สำหรับผู้กำลังอยากจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง น่าจะต้องเริ่มค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเองบ้างไม่มากก็น้อย หนึ่งในส่วนสำคัญของเว็บไซต์คือ Hosting ซึ่งเปรียบเสมือนกับที่อยู่สำนักงานของเว็บไซต์ โดยจะถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ อยู่ 2 ประเภท คือ Shared Hosting และ VPS Hosting บทความนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างของทั้งคู่ พร้อมแนะนำผู้ให้บริการเช่า VPS Hosting ในไทย ที่คุณควรใช้บริการ

 VPS Hosting คืออะไร?

เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้ให้บริการเช่า VPS Hosting ในไทยอยู่เยอะพอสมควร เลยค่อนข้างถูกใช้งานบ่อยกับเว็บไซต์สำหรับธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพ ซึ่ง VPS ย่อมาจาก Virtual Private Server ความหมายของมันก็ตรงตัว เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเสมือนจริง กล่าวคือคุณจะได้ใช้บริการเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว ไม่ต้องแบ่งทรัพยากรกับใคร ทำให้เว็บไซต์ทำงานได้ไหลลื่น มีความปลอดภัยสูง มีลูกเล่นที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ราคาก็ถือว่ากลาง ๆ ไม่ได้ถูก แต่ก็ไม่แพงเมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์สเกลใหญ่ ๆ

 Shared Hosting คืออะไร?

Shared Hosting เป็นบริการเช่า Hosting รูปแบบแรก ๆ โดยผู้ให้บริการจะเปิดให้เช่าเซิร์ฟเวอร์สำหรับเว็บไซต์ ด้วยการแชร์ทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น Ram , CPU หรือ Bandwidth ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการว่าจะเปิดให้แชร์มากน้อยเพียงใด บางเจ้าอาจจะเปิดให้ผู้เช่าหลักสิบเว็บไซต์ หรือ บางแห่งอาจจะเปิดให้เช่าหลักร้อยเว็บไซต์ แน่นอนว่ามันย่อมเป็นบริการที่มีราคาถูก แต่ก็แลกมากับคุณภาพของเว็บไซต์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ โหลดช้า มีข้อจำกัดเยอะ เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์ครั้งแรก ๆ ที่ยังไม่เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ

 ความแตกต่างระหว่าง VPS Hosting กับ Shared Hosting

จากการที่เราแนะนำทั้ง Shared Hosting และ VPS Hosting กันไปแล้ว น่าจะทำให้ผู้อ่านพอจะนึกภาพออก ว่า Hosting ทั้งสองรูปแบบแตกต่างกันอย่างไร แต่เพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เราจะขอสรุปเป็นข้อ ๆ ให้เข้าใจง่ายที่สุด ดังนี้

• การจัดสรรทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์

Shared Hosting จะเป็นการแชร์ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มี ขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ใช้บริการเซิร์ฟเวอร์ว่ามีกี่เว็บไซต์ ยิ่งจำนวนเยอะเท่าไหร่ ยิ่งมีการแชร์ทรัพยากรมากเท่านั้น ต่างจาก VPS Hosting ที่จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว เป็นเอกเทศจากเว็บไซต์อื่น ไม่ต้องแชร์ทรัพยากรกับใคร

• คุณภาพของเว็บไซต์

แน่นอนว่าการที่ Shared Hosting ต้องแชร์ทรัพยากรจากหลาย ๆ เว็บไซต์ที่ใช้บริการ ส่งผลให้คุณภาพของเว็บไซต์ไม่สามารถเทียบเท่ากับเว็บไซต์ที่ใช้ VPS Hosting ได้ ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะ ความเร็วในการโหลด หรือ การปรับแต่งเว็บไซต์

• ความปลอดภัยของข้อมูล

ในส่วนนี้ก็ยังเป็น VPS Hosting ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเลือกใช้กับผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ ความเสี่ยงนั้นแทบจะเท่ากับ 0 เลยทีเดียว เนื่องจากมีการติดตั้งไฟร์วอลล์ รวมถึงการจำกัดการเข้าถึงด้วยการเข้ารหัส ที่สามารถกำหนดได้ด้วยตนเอง ต่างจาก Shared Hosting ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย

• ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเช่า Hosting

เป็นที่เข้าใจได้ว่าค่าเช่าของ VPS Hosting สูงกว่า Shared Hosting อยู่พอสมควร ทว่าเมื่อได้ลองเปิดเผยตัวเลขค่าเช่าแล้ว ก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้เยอะแต่อย่างใด หากเลือกผู้ให้บริการดี ๆ ก็แทบจะอยู่ในหลักร้อยต่อปีเสียด้วยซ้ำไป และปัจจุบันแทบจะไม่มีเว็บไซต์ไหนที่เลือกใช้บริการ Shared Hosting อีกแล้วด้วย

VPS Hosting กับ Shared Hosting เลือกแบบไหนดี?

หากเป็นเว็บไซต์ที่ไม่เป็นทางการ หรือ สร้างขึ้นมาเพื่อการทดลองใช้งาน การใช้ Hosting แบบ Shared Hosting เองก็เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้ แต่ถ้าเป็นเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ การใช้ Shared Hosting อาจส่งผลเสียด้านความน่าเชื่อถือ พร้อมกับมอบประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับผู้ใช้เว็บไซต์ ดังนั้นควรจะต้องเลือกใช้บริการ VPS Hosting จะส่งผลดีมากกว่า

ซึ่งเราขอแนะนำ VPShispeed ผู้ให้บริการเช่า Hosting สุดพรีเมียมในไทย ด้วยคุณภาพที่คุ้มค่าคุ้มราคา เป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับ High-End ที่เลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาให้บริการ ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณนั้นลื่นไหล พร้อมติดตั้ง WordPress ช่วยเรื่องของการทำ SEO ให้เว็บไซต์ถูกค้นเจออันดับต้น ๆ บน Google และระบบสำรองข้อมูลในตัว โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว