คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ DPU ร่วมมือทางวิชาการกับ สถาบันประกันภัยไทย มุ่งผลิตนักกฎหมายประกันภัยระดับมืออาชีพ ให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยไทยเป็นครั้งแรก
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568 ในฐานะผู้แทนของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และว่าที่ร้อยตรีสุทธิ รจิตรังสรรค์ ประธานกรรมการสถาบันประกันภัยไทย ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กับสถาบันประกันภัยไทย โดยมีผู้บริหารของทั้งสององค์กรร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยความร่วมมือนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการด้านกฎหมายเกี่ยวกับประกันภัย ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการจัดการการศึกษาด้านประกันภัยเบื้องต้น รวมทั้งส่งเสริม และสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยทุกประเภท โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดทำแผนการดำเนินงานและกิจกรรมทางวิชาการตลอดจนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาหลักสูตรอบรมพัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดทำแผนการดำเนินงานและกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย
ซึ่งสถาบันประกันภัยไทยจะสนับสนุนในด้านบริการวิชาการ การฝึกประสบการณ์วิชาชีพด้านการศึกษา โดยจะพิจารณารับนักศึกษาของคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ เข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพด้านกฎหมายและด้านอื่น ๆ ในบริษัทประกันภัยและในสถาบันประกันภัยไทย ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจประกันภัยแก่นักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ขณะที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จะให้การสนับสนุนในการจัดการเรียนการสอนและการบรรยายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายประกันภัยและสนับสนุนวิทยากรผู้บรรยายในรายวิชาโครงการและงานเสวนาวิชาการทางกฎหมายเกี่ยวกับประกันภัยตลอดจนให้คำปรึกษาด้านธุรกิจประกันภัยที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้จะร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กรและภาคีเครือข่ายทางด้านประกันภัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ฯลฯ
ความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเอกชน โดยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ผนึกกำลังกับสถาบันประกันภัยไทยซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญที่จัดการอบรมและให้ความรู้แก่บุคลากรของธุรกิจประกันภัย ดำเนินการเชิงรุกในการพัฒนาทักษะ และสร้างศักยภาพทางด้านประกันภัย ให้กับนักศึกษากฎหมาย อันถือว่าเป็นการขยายขอบเขตงานของสถาบันประกันภัยไทย ที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย เพราะในยุคดิจิทัลที่มีความเสี่ยงใหม่ๆกฎหมายและกฎกติกาจำเป็นต้องมีการพัฒนาหรือได้รับการปรับปรุงให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆทำให้ต้องพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆในหลายมิติ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายประกันภัยซึ่งรวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านกฎหมายประกันภัย ให้เป็นระดับมืออาชีพ
“ความร่วมมือนี้ถือว่าเป็นการเติมเต็มองค์ความรู้ของทั้งสององค์กร คือสถาบันประกันภัยไทย ซึ่งมีความรู้ความชำนาญด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย แต่ยังขาดความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย ขณะที่คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มีคณาจารย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทางด้านกฎหมายสาขาต่างๆ แต่ยังขาดทักษะในด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย ดังนั้น การบูรณาการความร่วมมือ ทางวิชาการระหว่างสององค์กรจึงทำให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการสร้างองค์ความรู้ให้กับนักศึกษากฎหมายให้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของประกันภัยและทราบถึงโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยนักกฎหมายที่มีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์ทางด้านประกันภัย จึงขอขอบคุณประธานกรรมการสถาบันประกันภัยไทย และคุณอุทัยวรรณ ชุมตันติ ผู้อำนวยการสถาบันประกันภัยไทยตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่เห็นความสำคัญของการสร้างความเข้มแข็งให้กับการศึกษาด้านกฎหมายประกันภัย โดยให้การอนุเคราะห์จัดหลักสูตรอบรมให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณาจารย์ของคณะฯ ได้มีโอกาสเข้ารับการฝึกงานด้านประกันภัยเป็นครั้งแรกกับบริษัทประกันภัยต่างๆ ซึ่งถือว่าจะเป็นกลไกที่สำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างองค์ความรู้ทั้งในด้านวิชาการและด้านปฏิบัติในการช่วยผลิตบุคลากรทางด้านประกันภัยโดยเฉพาะนักกฎหมายประกันภัยที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณธรรม เพื่อเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมประกันภัยไทยและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ กล่าวในตอนท้าย
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี