สำนักงานสถิติแห่งชาติ ขยายผลการขับเคลื่อนดิจิทัลให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย เตรียมความพร้อมสำหรับการ เป็น A Good Digital Citizen หรือ การเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพ จับมือภาคีเคลือข่ายร่วมจัดกิจกรรมสร้างความหนักรู้การขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลในระดับจังหวัดและอำเภอ ครั้งที่ 4 ปิดท้าย ณ จ.ลำปาง
วันที่ 25 ก.ย.67 เวลา 13.00 น. ดร.ปิยนุช วุฒิสอน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นประธานเปิดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้การขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลในระดับจังหวัดและอำเภอ ภายใต้หัวข้อ A Good Digital Citizen “ก้าวไปสู่ความเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพไปด้วยกัน” ครั้งที่ 4 โดยมี นางสาวนิติยา พงษ์พาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวต้อนรับ และ นายจำลอง เก่งตรง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมฯ พร้อมกันนี้ยังมี หัวหน้าส่วนราชการ เครือข่ายหน่วยงานภาคีในระดับจังหวัด ประชาชนทั่วไป สื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรมฯ ณ ลานลำปางหนาชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลำปาง จ.ลำปาง
นางสาวนิติยา พงษ์พาณิชย์ รองผวจ.ลำปาง กล่าวต้อนรับว่า จ.ลำปางเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่ง "รถม้าลำปาง" รวมทั้ง มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทั้งภาคการผลิตสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว แต่ในขณะเดียวกันก็เผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในทุกภาคส่วนจะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาและ สร้างโอกาสใหม่ๆ ได้ เช่น การส่งเสริมการเกษตรด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเราต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐภาคเอกชนและประชาชนเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของจังหวัดและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และมีความยินที่ได้รับเกียรติจากสำนักงานสถิติแห่งชาติที่เลือกจ.ลำปาง ในการจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ฯ ในครั้งนี้
ด้าน ดร.ปิยนุช วุฒิสอน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวเปิดงานและพูดถึงคุณสมบัติของการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพว่า ต้องใช้เทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองในโลกออนไลน์ ปฏิบัติต่อผู้อื่นในโลกออนไลน์ด้วยความเคารพ ปกป้องข้อส่วนบุคคลของตนเองและและเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น มีจริยธรรม ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์นำผลงานของคนอื่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และต้องรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล ผลของการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพจะสามารถทำให้มีแหล่งแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้เราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และพัฒนาตนเองได้ตลอดเวลาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ช่วยให้เราสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้มีความเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน แต่หากเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ไม่มีคุณภาพแล้วนั้นอาจเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามทางไซเบอร์และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากเกิดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี วันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้มาพร้อมกัน และเข้าร่วมกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้การขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลในระดับจังหวัดและอำเภอ ภายใต้หัวข้อ A Good Digital Citizen “ก้าวไปสู่ความเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพไปด้วยกัน”
ดร.ปิยนุช ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เหตุที่เลือกจัดจ.ลำปาง เพราะมีความโดดเด่นเฉพาะตัวในด้านเศรษฐกิจซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีคุณภาพสูงรวมถึงการอนุรักษ์วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่ยังคงความเป็นชุมชนพร้อมทั้งสนับสนุนสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในด้านการเกษตร การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมท้องถิ่นจ.ลำปางเป็นจังหวัดสุดท้ายในกิจกรรมสัญจรระดับภูมิภาคของปีนี้ซึ่งเราได้ลงพื้นที่ครบทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านดิจิทัลให้กับประชาชน ซึ่งเรายังมีแผนที่จะขยายการจัดกิจกรรมไปยังจังหวัดอื่นๆ และเตรียมแผนพัฒนาเนื้อหาการอบรมให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและภัยไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจะมีการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้กิจกรรมตอบโจทย์และเข้าถึงประชาชนในแต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น
พร้อมระบุว่า จากสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ภัยทางเทคโนโลยีที่น่ากังวลและต้องเร่งแก้ไขมากที่สุดคือภัยจากการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล และการหลอกลวงทางออนไลน์ซึ่งเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันประชาชนจำนวนมากยังขาดความรู้ในการป้องกันตัวจากการโจมตีประเภทนี้จึงกลายเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพได้ง่าย เราจำเป็นต้องเสริมสร้างความตระหนักรู้และทักษะทางดิจิทัลให้กับประชาชนโดยเฉพาะเรื่องการระมัดระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัวการรู้จักสังเกตสัญญาณของการหลอกลวงทางออนไลน์ และการใช้เครื่องมือดิจิทัลอย่างปลอดภัยการอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันภัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในการปกป้องประชาชนจากการตกเป็นเหยื่อของภัยเทคโนโลยี
“ดิฉันขอฝากถึงประชาชนทุกคนว่าในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันเราทุกคนควรให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเองจากภัยทางเทคโนโลยีโดยเริ่มต้นจากการตระหนักรู้และระมัดระวัง ในการใช้อินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนผ่านช่องทางที่ไม่น่าเชื่อถือ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล หากไม่แน่ใจให้หลีกเลี่ยงการตอบสนองทันที นอกจากนี้ขอแนะนำให้ ใช้ซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัย และหมั่นอัพเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งสร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัย อย่าใช้รหัสผ่านที่ง่ายต่อการคาดเดาและอย่าคลิกหรือดาวน์โหลดไฟล์จากอีเมลหรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ขอให้ทุกคนมีความรู้เท่าทันเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีทักษะดิจิทัล และเป็นพลเมืองดิจิทัลที่ดีร่วมกัน” ดร.ปิยนุช กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี