เมื่อเวลา 18.36 น.วันที่ 14 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางแซรัป แอร์ซอย (Mrs. Serap Ersoy) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย ซึ่งพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม นำคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการและนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมครุยวิทยฐานะ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงอุทิศพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระวิริยอุตสาหะ และทรงช่วยแบ่งเบาพระราชกรณียกิจได้เป็นอย่างดี โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลายด้าน อาทิ
ด้านการทหาร การศาสนา การต่างประเทศ การอนุรักษ์ธรรมชาติ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม การดูแลสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังทรงตั้งพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการสืบสานศิลปะและงานฝีมือของราษฎรในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรผลิตงานด้านศิลปหัตถกรรมเป็นอาชีพเสริม นอกเหนือจากการทำเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลัก พระราชกรณียกิจดังกล่าวล้วนสำเร็จลุล่วงสมดังพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถในการบริหารจัดการมาโดยตลอด ทรงแสดงพระปรีชาสามารถในการวางแผน การจัดการองค์การ การอำนวยการ การประสานงาน การบังคับบัญชา การควบคุมและการกำกับดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทรงนำความรู้และพระปรีชาสามารถไปใช้ในการบริหารโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ในการนำแนวคิดและหลักการจัดการสมัยใหม่ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ