เนื่องในโอกาสวันครู 16 มกราคม 2568 สมเด็จพระอริยวงศาคตตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในงานวันครู 16 มกราคม 2568 ความว่า
ผู้อยู่ในฐานะครูอาจารย์ ได้ศึกษาเล่าเรียนกับวิทยากรมาเป็นอันมาก จึงสามารถอบรมชี้แจงแสดงสารัตถะให้แก่ศิษย์ได้ ผู้ศึกษาสำเร็จตามหลักสูตรมามากอาจเผลอหลงตนว่าเป็นผู้รู้รอบรู้ทั่ว ครั้นมีใครติติง หรือแสดงทัศนะต่าง ก็พาให้เกิดโทสะขุ่นเคือง จนอาจถึงขั้นวิวาทบาดหมางกัน เพราะถึงทิฏฐิมานะแห่งตนเป็นใหญ่ อันที่จริงแล้วบุคคลผู้ยังมีกิเลส ล้วนยังคงคิด และทำผิดพลาดเป็นธรรมดา ผู้ทำหน้าที่ครูอาจารย์ทั้งหลายจึงพึงข่มจิต ยั้งใจด้วยความอดทน จงพากเพียรผ่อนเพลาธิติมานะ เปิดใจพร้อมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ตักเตือนของบัณฑิต แล้วหยิบยกขึ้นเป็นกระจกส่งสะท้อน ทั้งเป็นโจทย์ตักเตือนตนด้วยตนเองว่าตนยังย่อหย่อนในความรู้หรือคุณธรรมประการใดหรือไม่และอย่างไร เพื่อจับได้เร่งขวนขวายแก้ไขพัฒนาปรับปรุงตน ให้เจริญด้วยความรู้คู่คุณธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป สมด้วยเถระคาถาของพระสารีบุตรว่า
นิธินํ ว ปวตฺดารํ ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ
นิคฺคยฺหวาที เมธาวี ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเขติ
แปลความว่า “บุคคลพึงเห็นผู้มีปัญญามักชี้โทษ มักพูดปรามไว้ เหมือนผู้ชี้บอกขุมทรัพย์ และพึงคบผู้ที่เป็นบัณฑิตเช่นนั้น”
เนื่องในวันครู พุทธศักราช 2568 ขออนุโมทนากุศลจริยาของครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน และขออำนวยพรให้ท่านจงเจริญด้วยสรรพกำลังอันชอบธรรม เพื่อเป็นกำลังสำคัญอุดหนุนค้ำจุนสังคมไทยสืบไป เทอญ