'ทนายปราบโกง'นำคำพิพากษายื่น ป.ป.ช.ฟัน ม.157 อดีตผู้บริหาร ก.ท.ท.

เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายกฤษฎา อินทามระ หรือทนายปราบโกง นำคำพิพากษาศาลยกฟ้องคดีพนักงานการท่าเรือฯ ทุจริตค่าล่วงเวลายื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ชี้มูลความผิดอดีตผู้บริหารการท่าเรือฯ กว่า 30 คน ข้อหาตามมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องโทษจำคุกตั้งแต่1-10ปี หรือปรับตั้งแต่2หมื่น-2แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทนายกฤษฎา กล่าวว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับการทุจริตเบิกค่าล่วงเวลาของพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยในช่วงปี 2545-2555 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับการท่าเรือเป็นเงินกว่า 3,000 ล้านบาท

ต่อมาปี 2557กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และการท่าเรือได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในปี 2560 หลังจากนั้นปี 2565 ดีเอสไอได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา 34 คน และอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลางในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567

จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2568 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 34 คน แม้ว่าจะมีจำเลยบางส่วนให้การรับสารภาพก็ตาม 

"คดีนี้ถึงจะมีความซับซ้อน และระยะเวลาที่ยาวนานของคดีทุจริตในประเทศไทย แต่คำพิพากษาของศาลเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาพยานหลักฐานอย่างรอบคอบและการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะต่อผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีอาญา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทั้งความท้าทายและความสำคัญของการรักษากฎหมายและความเป็นธรรม"
 
ดังนั้น เมื่อศาลยกฟ้องพนักงานการท่าเรือทุจริตค่าล่วงเวลา ตนจึงร้อง ป.ป.ช.ให้ชี้มูล มาตรา157 อดีตผู้บริหารการท่าเรือฯ ต่อไป