คณบดี CHW ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ แชร์การดูแลสุขภาพหัวข้อ “เทรนด์สมุนไพรไทยกับศาสตร์ชะลอวัย”แนะกินสมุนไพรไทยป้องกัน-รักษาโรค NCDs ยกขมิ้นชัน พรมมิ บัวบก ยอดฮิตสร้างสมดุลร่างกายช่วยลดความเครียดและบำรุงสมอง
วิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส (College of Health and Wellness) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมงาน “HEALTHSPAN & LONGEVITY NANOTECHNOLOGY” ซึ่งจัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 10 ปี ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเบญจออยล์ และงาน 30 ปี Wellness Asia Group โดยมี อาจารย์จรูญ ชูลาภ อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด มีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาร่วมแชร์ประสบการณ์การดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการมีชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดี ผ่านเทคโนโลยีนาโนที่ทันสมัย โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น ณ สำนักงานใหญ่ ย่านรามอินทรา กรุงเทพมหานคร
รศ.ดร.ภก.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณบดี วิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนส มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้แบ่งปันความรู้ในหัวข้อ “เทรนด์สมุนไพรไทยกับศาสตร์ชะลอวัย”ว่า โรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วนลงพุง เป็นต้น ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้ว 71% ขณะที่ประเทศไทยพบว่า มีผู้เสียชีวิตด้วยโรค NCDs นั้นมีถึงประมาณร้อยละ 74 ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกในปัจจุบัน ดังนั้นการใช้สมุนไพรไทยในการป้องกันและรักษาโรค NCDs เป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ที่จะช่วยขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรไทยไปสู่ระดับโลก
“การป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้ป่วยด้วยโรค NCDs จำเป็นที่จะต้องดูแลสุขภาพ (Wellness) แบบองค์รวมด้วยการดูแลสุขภาพกาย จิตใจ และจิตวิญญาณควบคู่กันไป เพื่อให้ร่างกายเกิดความสมดุล เนื่องจากบางครั้งการดูแลสุขภาพหากไปโฟกัสด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกิดไปก็จะทำให้เกิดการเสียสมดุลในร่างกายได้ ดังนั้นสมุนไพรชะลอวัยจึงเป็นทางเลือกหนึ่งของเทรนด์เวลเนส โดยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดอาหารเสริมที่ใหญ่ที่สุดในโลกประมาณร้อยละ 33 อันดับสอง ประเทศญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 22 และอันดับสามกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป ประมาณร้อยละ 14 มีแนวคิด TOTAL WELLNESS ในการทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีทั้ง 6 ระบบ ประกอบด้วย ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบกำจัดสารพิษ ระบบการอักเสบ ระบบพลังงาน ระบบควบคุมการทำงาน และระบบฟื้นฟูร่างกาย”คณบดี วิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนสกล่าว
สำหรับการประชุม World Economic Forum ที่ประเทศสวิตเซอร์ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ได้มีการพูดถึงความสำคัญของปัญหาเรื่องสุขภาพที่กระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพสมองที่จะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และยังส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการรักษา ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ให้ความสำคัญเรื่อง Pure Wellness โดยมีหลักการว่า “ความมีชีวิตชีวาด้วยศาสตร์แห่งการล้างพิษ และการฟื้นฟูสุขภาพ” นั่นหมายความว่า สารพิษคั่งกับและการขาดสารอาหาร คือ ต้นเหตุสำคัญของโรค NCDs เกือบทั้งหมด อาทิ โรคมะเร็ง พาร์กินสัน ปวดกล้ามเนื้อเส้นเอ็น (Fibromyalgia) และอาการอ่อนล้าเรื้อรัง
รศ.ดร.ภก.สุรพจน์ อธิบายต่อว่า สมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษ คือ ไปทำลายสารพิษหรืออนุมูลอิสระในกระแสเลือด หรือไปเสริมระบบของร่างกายที่ทำหน้าที่ดีท็อก เช่น ตับ โดยสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ Evening Primrose, Milk Thistle, Nettle, Sage, Rosemary , Yarrow, Yellow Dock และ หัวหอม-กระเทียม ส่วนสมุนไพรล้างพิษอย่างดีของประเทศไทย ได้แก่ รางจืด หญ้านางแดง (ส่วนเถา) ขิง และ งา
ทั้งนี้คณบดี วิทยาลัยเฮลท์ แอนด์ เวลเนสได้ย้ำถึงเรื่องสมุนไพรปรับสมดุล หรือ อะแด็ปโตเจน (adaptogen) ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยลดสภาวะเครียดในร่างกาย ทั้งนี้กลไกลอันหนึ่งคือช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวไปทำให้เซลล์ของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายเกิดการอักเสบและเสื่อม ดังนั้นสมุนไพรที่ต้านอนุมูลอิสระหรือช่วยลดสภาวะเครียดของร่างกายจึงช่วยส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เช่น ชาสมุนไพรชนิดต่างๆ และสมุนไพรไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่ช่วยบำรุงสมอง หรือ Nootropic ได้แก่ ขมิ้นชัน พรมมิ บัวบก ผักชี และมะตูม นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรบำรุงสมองยอดฮิตในตลาดโลก เช่น ใบแปะก้วย โสมอินเดีย โสมเกาหลี หญ้าฝรั่น เป็นต้น
การพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อให้เกิดความยั่งยืนควรเน้นการพิสูจน์คุณค่าให้เป็นที่ประจักษ์โดยการพิสูจน์ด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยจริงในคน ผ่านกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขณะเดียวกันต้องเคารพภูมิปัญญาไทยที่มีการใช้ตำรับยาแผนไทยอย่างได้ผลและปลอดภัยมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานและต้องผสมผสานกับการต่อยอดด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและอยู่ในรูปแบบที่น่าใช้ พร้อมกับมีการพิสูจน์ที่ชัดเจนด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยซึ่งทำให้มีหลักฐานทางเวชศาสตร์เชิงประจักษ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นับเป็นการเพิ่มศักยภาพสมุนไพรไทยในการป้องกันและรักษาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เป็นต้นเหตุสำคัญก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตสุขภาพของมนุษยชาติในขณะนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี