นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทสามารถ ในไตรมาส 3/67ยังเป็นที่น่าพอใจ บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 245 ล้านบาทหรือคิดเป็น 12%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและมีกำไรอยู่ที่ 91 ล้านบาท ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน และเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ผลขาดทุนอยู่ที่ 183 ล้านบาท จากกรณีหนี้สินระยะยาวในข้อพิพาทกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่13และการกีฬาแห่งประเทศไทยทั้งนี้ เป็นผลจากทุกสายธุรกิจมีโครงการที่ช่วยส่งเสริมให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งจากธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชาธุรกิจก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจร จากสายธุรกิจ Utilities and Transportationsค่าบริการ Airtimeจากสายธุรกิจ Digital Communications และรายได้จากงานตามสัญญา จากสายธุรกิจ Digital ICT Solution
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ของกลุ่มสามารถ แยกตามสายธุรกิจ ดังนี้
สายธุรกิจ Utilities and Transportations
มีรายได้รวม1,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น285 ล้านบาทหรือประมาณ 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน โดยหลักมาจากธุรกิจก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจรภายใต้ บริษัท เทด้า จำกัด ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง250 ล้านบาท และยังสามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง, บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “SAV”ธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชามีรายได้เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือประมาณ 8.4%มีจำนวนเที่ยวบินรวมแล้วเกือบ26,000เที่ยวบิน ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนคิดเป็น7% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนประมาณ5% รวมทั้งจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการเก็บภาษีสรรพสามิต โดยปัจจุบันสายธุรกิจ Utilities and Transportations มีมูลค่างานคงค้างอยู่ที่ประมาณ 8,700 ล้านบาท
สายธุรกิจ Digital ICT Solution หรือ “SAMTEL”
มีรายได้รวม 830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท หรือประมาณ12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ถ้าเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน ลดลง 380 ล้านบาท หรือคิดเป็น 31% ซึ่งถึงแม้รายได้ลดลงแต่กำไรเพิ่มขึ้นถึง 54% หรือมีกำไรสุทธิ22 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ14 ล้านบาท และยังมีการลงนามในสัญญาโครงการใหม่รวมมูลค่ากว่า900 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานคงค้างอยู่ที่ประมาณ3,900 ล้านบาท
สายธุรกิจ Digital Communications หรือ “SDC”
มีรายได้รวม 157 ล้านบาทเป็นรายได้จากการบริการ Airtime เพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาทหรือคิดเป็น 47% ส่งผลให้ SDC พลิกกลับมามีกำไร 27 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ขณะที่ภาพรวม 3 ไตรมาส ขาดทุนลดลงเหลือเพียง 8 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีมูลค่างานคงค้างอยู่ที่ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท
“สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี กลุ่มสามารถเตรียมเข้าประมูลงานในอีกหลายโครงการมูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาทโดยมุ่งเข้าไปในโครงการที่จะสร้างรายได้ประจำให้เพิ่มขึ้น ทั้งโครงการที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน โครงการภาครัฐในหลายๆหน่วยงานซึ่งจะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ” นายวัฒน์ชัย กล่าวปิดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี