วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมที่เติบโตเร็ว ด้วยการลงทุนจากบริษัทของสหรัฐและจีนแม้จะมีความเสี่ยงเรื่องคอร์รัปชันและสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐก็ตามที ดังนั้นการวางแผนการลงทุนจึงต้องพิจารณาทั้งในแง่ของโอกาสและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ จึงจะนำมาซึ่งความสำเร็จ
สงครามลงทุนสหรัฐฯ vs จีน ระอุ! แย่งชิงตลาดเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“คาดว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะกลายเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่มีความสำคัญยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงกลยุทธ์และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี"
การลงทุนจากสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและการฝึกอบรมบุคลากร
หลังโควิด-19 เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มฟื้นตัว แต่ไม่เท่ากันในทุกอุตสาหกรรม ภาคเทคโนโลยีปรับตัวได้ดีจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคพลังงานได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และภาคการผลิตต้องเผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและห่วงโซ่อุปทานที่ไม่แน่นอน
นอกจากนี้ การปกปิดผลขาดทุนทางการเงินในช่วงโควิด-19 ทำให้ปัญหาทุจริตและคอร์รัปชันเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น เช่น ในสิงคโปร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทค้าน้ำมันถูกตัดสินจำคุกเกือบ 20 ปีจากคดีทุจริต ส่วนไทยมีคดี Stark Corporation ที่กลายเป็นหนึ่งในคดีทุจริตที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และในเวียดนาม Truong My Lan ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตจากการยักยอกและฉ้อโกงเงินรวมกว่า 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก Saigon Commercial Bank
ปัญหาทุจริตและคอร์รัปชันในภูมิภาคนี้ยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออำนาจทางการเมืองยังคงอยู่ในมือของตระกูลที่มีอิทธิพล เช่น ตระกูลมาร์กอสในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องระบบอุปถัมภ์และการบั่นทอนกระบวนการประชาธิปไตย
แม้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีศักยภาพในการเติบโตสูงและเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจ แต่ความเสี่ยงจากปัญหาทุจริตและการเมืองยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ นักลงทุนจึงควรพิจารณาทั้งโอกาสและความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนในภูมิภาคนี้

“แม้ว่าแนวโน้มการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2025 จะสดใส แต่การเลือกพันธมิตรทางธุรกิจอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องการลงทุนและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น”
ปัญหาคอร์รัปชันและการขาดความโปร่งใสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นความเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังยุคโควิด-19 ที่บางบริษัทอาจตบแต่งงบการเงินหรือบิดเบือนข้อมูลด้าน ESG เพื่อดึงดูดการลงทุน หากไม่มีการตรวจสอบสถานะทางธุรกิจอย่างละเอียด พฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสเหล่านี้อาจนำไปสู่ความเสียหายทางการเงินได้
เพื่อป้องกันความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่ยั่งยืน นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบสถานะทางธุรกิจ (Integrity Due Diligence) และเลือกพันธมิตรทางธุรกิจที่มีค่านิยมและจริยธรรมที่สอดคล้องกัน อย่าปล่อยให้ความเสี่ยงนี้เป็นระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ เลือกคู่ค้าอย่างรอบคอบ เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน!
มาตรการปราบปรามการใช้นอมินีในธุรกิจสีเทาของรัฐบาลไทย กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจต่างชาติที่เคยใช้นอมินีไทยในการถือหุ้นเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย แม้ในอดีตวิธีนี้จะเป็นที่นิยม แต่เมื่อกฎระเบียบเข้มงวดขึ้น การดำเนินธุรกิจในไทยจึงเผชิญความท้าทายมากขึ้น ทำให้แนวทางควบรวมและซื้อกิจการ (M&A)ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเป็นโครงสร้างที่โปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างมั่นคง

อย่างไรก็ตาม การปิดดีล M&A ไม่ได้หมายถึงความสำเร็จเสมอไปการตรวจสอบสถานะด้านความโปร่งใส (Integrity Due Diligence)เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจหลังการควบรวม (Post-Deal Business Risk Review)ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ความท้าทายและปรับกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงสุดจากข้อตกลง
อย่าให้ความเสี่ยงมาทำลายความสำเร็จของการลงทุน!
เลือกใช้บริการตรวจสอบสถานะและประเมินความเสี่ยงจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความมั่นคงและโปร่งใสในการลงทุน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี