ญี่ปุ่นนับเป็นประเทศผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์หรือ AI โดย AI ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในหลายภาคส่วนของญี่ปุ่น มีการมุ่งเน้นการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วย AI เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตและระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ในด้านการดูแลสุขภาพ AI ได้กำลังปฏิวัติวงการแพทย์ด้วยระบบการวินิจฉัยทางไกล การดูแลผู้สูงอายุเพื่อตอบสนองต่อสังคมประชากรผู้สูงอายุของประเทศ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์มีการลงทุนกับเทคโนโลยี AI สำหรับยานยนต์อัตโนมัติและเทคโนโลยียานพาหนะอัจฉริยะ อีกทั้ง AI ยังเป็นกลไกสำคัญในวิสัยทัศน์ “Society 5.0” ซึ่งเป็นแผนการบูรณาการระหว่างพื้นที่ทางกายภาพและพื้นที่ทางไซเบอร์ เพื่อสร้างสังคมที่มีประสิทธิภาพและเชื่อมโยงกันมากขึ้น การสนับสนุนจากรัฐบาลและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสถาบันวิจัยระหว่างประเทศยังช่วยเสริมให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งในภูมิทัศน์ทางด้าน AI
ช่วงปลายปี 2567 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีโอกาสจัดการประชุมร่วมกับมหาวิทยาลัยเกียวโตเกี่ยวกับนโยบายและธรรมาภิบาลในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI Policy and Governance) ทำให้ทราบถึงแนวคิดและหลักการที่ประเทศญี่ปุ่นใช้ในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI เพื่อให้การพัฒนาและการใช้งาน AI เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในศึกษาเพื่อการพัฒนาด้านกฎหมายของไทย ดังนี้
อย่างไรก็ดี แม้แต่สำหรับหน่วยงานเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนก็เป็นเรื่องยากในการสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง การกำกับดูแลที่จะสามารถรับมือกับเทคโนโลยีใหม่จึงเป็นสิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญ และเพื่อที่จะสามารถรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่มีความสลับซับซ้อนได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้กำกับดูแลจะต้องมีช่องทางที่จะได้รับการแบ่งปันข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาจากผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับ CPS ภาครัฐจึงอาจต้องพิจารณาเงื่อนไขของการกำกับดูแลที่จะสามารถดึงดูดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงการลดหรือยกเว้นโทษในบางกรณีด้วย
จะเห็นได้ว่าปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทในด้านต่าง ๆ อย่างมากในปัจจุบัน การกำหนดกฎ ระเบียบ หรือการพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่ต้องมีความสอดคล้องกับสภาพสังคมและเทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงได้มีการศึกษาแนวทาง รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานและประเทศที่เป็นผู้นำด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการ ปรับปรุง และพัฒนาการทำงานด้านกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ของโลกในปัจจุบัน อันเป็นภารกิจหลักของสำนักงานฯ เพื่อนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี