในการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 แต่ถ้าดิ้นรนจะทำก็จะไม่ทัน สิ่งที่ตนบอกว่า พรรคเพื่อไทยดึง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญเอาไว้ จนให้หมดเวลา ไม่ให้มีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในช่วงเดือนมิถุนายนจะมีการเปิดประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 นี่คือกฎหมายแรกที่รัฐบาลจะเสนอเข้ามา ซึ่งถ้ารัฐบาลถูกคว่ำคาร่างงบประมาณ รัฐบาลก็ต้องลาออก นี่คือเหตุผลที่ทำไมนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องปรับ ครม.เพราะคนที่อยู่ข้างหลังนายเศรษฐาวินิจฉัยให้หมดแล้ว ปรับเพื่อกระชับอำนาจ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะปรับใครหรือไม่ ด้านพรรคภูมิใจไทยบอกแล้วว่า ไม่ปรับ เพราะนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาพรรคคนใหม่ ลูกนายเนวิน ชิดชอบ อายุยังไม่ถึง 35 ปี ยังเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ จึงไม่มีเหตุผลใดต้องปรับ ครม.
”ส่วนพรรคพลังประชารัฐนั้น ผมได้ยินมาก็คือเสนอนายไผ่ ลิกค์ เป็นรัฐมนตรีช่วยเหมือนเดิม วันนี้ตนได้ไปรดน้ำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้เรียนถามท่านว่า ท่านจะมาเป็นรองนายกฯ หรือไม่ ท่านก็บอกว่า ท่านไม่เป็น ฉะนั้นข่าวลือที่บอกว่า พล.อ.ประวิตรจะมาเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ริบหรี่ลงเรื่อย เพราะคนระดับพล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกฯ ให้พล.อ.ประยุทธ์มามากพอแล้ว และท่านมากบารมีกว่านั้นเยอะมาก“
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเงินดิจิทัล ที่ถ้าจะออกรัฐบาลก็ไม่กล้าเสนอ พ.ร.บ.เงินกู้ ก็จะแฝงในร่างงบประมาณ 2568 แล้วก็ไปกู้กับ ธ.ก.ส.คราวนี้นายเศรษฐาก็จะลอยตัว จึงไม่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว เพราะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ กลัวจะติดคุก ก็เอาคนที่เป็นมือปืนรับจ้างมาเป็นรัฐมนตรีแทน เพื่อที่จะได้บีบ ธ.ก.ส.ให้ปล่อยเงินกู้ออกมา จะได้เพียงพอต่อโครงการเงินดิจิทัล
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเงินดิจิทัล เงินดิจิทัลของรัฐบาลเศรษฐากับคนละครึ่งของพล.อ.ประยุทธ์ มันคนละเรื่อง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ให้เงินสดแต่นี่ค่าแอปพลิเคชั่นอีกเท่าไหร่ ผมตีไว้ประมาณ ห้าหมื่นล้าน นี่ก็เสียฟรี ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากตรงนี้ ต่อมาถึงจะไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเข้า แลกออก แต่เงินดิจิทัลนั้นไม่สามารถที่จะแลกเป็นเงินสดได้ในทันที ต้องรอ 6 เดือนฉะนั้นร้านค้าเล็ก ๆ ตามตำบล หมู่บ้าน ท่านจะไปซื้ออะไร ร้านค้าเหล่านั้นไม่มีสายป่านยาวพอที่จะมารอรับเงินถึง 6 เดือน จะมีก็คงเป็นร้านสะดวกซื้อที่วันนี้สั่ง 100 บาทก็ส่งถึงบ้าน ตนไม่พูดว่าชื่ออะไรให้ไปคิดเอาเอง
นายสามารถ กล่าวต่อว่า มีคนถามว่าทำไมเงิน 10,000 บาท ถึงไม่ให้เป็นเงินสด ก็เพราะว่าถ้าให้เป็นเงินสด คนก็ไม่ไปเข้าร้านพวกนี้ ซึ่งตนได้ยินมาว่าจะมีเรื่องเงินทอนกันหรือไม่ แต่ตนก็ไม่เชื่อว่าจะทำกันแบบนี้ สมมุติร้านค้าที่เป็นร้านอาหาร รัฐบาลบอกว่าเอาไปซื้อวัตถุดิบได้ ก็ไปดูว่าร้านขายวัตถุดิบนามสกุลเดียวกับร้านสะดวกซื้อหรือไม่ ฉะนั้นเงิน 5 แสนล้านบาทที่รัฐบาลบอกแจกประชาชน มันเข้าเจ้าสัวหมดหรือไม่ ถึงจะมีเงินทอนกลับมาหรือเปล่า ซึ่งตนไม่เชื่อว่ามี ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะกล้าทำแบบนั้น
“ประเทศไทยจะวอดวาย ย่อยยับ พินาศทันที เพราะเงินห้าแสนล้านนั้น มันไม่ได้ถึงชุมชน มันไม่ได้หมุนเป็นพายุไต้ฝุ่น มันไม่ใช่พัดลม มันยิ่งกว่าพัดกระดาษ ซึ่งมันไม่ได้สร้างแรงอะไรเลย มันเข้าไปรอบเดียวแล้วก็หาย คนที่ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทก็ต้องไปซื้อในสิ่งที่เขาไม่ได้อยากได้ แต่เมื่อเขารับเงินมาแล้วก็ต้องไปใช้ สุดท้ายเม็ดเงินนี้มันไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง คนที่เป็นหนี้ก็ยังเป็นหนี้อยู่ คนที่มีปัญหาลูกที่ไม่มีตังค์ค่าเทอมก็เป็นหนี้อยู่ คนที่เป็นหนี้นอกระบบก็ยังเป็นหนี้อยู่นั่นคือสิ่งที่เขาไม่ได้ต้องการ ผมถึงฝากพ่อแม่พี่น้องช่วยกันเป็นพลังอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย“
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี