M79 กับลูกระเบิดชนิดต่างๆ
วิกฤติการเมืองไทยหลายปีมานี้ เชื่อว่าสิ่งที่หลายคนจำได้ นอกจากเสื้อสี, มือตบ-เท้าตบ-นกหวีด, วาทกรรมแห่งความเกลียดชัง (Hate Speech) รวมถึงคำชี้แจงที่ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ ของบรรดานักการเมืองแล้ว คงมีเรื่องของ “อาวุธสงคราม” ที่ผู้ไม่หวังดีทั้งหลายนำมาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงอยู่ด้วย
อันที่จริงแล้ว..อาชญากรรมในไทยที่ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามลงมือนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เห็นได้จากคดีลอบยิงหลายกรณี มือปืนมักใช้อาวุธอย่างปืนอาก้า (AK47) บ้าง M16 บ้าง หรือการใช้ลูกระเบิดขว้างชนิดต่างๆ บ้าง เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านในอดีตเคยมีสงครามกลางเมือง อาวุธลักษณะนี้กระจายไปทั่วในราคาถูก และมีไม่น้อยที่เล็ดลอดเข้ามาขายในตลาดมืดบ้านเรา แต่ที่ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการเมืองไทยไปแล้ว คงหนีไม่พ้น “M79” หรือที่นายทหารผู้ล่วงลับบางคนเรียกว่า “พี่เอ็ม” จากข่าวที่มีการใช้อาวุธชนิดนี้ป่วนเมืองรายวัน
M79 จัดอยู่ในประเภท เครื่องยิงลูกระเบิด (Grenade Launcher) ขนาด 40 มม. ชนิดหนึ่งในหลายๆ ชนิด ที่มีหลายรุ่น และมีหลายประเทศเป็นผู้ผลิต ประวัติของเครื่องยิงชนิดนี้ อ้างอิงจากเว็บไซต์สารานุกรมอาวุธปืนอย่าง world.guns.ru ย้อนไปได้ไกลถึงสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสงครามเย็นเมื่อกองทัพสหรัฐอเมริกา ต้องการอุดช่องว่างระหว่างลูกระเบิดขว้าง ที่แม้ทหารจะพกพาไปได้แต่ก็ขว้างได้ไกลสุดเพียงไม่กี่สิบเมตร ขณะที่ “ปืนครก” ค.60 (60 mm. Mortar) ระยะหวังผลหลายร้อยเมตร แต่ไม่คล่องตัวเพราะต้องตั้งยิงอยู่กับที่
ในปี 1960 (พ.ศ.2503) M79 ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างเป็นทางการ และ 1 ปีต่อมา มันได้ถูกบรรจุเข้าเป็นยุทโธปกรณ์หลักชนิดหนึ่งของกองทัพพญาอินทรีที่ไปรบในสงครามเวียดนาม ในฐานะอาวุธยิงวิถีโค้ง (Projectile) ระยะหวังผลอยู่ที่ 150-350 เมตร ว่ากันว่าเมื่อสหรัฐอเมริกาเลิกผลิตอาวุธชนิดนี้ในปี 1971 (พ.ศ.2514) พบว่าที่ผ่านมามีบริษัทต่างๆ ในประเทศ ผลิต M79 ส่งให้รัฐบาลสหรัฐ รวมกันได้กว่า 3 แสนกระบอก ยังไม่นับการที่ประเทศอื่นๆ นำไปผลิตเพื่อบรรจุเข้าในหน่วยทหารของตนอีกมาก
ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง..ลูกระเบิดขนาด 40 มม. ยิงด้วยเครื่องยิงลักษณะนี้ ถูกออกแบบให้ต้องพุ่งออกไปประมาณ 15-30 เมตรก่อน ชนวนจึงจะทำงานให้เกิดระเบิดขึ้นได้เมื่อตกกระทบวัตถุ ซึ่งจะทำให้ปลอดภัยกับผู้ใช้มากกว่าลูกระเบิดขว้างโดยทั่วไป ที่เมื่อดึงสลักแล้วจะทำให้กระเดื่องนิรภัยหลุดออก ชนวนก็จะทำงานส่งผลให้เกิดระเบิดขึ้นในอีก 4-5 วินาทีต่อมา ดังนั้นผู้ใช้อาจได้รับอันตรายได้ โดยเฉพาะหากเพิ่งเข้าสนามรบใหม่ๆ แล้วรู้สึกตื่นกลัวลนลาน
M79 ถือเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดที่อเนกประสงค์มาก มีการผลิตลูกระเบิดขนาดดังกล่าวออกมาหลายชนิด นอกจากแบบที่เป็นระเบิดทั่วไป (Grenade) ที่คุ้นเคยกันแล้ว ยังมีทั้งลูกระเบิดเพลิง (Napalm), ระเบิดควัน (Smoke), ระเบิดสารเคมี (Chemical) และมีแม้กระทั่งกระสุนลูกปราย (Buckshot) แบบเดียวกับปืนลูกซอง
M203 ประกอบติดกับปืน M16
ที่น่าสนใจ..M79 นั้นสามารถใช้เป็น “ปืนยิงแก๊สน้ำตา” สำหรับสลายม็อบได้ด้วย เพราะมีการผลิตแก๊สน้ำตาขนาด 40 มม. ใช้ยิงจากเครื่องยิงชนิดนี้เช่นกัน แต่ในเวลาต่อมาก็ยกเลิกการใช้ไป เนื่องจากเวลาปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่อาจหยิบลูกระเบิดผิดประเภทมาใช้ได้ อันจะทำให้เกิดอันตรายกับผู้ชุมนุม ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลจะใช้กระสุนแก๊สน้ำตาขนาด 38 มม. และใช้คู่กับเครื่องยิงขนาดลำกล้อง 38 มม. เท่านั้น ซึ่งปืนยิงแก๊สน้ำตาชนิดนี้ไม่สามารถใช้กับลูกระเบิด 40 มม. ได้เพราะลำกล้องมีขนาดเล็กกว่า
ปัจจุบัน M79 เริ่มลดความสำคัญลงในฐานะอาวุธของกองทัพ เนื่องจากมีอาวุธประเภทเดียวกันที่ดีกว่า เช่น สหรัฐอเมริกาได้พัฒนา “M203” หรือเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. สำหรับประกอบเข้ากับปืนเล็กยาวประจำกายทหารอย่าง M16 และ M4 ทำให้ใช้งานได้หลากหลายกว่า เพราะเป็นทั้งปืนและเครื่องยิงลูกระเบิดในกระบอกเดียวกัน จึงกลายเป็นอาวุธหลักแทน M79 ที่ปลดระวางไป
Milkor MGL Mk.1S เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. บรรจุได้ 6 นัด
หรือกองทัพแอฟริกาใต้ได้พัฒนา “Milkor” Multiple Grenade Launcher (MGL) ซึ่งเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. ที่หน้าตาคล้ายปืนลูกโม่ สามารถบรรจุลูกระเบิดได้ 6 ลูก ทำให้ยิงได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องยิงแล้วบรรจุทีละนัดแบบ M79 หรือ M203
ตามกฎหมายแล้ว เครื่องยิงลูกระเบิดลักษณะนี้ถือเป็นยุทธภัณฑ์ นายทะเบียนอาวุธปืนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ดังนั้นประชาชนจึงไม่สามารถมีไว้ครอบครอง ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึตลอดชีวิต
แม้จะมีกฎหมายห้ามและมีบทลงโทษที่ค่อนข้างหนัก แต่ทุกวันนี้เรายังเห็นข่าวผู้ไม่หวังดี ยิง M79 ถล่มที่นั่นที่นี่รายวัน จนเกิดคำถามว่า..ฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำอะไรกันอยู่ ถึงปล่อยให้มีเหตุเช่นนี้บ่อยครั้ง ราวกับว่าอาวุธสงครามร้ายแรงนี้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี