'สามารถ'มอง‘พิชิต‘ชิงลาออกก่อน‘ศาลรัฐธรรมนูญ’วินิจฉัยคำร้อง 40 สว.ไม่ช่วยอะไร เพราะความผิดสำเร็จแล้ว ยกคดี'ก้าวไกล'เทียบเคียง 23 พ.ค.นี้ 'เศรษฐา'อาจไม่ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2567 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้มีคนบอกว่าพรรคเพื่อไทยจะสู้กับพรรคก้าวไกล จะต้องเอา 2 พรรคมาชนกันให้ได้ มีทั้ง สว.และผู้ใหญ่หลายท่านพยายามพูดเรื่องนี้ เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต่อ เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ไม่เอาพรรคก้าวไกลก็ต้องหันไปเชียร์พรรคเพื่อไทย และทำให้เกิดความชอบธรรมในการที่พรรคอนุรักษ์นิยมหลาย ๆ พรรค เช่น พรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย หรือรวมไทยสร้างชาติ ต้องจับมือพรรคเพื่อไทยในการเป็นรัฐบาล ตนไม่เชื่อ และไม่ต้องมาหลอกประชาชน
นายสามารถ กล่าวต่อว่า แต่วันนี้ความเป็นจริงจากการเสียชีวิตของน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ที่ไม่ใช่นักกิจกรรมทางการเมือง แต่เป็นนักล้มล้างการปกครอง พรรคก้าวไกลพูดเรื่องนี้น้อยมาก แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไรว่า พรรคเพื่อไทยพรรคก้าวไกลจะต่อสู้กัน เขาจับมือกันหรือไม่ ลองคิดว่า ถ้าบุ้งตายในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะถูกถล่มเละหรือไม่ ศพบุ้งอาจจะถูกนำไปแห่รอบกระทรวงยุติธรรม นี่คือสื่งที่สะท้อนให้เห็นว่า คือละครปาหี่หลอกประชาชนหรือไม่
นายสามารถ ยังกล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า ทำผิดกฎหมายข้ิหาล้มล้างการปกครองมากว่า 1 ปี แต่ยังไม่มีการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่ง กกต.ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ก้าวไกลเลื่อนการชี้แจงมา 3 ครั้งแล้ว เช่นเดียวกับในวันที่ 23 พ.ค. นี้ ที่มีกลุ่ม สว. จำนวน 40 คนร่วมลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพราะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160นั้น นายเศรษฐาอาจจะไม่ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ก็อาจเป็นได้ เพราะขนาดก้าวไกลยังให้เลื่อนตั้งหลายครั้ง ทั้งๆที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไปแล้วว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลนั้นล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลาย
“แต่ถ้าดูในข้อเท็จจริงแล้ว นายเศรษฐาต้องถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ เทียบเคียงสมัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมัคร สุนทรเวช หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่มาแล้ว แต่ถ้านายเศรษฐารอด รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น แสดงว่าฐานข้อมูลเปลี่ยน เพราะถ้าเอาคดีของพรรคก้าวไกลมาเทียบเคียง จะเห็นว่าหนักกว่าและศาลเคยมีคำวินิจฉัยไปแล้ว ก็ยังให้เลื่อนเลย แต่ถ้าเป็นจริงบ้านเมืองจะวิบัติ เพราะศาลต้องตัดสินทุกคนบนพื้นฐานเดียวกัน“นายสามารถ กล่าว
ส่วนกระแสที่นายพิชิตอาจจะชิงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้องหรือไม่ในวันที่ 23 พ.ค. นี้นั้น นายสามารถ กล่าวว่า ถึงจะลาออกก็ไม่เป็นผล เพราะความผิดสำเร็จไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่ว่าเมื่อแต่งตั้งผิดหรือพลาดรัฐมนตรีคนนั้นก็ลาออกจากตำแหน่งแล้วให้นายกรัฐมนตรีก็ลอยตัว ตนคิดว่าถ้าเป็นเช่นนี้บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้
“ผมคิดว่า การที่นายพิชิตปล่อยข่าวว่าจะลาออกนั้น เพื่อลดกระแสสังคม ซึ่งนักการเมืองใหม่จะต้องกล้าสเผชิญกับความจริง และสู้กันด้วยพยานหลักฐาน เพราะตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสิน ทุกคนยังบริสุทธิ์ นี่คือบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงอยากเป็นกำลังใจให้นายพิชิตและนายเศรษฐาให้สู้ไปตามความจริง อย่าหนีศาล เพื่อให้กลายเป็นบรรทัดฐานของบ้านเมือง ไม่ใช่ชิงลาออกหนีศาลแบบนี้สังคมจะบิดเบี้ยวได้“
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี