'นักวิชาการ'ถอดบทเรียนสู่การปฏิบัติจริง จากนโยบาย'รายได้ 3 เท่าใน 4 ปี' ผลงานเด่น จับต้องได้จริง ของ'ธรรมนัส'อดีตรมว.เกษตรฯ
มีรายงานข่าวจากนักวิชาการ ด้านเศรษฐกิจสังคม ระบุว่า การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า แม้จะกินเวลาเพียงหนึ่งปี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 ถึง 2 กันยายน 2567 แต่ผลงานที่เกิดขึ้นกลับมีความชัดเจนเป็นรูปธรรม และเป็นที่รับรู้ในหมู่เกษตรกรว่า “จับต้องได้จริง” จนยังคงสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง
โดยมีจุดเด่นของการขับเคลื่อนนโยบายสู่ผลสัมฤทธิ์ด้วยแนวคิดหลัก “ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านการเกษตรสู่ความสำเร็จ” ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบูรณาการข้อมูลผ่านศูนย์บริการ “พิรุณราช” การวางรากฐานเกษตรสมัยใหม่ การจัดการปัญหาภัยพิบัติ-หนี้สิน ตลอดจนการผลักดันแนวคิดเกษตรยั่งยืนที่สอดรับกับทิศทางโลก (BCG และ Carbon Credit) โดยสรุปได้เป็น 5 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. สร้างรูปแบบการทำงานใหม่ที่เข้าถึงเกษตรกรจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนภาคเกษตร ทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการได้สะดวก ผลักดันแนวคิด “ครอบครัวเกษตร” ด้วยการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาสินค้าเกษตรให้พร้อมสู่ตลาด (MR: Market-Ready)
จุดเด่น คือเป็นการยกระดับการทำงานของภาครัฐให้ใกล้ชิดและตอบโจทย์เกษตรกรมากขึ้น พร้อมต่อยอดสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
2. รับมือภัยธรรมชาติอย่างเป็นระบบ ฟื้นฟูพื้นที่เกษตรและวางระบบป้องกันภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง อย่างจริงจัง
จุดเด่น คือ สะท้อนถึงการใส่ใจต่อปัญหาเร่งด่วนที่กระทบเกษตรกรโดยตรงในแต่ละปี
3. ยกระดับศักยภาพเกษตรกร ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ พัฒนาเกษตรคุณภาพ ลดต้นทุน เพิ่มอำนาจต่อรอง เชื่อมโยงเทคโนโลยีผ่าน Big Data ผลักดันสินค้าเกษตรสู่มูลค่าสูง
จุดเด่นคือ เกษตรกรเปลี่ยนผ่านจากผู้ผลิตรายย่อย สู่ผู้ประกอบการที่มีข้อมูล เครือข่าย และความสามารถแข่งขัน
4. ขับเคลื่อนเกษตรยั่งยืน รับเทรนด์โลก สนับสนุนเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม (Go Green) ลดการใช้สารเคมี ใช้แนวทาง BCG และ Carbon Credit ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ
จุดเด่นคือ เตรียมภาคเกษตรไทยให้พร้อมเข้าสู่ตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
5. อำนวยความสะดวกและลดภาระเกษตรกร แก้หนี้สินเรื้อรัง ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ดี เครื่องจักรกลที่เหมาะสม และปรับโครงสร้างการผลิต
จุดเด่นคือ ตอบโจทย์ปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคเกษตรไทยอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ จึงนับเป็นบริบทแห่งความท้าทายและแนวทางขับเคลื่อน ในยุคที่ภาคเกษตรต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งราคาผลผลิตตกต่ำ ภัยแล้งซ้ำซาก โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ทั่วถึง รวมถึงระบบราชการแบบไซโล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามาพร้อมเป้าหมายใหญ่ “เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี” ผ่าน 9 นโยบายหลัก และแนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ขยายผล” โดยมีเกษตรกรเป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลง
หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนนี้คือกรอบแนวคิด “5C” ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:
5C แกนหลักของการขับเคลื่อน
1. Context (บริบท)
เข้าใจพื้นที่ เข้าใจปัญหา ลงมือทำจริง ไม่ใช่เพียงสั่งงานจากส่วนกลาง
2. Content (เนื้อหานโยบาย)
เน้นนโยบายที่ตอบโจทย์ เช่น โซนนิ่งพืช ลดต้นทุนผ่านเทคโนโลยี และตลาดเฉพาะอย่างผลไม้ GAP
3. Connection (เครือข่ายทำงาน)
เชื่อมโยงทุกภาคส่วน ทั้งราชการ ท้องถิ่น และการเมืองระดับพื้นที่ เพื่อผลักดันงานให้เกิดจริง
4. Communication (การสื่อสาร)
สื่อสารนโยบายอย่างโปร่งใส ต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรปรับตัวได้ทันกับนโยบาย
5. Collaboration (การบูรณาการ)
ทำงานแบบองค์รวม ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง รวมพลังจากทุกภาคส่วนโดยไม่ยึดติดโครงสร้างเดิม
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ " Smart & Hard" คือ ผู้นำที่ “ลงมือทำ” ไม่ใช่แค่สั่งการ ,ทำงานด้วยสไตล์ “Smart & Hard” คือ วางแผนอย่างชาญฉลาด และทำงานอย่างหนัก ,เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็ว ลดพิธีการทางการเมือง
นอกจากนี้ นักวิชาการ ยังระบุถึงข้อเสนอแนะเพื่อการต่อยอด ดังนี้
1.ควรมีระบบ ติดตามและประเมินผล (M&E) ที่ชัดเจน เพื่อวัดผลรายได้จริงของเกษตรกร
2. พัฒนา เครือข่ายสถาบันเกษตรกร ให้เข้มแข็ง มีอำนาจต่อรองในระบบเศรษฐกิจ
3. เสริมบทบาท ท้องถิ่นและภาคประชาชน ในการมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายและติดตามผล เพื่อความยั่งยืนระยะยาว
"การทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามปฏิรูประบบราชการแบบเดิม ให้กลายเป็นการทำงานที่เน้นพื้นที่จริง ปัญหาจริง และเกษตรกรจริง ผ่านกรอบคิด 5C ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ หากสามารถต่อยอดด้วยกลไกตรวจสอบและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ก็มีศักยภาพที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของภาคเกษตรไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี