“สมาคมภัตตาคารไทย ผนึกกำลัง ททท.ชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ไปลิ้มรสเมนูเด็ดจากวัตถุดิบชั้นเลิศจากเมืองน่าเที่ยวดึงดูดคนไปด้วยอาหารที่มีเฉพาะถิ่นฎ
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า “สมาคมภัตตาคารไทย จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ห้างสรรพสินค้าฟีนิกซ์ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมท่อง
เที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานมหกรรมอาหารสุดยิ่งใหญ่แห่งปี (Thailand Food Travel Mart 2024) ตั้งแต่วันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ ห้างสรรพสินค้าฟีนิกซ์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร
ภายในงานพบกับ ในงานชมการสาธิตการแล่ซาซิมิปลากะพงไทย เพิ่มมูลค่าจากเชฟอ๊อฟ การสาธิตอาหารจากร้านชื่อดังและร้านในตำนานเช่น Kai Chef House ครัวแต้จิ๋ว ตำนานเหลาในตลาดสด ส้มตำคุณกัญจน์ แชมป์ส้มตำระดับประเทศ ไก่ย่าง 100 ล้าน การแปรรูปไก่ย่างสุญญากาศ โดยพระราม 9 ไก่ย่าง บอกเล่าเส้นทางความสำเร็จจากทีม VT แหนมเนือง ร้านเคียงทะเล พัทลุง ที่จะนำกุ้งลำปำ ปลาดุกร้า ข้าวสังข์หยด อันเป็นเอกลักษณ์มาให้ชิม Pok Pok Start Up Food Delivery สูตรลับจากดาว โดยครัวริมน้ำท้ายเกาะ ตลอดจนรวมร้านเด็ดร้านดังที่ต้องชิมสักครั้งในชีวิต และบูธร้านอาหารสุดอร่อย สุดปัง อีกมากมาย จากหลายจังหวัด อเช่น ระนอง พัทลุง กาญจนบุรี อุดรธานี น่าน ขอนแก่น ชลบุรี ฯลฯ
เวที UP Skill เทคนิคโซเชียลมีเดียให้ดัง ปัง ในธุรกิจค้าอาหารโดยทีมโค้ชจากอีจัน เรียนรู้เทคนิค AI พลิกโฉมการตลาดธุรกิจอาหาร โดยนายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย ทีมอีจันเก๋ากินบอกเล่าตำนานร้านอาหารร้อยปี
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภูมิพลังวัฒนธรรมอาหารไทย : เมนูชูสุขภาพอย่าปล่อยให้เด็กอ้วน ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้ โดยแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ฟังการแสดงดนตรี Taste of Music Concert ตลอดจนเวที Business Matching จากผู้ประกอบการรายใหญ่และร้านอาหารชื่อดังต่างๆ
นางฐนิวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ก่อนที่จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) สมาคมภัตตาคารไทย ได้มอบหมายให้มีผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมเพื่อขับเคลื่อนให้สมาคมเดินหน้าต่อไปได้ แต่เมื่อมีสถานการณ์ Covid-19 เข้ามา ก็ทราบว่า ผู้ประกอบการเดือดร้อนทั้งประเทศ จำต้องกระโดดกลับมาประสานงานกับประธานหอการค้าไทย คุณกลินท์ สารสิน และภายหลัง ผอ.ศบค. พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหมในปัจจุบัน ได้ประสานการช่วยเหลือต่อผู้ประกอบการร้านอาหารมาตลอดจนถึง ปี 2565 สามารถเปิดให้ร้านอาหารนั่งรับประทานในร้านได้
เราทุกคนทราบกันดีแล้วว่าการท่องเที่ยวขณะนี้ คือ เส้นเลือกใหญ่ ที่มีมูลค่าอันดับต้น ๆ ของ GDP ไทย สร้างรายได้ให้กับประเทศ เป็นวัคซีนฉีดปุ๊บ ทุกภาคขับเคลื่อนเรื่องรายได้ปั๊บ เร็วกว่าทุก ๆ รายได้ของประเทศ” นางฐนิวรรณ กล่าว
นางฐนิวรรณ กล่าวต่ออีกว่า “หลังจากสถานการณ์โควิด ตนได้ร่วมมือกับสถาบันการเงิน เพื่อช่วยเหลือสมาชิกผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากการขาดทุนในสถานการณ์ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้อีกด้วย เหล่านี้ก็จะเป็นภาพใหญ่ที่ตนได้อาสาเข้ามาช่วยพี่น้องสมาชิกของสมาคมในฐานะนายกสมาคมภัตตาคารไทย”
“จากการขับเคลื่อนกับผู้ประกอบการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสถวายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทำงานร่วมกับสำนักพระราชวัง จัดทำอาหารพระราชทานในโอกาสพระราชพิธีหรืองานสำคัญต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 7 ปี เพื่อนผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีอยู่ทั่วประเทศก็จะเป็นผู้ทำอาหารของในหลวง เราเรียกว่า “อาหารของพระราชา” ดังนั้น อาหารของพระราชทานจะต้องมีคุณภาพมีคุณค่า ส่งต่อให้พระสงฆ์ และมอบแก่ประชาช โดยการขับเคลื่อนผ่านเครือข่าย 77 จังหวัดทั่วประเทศที่ทำงาน ครัวพระราชทานต่าง ๆ” นางฐนิวรรณ กล่าว
“นอกจากนี้ สมาชิกก็จะมีการสอบถามเข้ามาที่ตนเป็นระยะว่าต้องการให้กิจกรรมระดับประเทศเกิดขึ้นสักครั้ง ประกอบกับปัญหาของสินค้าเกษตรในประเทศไทยบางประเภทล้นตลาดทั้งในและนอกฤดูกาล ทำให้ภาครัฐต้องแก้ปัญหาที่ปลายเหตุตามสถานการณ์ ดังนั้น สภาหอการค้าไทย มีนโยบายอยากให้มีการจับมือ matching ร่วมกัน ระหว่าง ผู้ใช้ ผู้ปลูก เพื่อให้เกิดความร่วมมือด้านเกษตรกรรมเพื่อให้ความต้องการของทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องตรงกันให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ดังนั้น ตนจึงต้องนำสมาคมภัตตาคาร สมาคมโรงแรม ไปคุยกับพี่น้องเกษตรกร โดยมีสภาหอการค้าเป็นตัวกลาง” นางฐนิวรรณ กล่าว
นางฐนิวรรณ กล่าวอีกว่า “จากที่กล่าวมาแล้วนั้น จึงทำให้เกิดความร่วมมือจากหลายภาคส่วนข้างต้นงานในครั้งนี้ขึ้น โดยจะเน้นที่ปลากระพง เพราะฟาร์มเลี้ยงปลากะพงในไทย ถูกตลาดประเทศมาเลเซียโจมตีตลาดด้วยราคา ผู้ประกอบการอย่างเราต้องไปร่วมมือกับกลุ่มผู้เพาะลี้ยงปลากระพงแห่งประเทศไทย รวมถึงยัง ได้รับการสนับสนุนผู้ประกอบการอาหารจากกลุ่มจังหวัดเมืองรองของไทยอีกด้วยเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจ ในฐานะที่ตนก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการร้านอาหารเช่นเดียวกัน โดยใช้อาหารเป็นตัวนำไปสู่การท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืน”
“และในอนาคตในอนาคต คาดว่าจะมีการจัดงานลักษณะเดียวกันแบบนี้ขึ้นอีก ในรูปแบบของการรวมอาหารทุกภูมิภาค เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างต้นน้ำ ก็คือ กลุ่มเกษตรกร กลางน้ำ ผู้ประกอบการ และปลายน้ำคือผู้บริโภค นั่นเอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แบบไร้เงื่อนไขเป็นอย่างดียิ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอาหารและการท่องเที่ยวให้ที่ประจักษ์ต่อสายตาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปทั่วโลก สืบไป” นางฐนิวรรณ กล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี