“ในหลวง-พระราชินี” ทรงเปิดอาคารวิจัยฯ คณะแพทยศาสตร์ มอ.หาดใหญ่ ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17.23 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ ณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา ณ อาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
เมื่อเสด็จฯถึง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เสร็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศาสตราจารย์สนิท อักษรแก้ว กรรมการสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมด้วยผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา เฝ้าฯรับเสด็จ
จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสุมิตรา ประเทพ รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร และผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสุภาภรณ์ ดิสนีเวทย์ รองคณบดีฝ่ายการศึกษาและผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินงานจัดสร้างอาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์
จากนั้น เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังแท่นพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “อาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์” พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์กิตติพงศ์ เรียบร้อย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์รังสรรค์ ภูรยานนทชัย รองคณบดีฝ่ายโรงพยาบาลและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย สำหรับเชิญไปประดิษฐาน ณ อาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วเสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังบริเวณที่ปลูกต้นไม้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นศรีตรัง
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ ชั้น 1 ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และผลงานนวัตกรรมเซลล์บำบัด “พีเอสยู ซีดีหนึ่งเก้า ซีเออาร์-ที เซลล์” (PSU CD19CAR-T cell) ที่นำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดบีลิมโฟไซต์ที่ดื้อต่อการรักษามาตรฐานหรือกลับเป็นซ้ำ รวมทั้งผู้ป่วยแพ้ภูมิตัวเองเอสแอลอี และผลงานวิจัยและนวัตกรรมอื่น ๆ ด้านการแพทย์และสุขภาพ ต่อจากนั้น เสด็จขึ้นชั้น 6 เสด็จเข้าห้องประทับรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
อาคารวิจัย นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นอาคารสูง 14 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 45,889 ตารางเมตร สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัยและนวัตกรรม การเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษา ห้องปฏิบัติการพื้นฐานและการวิจัยประยุกต์ เพื่อช่วยในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักวิจัย และการทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพ ให้สามารถสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ สามารถนำไปใช้ประโยชน์
ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภายในอาคารประกอบด้วย ห้องปฏิบัติการนวัตกรรม ห้องปฏิบัติการวิศวกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ ห้องปฏิบัติการสำหรับกลุ่มวิจัย พื้นที่สำนักงานบัณฑิตศึกษา สำนักงานสาขาวิชาชีวเวชศาสตร์และวิศวกรรม ชีวการแพทย์ สาขาวิชาการวิจัยทางคลินิกและวิทยาการข้อมูลทางการแพทย์ สาขาวิชาระบาดวิทยา รวมทั้งพื้นที่จัดแสดงและห้องประชุมใหญ่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมพระราชทานเงินจากการบริจาคของประชาชนในงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรายได้จากการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” จำนวน 80 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพื่อรองรับและยกระดับการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่บุคลากรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตลอดจนประชาชนที่เข้ารับการรักษาพยาบาล
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา ณ อาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
เมื่อเสด็จฯถึงอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการ เฝ้าฯรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร (จำลอง) ทรงกราบ ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางชมภู่ ใจเงินสุทธิ์ มากมณี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสงขลา และนายนารถ เศรษฐพูธ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงสงขลา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน และแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วทรงวางลงในหลุม พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “อาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา” พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการคุณ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเข็มที่ระลึก ตามลำดับ จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายชิโนรส ยงเกียรติกานต์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ต่อจากนั้น ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงสงขลา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย
เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วทรงพระดำเนินไปยังอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา เสด็จเข้าห้องประทับรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
ศาลแขวงสงขลา จัดสร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 ซึ่งมีพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเขตอำนาจและวันเปิดทำการของศาลแขวงในบางจังหวัด พ.ศ. 2500 โดยกำหนดให้จังหวัดสงขลา มีศาลแขวง 1 ศาล เปิดทำการตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2500 ซึ่งใช้อาคารที่ทำการศาลจังหวัดสงขลาหลังเดิม ต่อมาเมื่อปี 2564 ศาลแขวงสงขลาได้ย้ายที่ทำการไปยังอาคารเลขที่ 1/2ถนนชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นอาคารสูง 4 ชั้น ขนาด 10 บัลลังก์ มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเหมาะสม สำหรับใช้เป็นสถานที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรมให้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี ศาลแขวงสงขลามีเขตอำนาจศาลในพื้นที่จังหวัดสงขลา จำนวน 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอรัตภูมิ อำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอนาหม่อม อำเภอบางกล่ำ และอำเภอคลองหอยโข่ง