เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 17.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกราบ แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าที่หน้าอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ บูชาพระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 และพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงกราบ
ต่อจากนั้น ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธาน พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา จากนั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้า พาดระหว่างพระกร ทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม แล้วทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน) พระราชอุปัธยาจารย์ ทรงคม แล้วทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์ เมื่อพระสงฆ์ที่สดับปกรณ์และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐิน เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ในโอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ถวายพระพุทธอังคีรส (จำลอง) ขนาดหน้าตัก 3 นิ้ว เนื้อทองคำ ฐานเงิน 1 องค์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายพระพุทธอังคีรส (จำลอง) ขนาดหน้าตัก 3 นิ้ว เนื้อเงิน 1 องค์ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
จากนั้น เวลา 18.05 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าพระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าที่หน้าอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงกราบ ต่อจากนั้น ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธาน พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา จากนั้น เจ้าพนักงานกรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร ทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรม เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงคม ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตร พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์ เมื่อพระสงฆ์ที่สดับปกรณ์และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐิน
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกรวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาของการจัดงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยแห่งชาติ และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานดังกล่าว เสร็จแล้ว ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ในโอกาสนี้ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ถวายพระรูปสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณณสิริ) พระองค์ที่ 17 และชุดพระกริ่งมหามงคล 67 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เลี่ยมทองคำ 5 องค์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และชุดพระกริ่งมหามงคล 67 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เลี่ยมทองคำ 5 องค์ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เสร็จแล้ว เสด็จออกจากพระอุโบสถ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังลานเขตพุทธาวาส ทรงตัดแถบแพรเปิดงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถด้านต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า
ในฐานะ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” นิทรรศการและการสาธิตองค์ความรู้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพร อัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัด กับนิทรรศการผลสำเร็จการดำเนินงานด้านการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านของหน่วยงานราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ชมรม สมาคม และมูลนิธิต่างๆ ในโอกาสนี้ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ถวายโมเดลฤาษีดัดตน (จำลอง) 3 ตน แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
งานสัปดาห์วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ จัดขึ้นโดยกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดคุณค่า และความสำคัญของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ให้เกิดการศึกษาเรียนรู้แก่ประชาชนอย่างแพร่หลาย กับทั้งเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ในฐานะ “พระมหากษัตริย์แห่งการแพทย์แผนไทย” ซึ่งทรงรวบรวมองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยมาเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จากหลักฐานจารึกแผ่นศิลาที่ว่าด้วยการปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2374 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า เสด็จพระราชดำเนินมาทรงถวายผ้าพระกฐิน และทอดพระเนตรพระอุโบสถ พระวิหาร และเสนาสนะสงฆ์ต่างๆ ที่ชำรุดเสียหาย จึงมีพระราชศรัทธาให้บูรณะปฏิสังขรณ์และขยายพื้นที่ให้มากขึ้น และทรงให้ก่อสร้างเสนาสนะสงฆ์ มีการจารึกตำราการแพทย์แผนไทยประดับไว้ตามศาลาราย จัดสร้างรูปฤาษีดัดตน และจารึกตำรายาต่างๆ ติดประดับไว้ในศาลา ซึ่งองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศรับรองให้ศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงทำให้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเป็นรากฐานที่สำคัญด้านสาธารณสุขของชาติไทยตลอดมา ซึ่งในปีนี้ มีแนวคิดหลักในการจัดงาน คือ “หายป่วย รวยขึ้น ด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรไทย” โดยจัดงานระหว่างวันที่ 25 - 29 ตุลาคม 2567