ระบบเครือข่าย (Network) เป็นโครงสร้างสำคัญในองค์กรยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ การมีระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น สนับสนุนการดำเนินงานและการเติบโตของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หากองค์กรละเลยหรือวางระบบเครือข่ายโดยไม่มีการวางแผนที่ดี อาจเกิดผลกระทบที่รุนแรงทั้งด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และต้นทุนในการดำเนินงาน ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหากระบบเครือข่ายขององค์กรไม่ได้มาตรฐาน

1. ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

หนึ่งในผลกระทบหลักของระบบ Network ในองค์กรที่ไม่มีประสิทธิภาพคือส่งผลให้การดำเนินงานขององค์กรช้าลง ตัวอย่างเช่น

• การโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ช้ากว่าปกติ
• การประชุมออนไลน์เกิดอาการดีเลย์
• ระบบ ERP หรือ CRM ที่องค์กรใช้เกิดความล่าช้า
• การใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือแอปพลิเคชันภายในเกิดปัญหาค้างหรือหลุด

สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของพนักงาน แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กรลดลง ส่งผลต่อผลผลิต (Productivity) และอาจทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่พนักงานและลูกค้า

2. ความปลอดภัยของข้อมูลเสี่ยงต่อการถูกโจมตี

หากระบบ Network ในองค์กรไม่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยเพียงพอ องค์กรอาจตกเป็นเป้าหมายของภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น

• การโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial of Service) ที่ทำให้เครือข่ายล่ม
• การโจมตีโดยมัลแวร์หรือแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสข้อมูลและเรียกค่าไถ่
• การดักฟังข้อมูล (Packet Sniffing) ที่ทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหล
• การเจาะระบบ (Hacking) โดยอาชญากรไซเบอร์

หากเกิดการรั่วไหลของข้อมูล องค์กรอาจเผชิญกับผลกระทบทางกฎหมาย การสูญเสียความน่าเชื่อถือ และความเสียหายทางการเงินที่ร้ายแรง

3. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้น

ระบบ Network ในองค์กรที่ไม่ได้ออกแบบมาอย่างเหมาะสมมักก่อให้เกิดปัญหาที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการแก้ไข เช่น

• ต้องอัปเกรดอุปกรณ์ใหม่บ่อยครั้ง เพราะเครือข่ายไม่รองรับการขยายตัวของธุรกิจ
• ค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมบำรุงระบบที่ขาดประสิทธิภาพ
• ค่าเสียโอกาสจากเวลาที่พนักงานไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากปัญหาเครือข่าย

หากองค์กรลงทุนในระบบเครือข่ายที่มีมาตรฐานตั้งแต่แรก จะสามารถลดต้นทุนระยะยาวและเพิ่มความเสถียรของระบบได้

4. การสื่อสารและการทำงานร่วมกันติดขัด

ในยุคที่องค์กรพึ่งพาเครื่องมือดิจิทัลในการทำงานร่วมกัน เช่น Microsoft Teams, Zoom, Google Workspace หรือ VPN สำหรับการทำงานระยะไกล หากเครือข่ายไม่มีประสิทธิภาพ อาจทำให้เกิดปัญหาต่อไปนี้

• พนักงานเข้าถึงเอกสารที่แชร์ในระบบช้า
• ระบบประชุมออนไลน์มีปัญหาดีเลย์หรือเสียงขาดหาย
• VPN เชื่อมต่อได้ไม่เสถียร ทำให้พนักงานที่ทำงานจากที่บ้านได้รับผลกระทบ

ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้การดำเนินงานขององค์กรสะดุด และลดประสิทธิภาพของการทำงานร่วมกันระหว่างทีม

5. ขาดความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ

ธุรกิจที่เติบโตต้องการระบบ Network ในองค์กรที่สามารถปรับขนาด (Scalable) ได้ หากเครือข่ายขององค์กรไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับการขยายตัว อาจพบกับปัญหาต่อไปนี้

• อุปกรณ์เครือข่ายไม่รองรับจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น
• เซิร์ฟเวอร์มีภาระโหลดสูงจนทำให้ระบบล่ม
• ความเร็วของอินเทอร์เน็ตไม่เพียงพอสำหรับปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้น

องค์กรที่ต้องการขยายสาขาหรือเพิ่มจำนวนพนักงานควรออกแบบโครงสร้างเครือข่ายให้สามารถรองรับการเติบโตได้อย่างยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพ

การวางระบบ Network ในองค์กรที่ไม่มีมาตรฐานหรือไม่มีการวางแผนที่ดี อาจนำไปสู่ปัญหาด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และอุปสรรคต่อการเติบโตขององค์กร การลงทุนในโครงสร้างเครือข่ายที่ดีตั้งแต่แรกจะช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด

ดังนั้น องค์กรควรให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบเครือข่ายโดยทีมวิศวกรเครือข่าย (Network Engineer) ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเครือข่ายสามารถรองรับการใช้งานในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ