คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดเวิร์กช็อป "Blackmagic Design Cinema Workflow Workshop" เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทดลองใช้ เทคโนโลยีภาพยนตร์ระดับโลก พร้อมเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของบุคลากรในอุตสาหกรรม โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ เป็นประธานเปิดงาน
กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักศึกษากว่า 70-80 คน ที่เข้าร่วมและได้ทดลองใช้อุปกรณ์ถ่ายทำและตัดต่อที่ทันสมัย โดยมีผู้กำกับภาพยนตร์เบอร์ต้นชื่อดังเมืองไทย ได้แก่ สมบูรณ์ พิริยะภักดีกุล และสิทธิพงษ์ กองทอง พร้อมทีม DaVinci Resolve Certified Trainer และผู้เชี่ยวชาญจาก Blackmagic Design ร่วมเป็นวิทยากร ถ่ายทอดเทคนิคและองค์ความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
สำหรับการอบรมแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก โดยเริ่มจากการบรรยายเกี่ยวกับ อุปกรณ์ถ่ายทำระดับมืออาชีพ เช่น Blackmagic URSA Cine 12K LF และ Pyxis 6K ซึ่งเป็นกล้องถ่ายภาพยนตร์คุณภาพสูงที่ใช้ในอุตสาหกรรมจริง นอกจากจะมีการแนะนำเทคนิคการถ่ายทำล่าสุดแล้ว นักศึกษายังได้ทดลองใช้กล้องและอุปกรณ์ต่างๆ ในสถานการณ์จำลองการถ่ายทำภาพยนตร์ เพื่อให้เข้าใจการใช้งานอย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้เกี่ยวกับ การทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อผ่าน Blackmagic Cloud ซึ่งช่วยให้ทีมงานสามารถแบ่งปันไฟล์และทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีนี้ช่วยลดระยะเวลาการส่งต่อข้อมูลระหว่างกองถ่ายกับทีม Post Production ทำให้การตัดต่อเกิดขึ้นได้ทันที
อีกหนึ่งหัวข้อสำคัญคือ การใช้โปรแกรม DaVinci Resolve ในการตัดต่อภาพยนตร์ ปรับแต่งสี และสร้างวิชวลเอฟเฟกต์ โดยมีทีม DaVinci Resolve Certified Trainer คอยให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว โดยนักศึกษาหลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องนี้ และได้สอบถามเกี่ยวกับเทคนิคที่สามารถนำไปปรับใช้กับโปรเจกต์ของตนเอง
อาจารย์กันตภณ นพศรี Post-Production Specialist แผนก Nitade Creator Lab คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า คณะนิเทศศาสตร์มุ่งเน้นให้นักศึกษาเป็น Beyond Content Creators ที่มีความสามารถรอบด้าน ไม่เพียงแต่ฝึกฝนทักษะการถ่ายทำและตัดต่อ แต่ยังต้องสามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดสู่งานสร้างสรรค์ที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาเนื้อหาในสื่อดิจิทัล การผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในงานภาพยนตร์
ด้วยเหตุนี้ การอบรมครั้งนี้จึงออกแบบมาให้นักศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรเจกต์ส่วนตัวหรือการต่อยอดในสายอาชีพ ซึ่งอาจารย์กันตภณ เน้นว่า “การมีทักษะหลากหลาย ทั้งการถ่ายทำ การตัดต่อ และการเกรดสี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล ซึ่งเป็นตลาดที่ต้องการบุคลากรที่มีความสามารถรอบด้าน”
คณะนิเทศศาสตร์ยังมีแผนจัดเวิร์กช็อปในหัวข้ออื่นๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสื่อ โดยกิจกรรมในครั้งต่อไปจะมุ่งเน้นไปที่เทคนิคการจัดแสงสำหรับการถ่าย MV ตอนกลางคืน ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญที่สามารถนำไปใช้กับงานโปรดักชันในอนาคต
"กิจกรรมนี้ไม่ใช่แค่การอบรม แต่มันคือโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสเทคโนโลยีจริง และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในอุตสาหกรรมสื่อที่มีการแข่งขันสูง" อาจารย์กันตภณ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ การจัดอบรมในครั้งนี้เป็นการตอบสนองความต้องการของนักศึกษา ที่ต้องการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ นอกเหนือจากในห้องเรียน โดยเป็นการต่อยอดจากกิจกรรม "Personalized Activity" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่ของคณะนิเทศศาสตร์ ในการพัฒนาทักษะให้ตอบโจทย์ความหลากหลายของนักศึกษา ผ่านการสำรวจความต้องการของนักศึกษาในแต่ละห้องเรียน ด้วยการทำแบบสอบถามเพื่อนำมาจัดกิจกรรม Workshop ที่เน้นการเพิ่มพูนทักษะแบบเจาะลึก ตรงกับความต้องการของนักศึกษา และให้นักศึกษาสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที เพื่อเติบโตในสายงานที่ตนเองต้องการมากที่สุด
สำหรับนักศึกษาที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านเพจ Facebook : คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ https://www.dpu.ac.th/th/faculty-of-communication-arts เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับเวิร์กช็อปและกิจกรรมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี