“เรียนรู้-พุ่งชนโอกาส-ล้มแล้วลุก” เคล็ดลับความสำเร็จ “อัญมณี เอกตะ” นักศึกษาปี 3 สาขาการเงิน เทคโนโลยีการเงินและการลงทุน วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ที่พลิกชีวิตจากครอบครัวล้มละลาย สู่ CFO สาวแกร่งแห่งบริษัทอาหารสุขภาพผู้สูงวัย พร้อมทั้งเป็นผู้แนะนำการลงทุนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี เท่านั้น…
เรียนล้างแค้น
อัญมณี เล่าว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีวันนี้ได้ เกิดจากมรสุมชีวิตในช่วงวัยเด็กเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทางครอบครัวประสบปัญหาถูกโกงจนล้มละลาย ด้วยตัวเลขยอดหนี้จำนวนกว่า 7 หลัก ที่พ่อแม่ต้องแบกรับ ส่งผลให้กิจการที่เคยรุ่งเรืองก็ต้องพังทลายลง เธอและครอบครัวต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งความใฝ่ฝันคำนำหน้านาม ‘ดร.อัญมณี’ ที่กลายเป็นหมอกควันเลือนราง แม้กระทั่งบ้านที่เคยอบอุ่นก็กลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ
“พ่อกับแม่ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ แต่เขาไม่ได้เป็นคนที่จบสูง อาศัยขยันและซื่อสัตย์ ช่วงจังหวะที่ธุรกิจที่บ้านโต ท่านก็ได้แตกไลน์ไปยังกิจการอื่นๆ ด้วย และเพื่อนเค้าก็มาขอเป็นหุ้นส่วนและก็เกิดการโกงเงินกันขึ้น”
“พอเงินขาดสภาพคล่อง พ่อกับแม่ก็เริ่มจำนองทรัพย์สินใหญ่ๆ อย่างที่ดิน และต่อด้วยบ้าน รถ เฟอร์นิเจอร์ หนักถึงขั้นไม้กอล์ฟของพ่อก็ต้องขาย แต่ก็ไม่พอ” เธอเผย “พ่อกับแม่เลยต้องแยกกันไปหาเงิน ซึ่งมันเจ็บปวดมากช่วงเวลานั้นที่เราช่วยอะไรครอบครัวไว้ไม่ได้เลยซักอย่าง”
ด้วยเปลวเพลิงแห่งความผิดพลาดในธุรกิจโหมกระหน่ำหัวใจ แผดเผาจนเธอต้องทบทวนถึงรอยร้าวที่เกิดขึ้นจากอดีต จนกระทั่งพบว่ารอยแผลที่เจ็บแสบที่สุดนั้นมาจาก ‘การไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัท’ ทำให้มูลค่าของกิจการเมื่อต้องตัดสินใจขายต่ำกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้ ‘การขาดสภาพคล่องทางการเงิน’ ยังนำไปสู่การเอาเงินจากธุรกิจที่ทำกำไรแล้ว มาโปะกิจการที่ขาดทุน ซึ่งก็กลายเป็นว่าสูญเงินโดยเปล่าประโยชน์
อัญมณี ระบุว่า บทเรียนราคาแพงนี้เป็นทั้งแรงผลักดัน และฉุดให้เธอตัดสินใจลุกขึ้นเปลี่ยนหยดน้ำตาให้เป็นกำลังใจ มุ่งศึกษาเรื่องการเงินและการบริหารธุรกิจอย่างจริงจัง “หนูอยากให้ตัวเองเก่งกว่าในอดีต”
“เพราะการแก้ไขด้วยกำลัง มันแก้ได้แค่ในระยะสั้น ถึงเราใช้กำลังแต่ปมในใจเรามันก็ยังแบบเดิมอยู่ดี แต่ถ้าแก้ด้วยการเรียน การหาความรู้ มันจะเปลี่ยนเราเป็นคนใหม่ ไม่ผิดพลาดซ้ำ มั่นคงและอยู่ได้นานจากความรู้ของเราที่ไม่มีใครเอามันไปได้อีก”
‘น.ส.’ ผู้ชนทุกโอกาส
แม้ชีวิตจะยากลำบากแต่รอยยิ้มของเธอก็ไม่เคยหายไป “อัญมณี” ในเวอร์ชั่นใหม่เผชิญความทุกข์ยากด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง เธอทำทั้งงานพิเศษและเรียนควบคู่ไปด้วยกัน จนกระทั่งเก็บเงินได้ราว 5,000 บาท และเริ่มต้นธุรกิจแรกเล็กๆ ด้วยการลงทุนขายคอนแทคเลนส์
ด้วยความคิดที่ว่า ‘ถ้าโอกาสไม่มี’ ก็ต้องวิ่งหาหรือสร้างมันขึ้นมาเอง จากเงินหลักพัน อัญมณีค่อยๆ พัฒนาธุรกิจอย่างชาญฉลาดและไม่หยุดนิ่ง ‘มองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ’ โดยการขายครีมต่อ และเมื่อกระแสขายเสื้อผ้าออนไลน์มาแรง เธอก็คว้าโอกาสทองนั้นและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นสู่หลักแสน
อัญมณี บอกต่อว่า จุดเปลี่ยนที่สำคัญเข้ามาทายทักในช่วงอายุ 18 ปี หลังตัดสินใจเรียนต่อที่สาขาการเงิน เทคโนโลยีการเงินและการลงทุน วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ด้วยหลักสูตรที่เน้นการปฏิบัติ มีอาจารย์ที่ดีเป็นโค้ช ทำให้นักศึกษามีโอกาสเรียนรู้จากกรณีศึกษาจริง และยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายทั้งภายในสถาบัน รวมไปถึงการผลักดันให้เข้าร่วมกิจกรรมภายนอกอยู่ตลอดเวลา ช่วยให้เธอได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ พัฒนาทักษะ สร้างเครือข่าย และนำมาต่อยอดธุรกิจจนประสบความสำเร็จ นอกจากนี้เธอยังสามารถสร้างหลักประกันความมั่นคง พ่อ-แม่-ลูก ที่จะไม่แยกกระทบกับงานคือ “ผู้แนะนำการลงทุน” เป็นอาชีพที่ 2 อีกด้วย
“เหตุผลที่เลือกเรียน CIBA-DPU ด้วยชื่อและเข้าไปดูในเว็บไซต์เจอว่ามีหลักสูตรการสอนนวัตกรรมทางธุรกิจที่บูรณาการ ไม่ใช่แค่เรียนในห้องเรียนอย่างเดียว ซึ่งพอเปิดเทอมเข้ามาเรียนก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หนูได้เรียนรู้จากกิจกรรมและเวทีต่างๆ พวกนี้ ได้รู้จักคนนั้นคนนี้ในงานแล้วก็ได้คอนเนกชั่น และตามดูสิ่งต่างๆ ต่อในโซเชียลมีเดีย" เธอลำดับเส้นทาง
“จากนั้นหนูก็ได้เจอเถ้าแก่ร้านขายยา เขาสั่งเจลว่านหางจระเข้แบรนด์หนึ่งมาขาย แล้วเขาขายได้กำไรดีมาก หนูก็อยากเข้าร่วมทุน แต่ติดที่ต้องสั่งในจำนวนเยอะ ด้วยความกล้าหนูเลยเข้าไปเสนอให้เขาเพิ่มจำนวนการสั่งซื้อเพื่อที่จะได้ต้นทุนที่ถูกลง เถ้าแก่ตอบตกลง หลังจากนั้นหนูก็ขายจนมีเงินล้านบาทแรก”
“เราต้องเข้าหาโอกาสเท่านั้นถึงจะได้รับโอกาส เหมือนคนไม่ซื้อหวย ก็ไม่ทางที่จะถูกหวย” เธอกล่าว
ไม่ใช่ที่รักของโชคชะตา…ไม่ได้แปลว่าเรา “ห่วย”
ไม่เพียงเรียนรู้จากตำรา ดูคนที่สำเร็จ และสร้างโอกาสพร้อมกับแสวงหามุมต่อเติมจากสิ่งรอบตัวเท่านั้น ยังมีเรื่องของ ‘วินัย การวางแผน และการล้มแล้วลุก’ ที่เป็นปัจจัย 3 แกนหลักในการเจียระไนอัญมณีเม็ดนี้ให้เปล่งประกาย
“สิ่งที่ตกผลึกเลยคือ วันนี้เราเป็นอะไรไม่สำคัญ แต่เราอยากเห็นชีวิตในอนาคตของเราเป็นแบบไหนนั่นแหละที่สำคัญ ถ้าเราอยากเติบโตขึ้นก็ต้องเริ่มต้นจากทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ” เธออธิบายต่อ
“จากนั้นต้องมีแผนและจัดลำดับความสำคัญ เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้เรามองเห็นเป้าหมายและตัดสินใจได้ดีขึ้น เพราะปัญหามีมาได้ตลอด จากวันนั้นจน ณ วันนี้ที่ผ่านประสบการณ์มา ไม่มีช่วงเวลาของปีไหนที่ไม่มีปัญหา ทุกก้าวมีปัญหา เพียงแต่มันจะเล็กหรือใหญ่กว่ากันเท่านั้น ตรงนี้ก็จะช่วยให้เราไม่หลงหรือพังเป็นลูกโซ่เวลาเจออุปสรรค อาจจะแค่สะดุด เดินไปได้ช้าลง แต่สุดท้ายเราจะกลับเข้ามาอยู่ในแถวได้เหมือนเดิม”
นอกจากนี้อัญมณีแนะนำว่า เมื่อใดที่ล้มต้องลุกยืนขึ้น “ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว” เพราะทุกคนมีวันที่จะล้มเหลว อยากให้มองความล้มเหลวนั้นเป็นแรงผลักดัน ที่หากเราแก้ไขมันได้มันจะทำให้เราจะเก่งขึ้น เป็นเหมือนพอร์ตโฟลิโอที่สะสมศักยภาพและพาเราไปสู่ความสำเร็จ
“สุดท้ายที่อยากจะฝากถึงน้องๆ หรือคนที่ติดตามในโซเชียลมีเดีย อยากให้ทุกคนให้เวลากับตัวเอง อย่าตีกรอบความสำเร็จของเราว่าต้องอายุเท่านั้นเท่านี้ ทุกคนจังหวะชีวิตของตัวเอง หาความรู้ใหม่ๆ พัฒนาจุดที่ตัวเองขาด เพราะเราไม่รู้ว่าวันไหนโอกาสจะมาถึงเรา การที่เราทำให้เต็มที่ ทำตามเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ เมื่อวันที่โอกาสมาถึงเราก็จะคว้ามันมาได้”
“ความสำเร็จเรากำหนดเอง และอย่าลืมสะสมเครือข่ายและผู้คนดีๆ เพิ่มไว้ทุกช่วงอายุ เก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทางเพื่อเติมกำลังใจให้ตัวเองสู้ เพราะถ้าใจเราสู้ก็ไม่มีอะไรมาขวางได้ ต่อให้ฟ้าลิขิตได้ แต่ถ้าเราเต็มที่กับมัน คะแนน 80/100 ตัดเกรดก็ได้ A แล้ว”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี