KISS ปักหมุดปี 68 มุ่งสู่ Rojukiss 3.0 สร้างเซอร์ไพรส์เปิดตัว “คอร์ราโด จาควินโต” CEO คนใหม่ผลงานระดับโลก โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในด้านการดูแลผิวหน้าและขยายตลาดต่างประเทศให้ได้ 20% และตั้งเป้ารายได้ 4,000 ล้านบาทภายในปี 2573 ส่งผ่านความสำเร็จจากคุณวรวรรณ ไชยกำเนิด CEO คนปัจจุบันที่นำทัพโรจูคิสสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และปั้นแบรนด์ โรจูคิสสู่แบรนด์พันล้าน

จากการที่คุณวรวรรณ ได้ทำการลาออกจากตําแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 และทางบริษัทได้แต่งตั้ง คุณคอร์ราโด จาควินโต ให้ดํารงตําแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโดยที่ผ่านมา วิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำของคุณวรวรรณ มีผลอย่างมากต่อการเติบโตของบริษัท ทั้งการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564 ทั้งยังได้ข้ามผ่านช่วงสถานการณ์โควิดมาได้อย่างเข้มแข็งและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2567 ที่ยอดขายและกำไรกลับมามากกว่าช่วงก่อนโควิด และสร้างแบรนด์หลักอย่างแบรนด์โรจูคิสสู่แบรนด์ที่มียอดขายมากกว่าพันล้านบาท พร้อมเติบโตต่ออย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยังนำทัพปั้นแบรนด์และนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างแบรนด์ Sis2Sis ที่เป็นนวัตกรรมสร้างตลาดเครื่องสำอางในรูปแบบซองเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ขยายฐานลูกค้าใหม่ให้บริษัทตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา

ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการ บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการและพนักงานทุกคนในบริษัท แสดงความขอบคุณจากใจจริงสำหรับความทุ่มเท ความเป็นผู้นำ และวิสัยทัศน์ที่คุณวรวรรณ ได้นำพาบริษัทมาจนถึงวันนี้ ในช่วงเวลาที่คุณดำรงตำแหน่ง CEO เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและการเติบโตที่น่าประทับใจขององค์กร ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและการทำงานหนักของคุณ คุณได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง สนับสนุนการพัฒนาทีมงาน และนำพาบริษัทไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้น

ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริษัท กล่าวถึงเป้าหมายในยุคใหม่นี้ว่า ในยุค Rojukiss 1.0 เราเริ่มต้นจากการเป็นผู้นำเครื่องสำอางเกาหลีในประเทศไทยโดย ภญ.ปิยวดี ก่อนขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในยุค Rojukiss 2.0 โดยคุณวรวรรณ วันนี้เราเข้าสู่ Rojukiss 3.0 ซึ่งจะเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง พร้อมขยายตลาดต่างประเทศ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การนำทัพโดยคุณคอร์ราโด

พร้อมกันนี้ บริษัทได้เปิดตัวคุณคอร์ราโด จาควินโต (Corrado Giaquinto) ผู้บริหารระดับโลกที่เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารระดับโลกในการจัดการธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านจากบริษัทข้ามชาติชั้นนำอย่าง Colgate-Palmolive ใน 15 ประเทศ คอร์ราโดเคยเป็น Vice President และ General Manager ของภูมิภาค Greater Indochina และ South Asean Hub ดูแลตลาดประเทศไทย เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา สปป.ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และ บรูไน

คุณคอร์ราโด จาควินโต กล่าวว่า Rojukiss มีศักยภาพมหาศาลในการเติบโต ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ มีเป้าหมายที่จะสร้างความต่อเนื่องในเชิงกลยุทธ์ โดยยึดถือหลักการและความสำเร็จที่คุณวรวรรณ  CEO คนเดิม ได้วางไว้เป็นพื้นฐาน และยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรม การสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทีมงานในองค์กร ตนจึงตั้งใจจะนำประสบการณ์กว่า 30 ปีในการสร้างแบรนด์ระดับโลกมาใช้ผลักดันบริษัทสู่ความสำเร็จครั้งใหม่ ทั้งการขยายตลาดต่างประเทศ การเพิ่มนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ และการสร้างเครือข่ายระดับสากลที่แข็งแกร่ง สำหรับกลยุทธ์หลักขับเคลื่อน Rojukiss 3.0 นั้น ประกอบด้วย

1. ผลักดันรายได้ทะลุ 4 พันล้านบาท ภายในปี 2573

2. เป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในไทย ด้วยการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

3. ขยายตลาดต่างประเทศ ให้มีสัดส่วน 20% ของรายได้รวม

4. เพิ่มกำไรขั้นต้น เพื่อรองรับการลงทุนในนวัตกรรมและการสร้างแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ

5. เชื่อมโยงผู้บริโภคด้วยกลยุทธ์การตลาดเฉพาะบุคคล

6. เพิ่มสมรรถนะด้านองค์กรและบุคลากรให้แข็งแกร่งขึ้น

ด้าน คุณวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบันที่กำลังส่งมอบตำแหน่งให้คนใหม่ กล่าวว่า ตนรู้สึกภูมิใจที่ได้พา Rojukiss เติบโตจนถึงวันนี้ และมั่นใจว่า คุณคอร์ราโด จะนำบริษัทไปสู่ความสำเร็จในยุคใหม่ โดยตนยังคงสนับสนุนบริษัทในบทบาทที่ปรึกษาอาวุโส เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น

ด้าน ภญ.ปิยวดี สอนสิงห์ ผู้ก่อตั้งบริษัท กล่าวว่า มั่นใจว่าความเชี่ยวชาญของคุณคอร์ราโด จะช่วยเสริมศักยภาพให้ Rojukiss ไม่เพียงแต่เติบโตในประเทศไทย แต่ยังสามารถสร้างชื่อเสียงในตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน

“Rojukiss International พร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนโฉมธุรกิจความงามและสุขภาพ เพื่อสร้างความสำเร็จครั้งใหม่บนเวทีระดับโลก”