หากคุณกำลังมองหาวิธีประหยัดภาษีและสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว การลงทุนในกองทุน SSF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน มีสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้และพิจารณาให้ดี ติดตามได้ในบทความนี้เลย
1. เข้าใจความแตกต่างระหว่าง SSF และ RMF
SSF และ RMF มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน SSF เน้นการออมระยะสั้นถึงปานกลาง โดยมีระยะเวลาถือครองขั้นต่ำ 10 ปี ในขณะที่ RMF มุ่งเน้นการออมเพื่อวัยเกษียณ โดยต้องถือครองจนอายุ 55 ปีบริบูรณ์และลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
2.สิทธิประโยชน์ทางภาษี
SSF: สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
RMF: สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือประกันบำนาญ
3.เงื่อนไขการลงทุน
SSF: ต้องลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 10 ปีปฏิทิน นับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุน
RMF: ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี อย่างน้อยปีละ 3% ของเงินได้หรือ 5,000 บาท แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า และถือครองจนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ โดยลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
4.ความเสี่ยงและผลตอบแทน
ทั้ง SSF และ RMF มีหลากหลายประเภท ตั้งแต่กองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ไปจนถึงกองทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรพิจารณาระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายการลงทุนของตนเองก่อนเลือกลงทุน
5.ค่าธรรมเนียมการจัดการ
แต่ละกองทุนมีค่าธรรมเนียมการจัดการที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปกองทุนที่มีการบริหารจัดการเชิงรุกจะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่ากองทุนที่บริหารแบบเชิงรับ ควรพิจารณาค่าธรรมเนียมควบคู่ไปกับผลการดำเนินงานของกองทุนด้วย
6.สภาพคล่อง
การซื้อกองทุน SSF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีมีข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง เนื่องจากมีเงื่อนไขระยะเวลาการถือครองที่ยาวนาน หากขายคืนก่อนกำหนดจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและอาจต้องเสียค่าปรับ ดังนั้นควรจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะสมและไม่กระทบต่อสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน
7.การกระจายการลงทุน
ไม่ควรทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดไปกับกองทุนใดกองทุนหนึ่ง ควรกระจายการซื้อกองทุน SSF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีในหลาย ๆ กองทุนเพื่อลดความเสี่ยง และอาจพิจารณาลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
8.ช่วงเวลาการลงทุน
ควรวางแผนการซื้อกองทุน SSF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีล่วงหน้าและทยอยลงทุนตลอดทั้งปี แทนที่จะรอลงทุนช่วงปลายปีเพียงครั้งเดียว เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และช่วยให้การจัดการเงินลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
9.ติดตามผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าการซื้อกองทุน SSF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษี จะเป็นการลงทุนระยะยาว แต่ก็ควรติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ากองทุนมีผลการดำเนินงานที่แย่ลงอย่างต่อเนื่อง อาจพิจารณาเปลี่ยนไปลงทุนในกองทุนอื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
10.ศึกษาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนตัดสินใจซื้อกองทุน SSF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษี ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนนั้นเหมาะสมกับสถานะทางการเงินและเป้าหมายของคุณ
การซื้อกองทุน SSF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษี เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดภาษีและสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว แต่ก็มีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การเข้าใจถึงลักษณะของกองทุน สิทธิประโยชน์ทางภาษี ความเสี่ยง และเงื่อนไขการลงทุน จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาดและเหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณมากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี