รูปแบบของระบบ ERP ทั้ง Cloud On-Premise และHybrid ต่างกันอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ให้เหมาะกับองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างครบวงจร
ปัจจุบันเป็นยุคที่มีการแข่งขันทางธุรกิจที่สูง การบริหารจัดการทรัพยากรองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพกลายเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ ระบบ ERP จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลและกระบวนการทำงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน แต่ด้วยความหลากหลายของระบบ ERP ในปัจจุบัน ทำให้หลายองค์กรยังลังเลในการเลือกระบบที่เหมาะสม บทความนี้เราอยากชวนทุกคนไปรู้จักกับประเภทของระบบ ERP ว่าแตกต่างกันอย่างไร
ERP (Enterprise Resource Planning) คือระบบบริหารจัดการทรัพยากรองค์กรแบบบูรณาการ ที่รวมทุกกระบวนการทำงานเข้าไว้ในระบบเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การบัญชี การผลิต การขาย ทรัพยากรบุคคล และการจัดการสินค้าคงคลัง ระบบ ERP ช่วยให้องค์กรสามารถเห็นภาพรวมของธุรกิจ วิเคราะห์ข้อมูล และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น
ปัจจุบันระบบ ERP มีการพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลายขององค์กร ทำให้มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจระบบ ERP แต่ละประเภทจะช่วยให้องค์กรสามารถเลือกระบบที่เหมาะสมกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่าระบบ ERP มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร
ระบบ ERP แบบ On-Premise เป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์บนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรโดยตรง เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวด แม้จะมีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นที่สูง และ ค่าบำรุงรักษา Maintenance ระยะยาว ดังนั้นองค์กรควรมีแผนก IT เพื่อการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ และ ควรมีแผนการดูแลความปลอดภัยของข้อมูล แต่องค์กรจะมีอิสระในการจัดการข้อมูลให้เหมาะสมกับองค์กรของตัวเองได้อย่างลงตัว
Cloud ERP เป็นระบบที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเทอร์เน็ต ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บบนระบบคลาวด์ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์และการบำรุงรักษาได้มากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถปรับขนาดหน่วยความจำพื้นที่ของข้อมูล ใช้งานได้ตามความต้องการ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นและต้องการเริ่มต้นใช้งานอย่างรวดเร็ว
Hybrid ERP เป็นการผสมผสานข้อดีของทั้งระบบ Cloud และ On-Premise เข้าด้วยกัน องค์กรสามารถเลือกเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในเซิร์ฟเวอร์ภายในได้ ในขณะที่ข้อมูลทั่วไปสามารถจัดเก็บบนคลาวด์เพื่อความสะดวกในการเข้าถึง ระบบแบบ Hybrid มีความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูลและการปรับใช้งานตามความต้องการขององค์กร
ความสอดคล้องกับงบประมาณ พิจารณาทั้งค่าใช้จ่ายเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายระยะยาว รวมถึงค่าบำรุงรักษาและการอัปเกรดระบบ
ความคุ้มค่าของการลงทุน ประเมินผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นและการลดต้นทุนการดำเนินงาน
ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ เลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และมีทีมสนับสนุนที่พร้อมช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ความเสถียรของระบบ ระบบ ERP ต้องมีความเสถียรสูง พร้อมรองรับการใช้งานตลอดเวลา มีระบบสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
ความสามารถในการบูรณาการ สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ที่องค์กรใช้งานอยู่ได้อย่างราบรื่น
ปัจจุบัน ERP ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้ประโยชน์จากระบบ ERP ได้ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความพร้อมขององค์กร สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ระบบ ERP มักจะครอบคลุมฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนและหลากหลาย มีความสามารถในการปรับแต่งสูง และรองรับการทำงานจากทุกที่ ทั่วโลก และการทำงานข้ามประเทศ ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) สามารถเลือกใช้ระบบ ERP ที่มีฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็น มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และสามารถขยายการใช้งานได้ในอนาคต
การเลือกระบบ ERP ที่เหมาะสมเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์กร ไม่ว่าจะเป็น Cloud, On-Premise หรือ Hybrid ERP ล้วนมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน องค์กรควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน ทั้งด้านงบประมาณ ความต้องการทางธุรกิจ และแผนการเติบโตในอนาคต เพื่อให้ได้ระบบ ERP ที่สามารถสนับสนุนการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี