‘นายกสมาคมนักประดิษฐ์ฯ’ ยกเหตุการณ์ ‘ตึก สตง. ถล่ม’ เตือนคนไทย ให้ระวังกลุ่มทุนเทา สะท้อนอิทธิพลลามมาถึงหน่วยราชการ พร้อมประกาศยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องความคิดนวัตกรรมของคนไทย 

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีข้อสงสัยถึงกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่  จนเกิดถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งมีแรงสั่นสะเทือนมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาว่า เชื่อว่าทุกคนมีความเห็นตรงกันก็คือ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงภัยธรรมชาติได้ แต่เราสามารถสร้างนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์เพื่อลดผลกระทบจากความเสียหายจากภัยธรรมชาติได้ ในกรณีนี้ก็เช่นกัน หากอาคาร สตง. แห่งใหม่ มีลักษณะการก่อสร้างที่ถูกต้องตามแบบวิศวกรรม สถาปัตยกรรม และมีนวัตกรรมในการก่อสร้างที่สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม แล้ว เหตุการณ์อันน่าสลดใจ ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ตนจึงขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้ง ให้กำลังใจกับบรรดาอาสาสมัครที่ปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลืออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ที่จะมีผู้รอดชีวิตออกจากตึกมาเพิ่มเติมด้วย 

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้น ยังถือเป็นเรียนสำคัญให้คนไทยควรตระหนักถึงภยันตรายของกลุ่มทุนจีนเทาที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และอิทธิพลในประเทศไทย เนื่องจากหน่วยราชการที่ทำหน้าตรวจสอบเงินแผ่นดิน กลับถูกกลุ่มทุนจีนเทาใช้เล่ห์กลในการรับงานโครงการก่อสร้างตึกขนาดใหญ่ โดยอาศัยคนไทยมาเป็นนอมินี จากนั้น เมื่อรับงานได้แล้วก็โอ้อวดสารพัดว่า จะนำนวัตกรรมการก่อสร้างใหม่ๆ มาใช้ เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้าง แต่สิ่งที่พบเห็นก็คือ การนำเหล็กและคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐานมาก่อสร้าง และก่อสร้างไปไกลถึงขั้นจะมีการวางแปลนตกแต่งรายละเอียดภายในกันแล้ว  จึงต้องสอบถามว่า การที่โอ้อวดว่าจะนำเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัยที่ซับซ้อนมาใช้หลายด้าน มีงานวิจัยรองรับหรือไม่ ทำไมถึงถล่มลงมาได้ ในขณะที่ตึกอื่นๆ ที่ยังคงมีการก่อสร้าง กลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด และที่สุดเมื่อเกิดเหตุแล้ว ทำไมมีพนักงานบริษัทที่รับงาน จำนวน 3 – 4  คน กลับวิ่งหน้าตาตื่นเพื่อเอาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่พอจับได้ก็กลับอ้างว่า ที่เอาเอกสารออกมาเพื่อที่จะเป็นหลักฐานในการเคลมประกัน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ก็ถือเป็นกรณีศึกษาล่าสุดที่ต้องขอเตือนคนไทยทุกคนว่า กลุ่มทุนจีนเทาได้เข้ามามีอิทธิพลครอบงำในทุกภาคส่วนของสังคมไทย แม้แต่หน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องที่อันตรายเป็นอย่างมาก ดังนั้น ตนจึงต้องขอปลุกจิตสำนึกของคนไทย อย่าให้กลุ่มทุนสีเทาไม่ว่าชาติไหนๆ  มามีอิทธิพลบงการคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน ให้กระทำการอันเป็นการทำร้ายและทำลายสิ่งต่างๆ ที่คนไทยได้สร้างสรรค์มาเป็นระยะเวลายาวนานด้วย 

“ผมได้พยายามชี้ให้เห็นว่า กลุ่มทุนจีนเทาได้พยายามเข้ามามีอิทธิพลบงการประเทศไทยในเรื่องต่างๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งที่ผมในฐานะนายกสมาคมนักประดิษฐ์ฯ เห็นอยู่ตลอดก็คือ การลอกเลียนแบบสินค้านวัตกรรมที่คิดค้นโดยคนไทย ซึ่งยังมีขายอยู่ทั่วไปตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงมาตรฐานและความปลอดภัยของผู้ใช้สินค้า ทำให้คนที่คิดค้นสินค้านวัตกรรมนั้น ถูกดูหมิ่นคุณภาพอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งผมก็ขอยืนหยัดต่อสู้อย่างถึงที่สุด เพื่อปกป้องความคิดนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากคนไทยด้วยกัน สำหรับในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ผมมีคำถามตรงๆ ไปว่า ทำไมหน่วยราชการที่มีหน้าสำคัญ กลับถูกกลุ่มทุนจีนเทาหลอกลวงโดยใช้เล่ห์เพทุบายต่างๆ เพื่อให้ได้รับงานการก่อสร้างอาคารสูง หรืออาจจะมีข้าราชการจำนวนมากในองค์กรรู้เห็นเป็นใจด้วย สิ่งหากเป็นอย่างหลังนั้น ผมก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะท่านได้ร่วมกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ทำร้ายประเทศของตัวเอง และก็อำมหิตเป็นอย่างมาก เพราะผมเชื่อว่า ด้วยโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง วัสดุอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน หากเหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่เกิด และสามารถเปิดใช้ตามกำหนดได้ ยังไงก็มีเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นคนในหน่วยงานนั้นเองเป็นผู้รับเคราะห์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากเตือนคนไทยว่า พิษภัยของกลุ่มทุนจีนสีเทา มีเป็นอันมาก ทั้งที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ตามที่ได้เห็นได้ยินได้ฟังมา และได้ประสบพบมาด้วยตนเองอย่างเช่นผม หรือคนอื่นๆ ที่ใกล้ชิด ซึ่งพลังแห่งความสามัคคีและการรู้เท่าทันพิษภัยของกลุ่มทุนจีนสีเทา จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้คนไทยพ้นภัยได้” นายภณวัชร์นันท์กล่าว