'มกอช.'ขานรับข้อสั่งการ'รมว.ธรรมนัส'ยกระดับคุณภาพมาตรฐานทุเรียนไทย โดยกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงตัดแยกและบรรจุ มุ่งเป้าการส่งออกมูลค่ากว่าแสนล้านบาทในปี 2567
จากกรณีที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายขับเคลื่อนภาคการเกษตร โดยเกษตรกรต้องกินดี อยู่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้นสามเท่าภายใน 4 ปี และพัฒนายกระดับสินค้าเกษตรทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และประเทศไทยอย่างมหาศาล ดังนั้น การกำกับดูแลผลไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากผลไม้ไม่มีคุณภาพและมาตรฐานย่อมส่ง
ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้มีนโยบายในการควบคุมคุณภาพผลไม้ตลอดห่วงโซ่อุปทานโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพผลผลิตในโรงคัดบรรจุเพื่อการส่งออก ได้กระทรวงเกษตรฯ โดย มกอช.จึงได้กำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียน สำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ. 9070-2566) ซึ่งประกาศเป็นมาตรฐานทั่วไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 และต่อมาประกาศเป็นมาตรฐานบังคับ โดยคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ ช่วงต้นปี 2568 และรมว.เกษตรฯ ได้สั่งการ มกอช. กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการโรงรวบรวมและโรงบรรจุทุเรียนต้องได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับและได้รับรองมาตรฐาน
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้จัดโครงการอบรมเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการและผู้ผลิตเข้าสู่มาตรฐานบังคับเรื่องหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ. 9070-2566) ระหว่างวันที่ 23-24 เมษายน 2567 ณ โรงแรมบลูแรบบิท จังหวัดจันทบุรี โดยบูรณาการร่วมกับ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก และสำนักงานที่ปรึกษาเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่ง ร่วมให้ข้อมูลและชี้แจงกับผู้ประกอบการ เกษตรกร และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในรูปแบบการเสวนาเรื่องทิศทางการผลิตและการส่งออกทุเรียนไทย ในปัจจุบันและอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายให้ความรู้เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตรหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวม และโรงคัดบรรจุ (มกษ. 9070-2566) ขั้นตอนการส่งออกทุเรียนไทยไปต่างประเทศ ขบวนการควบคุมกำกับดูแลตามมาตรฐานบังคับ อีกทั้ง การจัดคลินิกให้คำปรึกษาจากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน (CB) พบผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุทุเรียนในเรื่องการขอการรับรอง รวมถึงกำหนดแผนที่จะจัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ ไปยังผู้ประกอบการกลุ่มเกษตรภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่องระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 อีกด้วย
นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการ มกอช. กล่าวว่า มกอช. ในฐานะหน่วยงานกลางด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรได้จัดเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการและผู้ผลิตเข้าสู่มาตรฐานบังคับเรื่องหลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ. 9070-2566) ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2566 ได้พัฒนาหลักสูตรกลางเพื่อสร้างความรู้ และพัฒนาทักษะให้ผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่การผลิตทุเรียน ได้แก่ หลักสูตรผู้ควบคุมการเก็บเกี่ยว หลักสูตรผู้ตรวจสอบความแก่ของผลทุเรียน หลักสูตรผู้ตรวจประเมินตามมาตรฐาน 9070 อีกทั้ง ยังได้มีการจัดทำระบบการเรียนรู้ตามมาตรฐานดังกล่าว ในรูปแบบออนไลน์ (E-learning)
เลขาธิการ มกอช. กล่าวต่อว่า เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เกี่ยวข้องให้สามารถเรียนได้ทุกที่ ตลอดเวลา ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งปัจจุบันผู้ผ่านการอบรมแล้ว มากกว่า 2,000 ราย มีผู้ตรวจประเมินจากหน่วยตรวจสอบรับรองที่มีความสามารถในการให้การรับรองมากกว่า 80 คน จากหน่วยตรวจสอบรับรอง จำนวน 21 แห่ง นอกจากนี้ มกอช. กำหนดแผนการจัดคลินิกให้คำปรึกษาจากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน (CB) เรื่องการขอการรับรอง ในทุกภูมิภาคระหว่างเดือน พ.ค.-ส.ค.ปี 2567 นี้ รวมถึง จะมีการพัฒนาคู่มือการปฏิบัติงาน การพัฒนาเอกสาร และแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง และการพัฒนาสถานประกอบการต้นแบบอีก 20 แห่ง เพื่อให้โรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุทั่วประเทศได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และมีความพร้อมในการยื่นขอการรับรองตามมาตรฐานบังคับ ต่อไป
ทุเรียน จัดเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญและมีมูลค่าการส่งออกมากที่สุดของประเทศไทย จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรพบว่า ปัจจุบันแหล่งเพาะปลูกทุเรียน 5 อันดับแรกของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ชุมพร ระยอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ในปี 2566 มีปริมาณผลผลิตทุเรียน 1.47 ล้านตัน จำหน่ายในประเทศ 3.6 แสนตัน และส่งออก 1.1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท โดยประเทศที่ไทยส่งออกทุเรียนมากที่สุดคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน 9.5 แสนตัน รองลงมาคือ ฮ่องกง 1 หมื่นตัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี