หลายคนอาจจะกลัวว่าถิ่นที่อยู่อาศัยในทะเลที่มองไปทางไหนก็มีแต่ท้องฟ้า ทะเลกว้าง ยามค่ำคืน ยามที่ดินฟ้าอากาศแปรปรวน คงจะมีคลื่นมีลมที่
ถาโถมเข้ามาน่ากลัวมิน้อยอยู่ แต่สำหรับที่นี่หมู่บ้านกลางน้ำที่มีชื่อเรียกว่า “เกาะปันหยี” จ.พังงา แล้วเป็นชุมชนที่มีผู้คนอยู่อาศัยมานานจนมีการขยับขยายปลูกสร้างบ้านเรือนติดๆกันเป็นพืด ขยายอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล
มองย้อนไปในอดีต ชุมชนกลางน้ำแห่งนี้ มี “โต๊ะบาบู” ผู้นำชาวอินโดนีเซียอพยพมาเมื่อกว่า 200 ปีมาแล้วเมื่อมาพบเกาะแห่งนี้ จึงปักธงเอาไว้เป็นสัญลักษณ์ให้พรรคพวกที่อพยพมาด้วยกันได้รับรู้ว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการตั้งบ้านเรือนทำมาหากิน คำว่า“ปันหยี” แปลว่า “ธง” ลักษณะหมู่บ้านที่ตั้งเรียงรายกันกว่า 300 หลังคาเรือน มีประชากรกว่า 4,000 คน ที่เกาะปันหยึมีพื้นดินเพียง 1 ไร่เท่านั้น เป็นที่ตั้งของมัสยิด และกุโบร์ (สุสานของชุมชนมุสลิม) และนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่
เมื่อวันที่ 19-20 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสพานักศึกษาชมรมคนแบกเป้ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ไปออกค่ายจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนโรงเรียนเกาะปันหยี และชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ ได้พบกับอาจารย์ประกอบ มัจฉากิจ
แห่งโรงเรียนเกาะปันหยี ซึ่งเป็นลูกหลานคนดั้งเดิมและตั้งรกรากมานานกว่า 50 ปีแล้ว จนรู้เรื่องราวโดยละเอียด
อาจารย์ประกอบได้เล่าให้ฟังว่าที่เกาะปันหยี แห่งนี้มีตระกูลหลักๆ อยู่ 6 ตระกูล กล่าวคือ 1.ตระกูลฟองละแอ2.ตระกูลมัจฉากิจ 3.ตระกูลเหมมินทร์ 4.ตระกูลวารีศรี 5.ตระกูลคงเดิม 6.ตระกูลประสานพันธ์
เกาะปันหยีมี 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 ต.ท่าด่าน หมู่ที่ 2 ต.เกาะปันหยี หมู่ที่ 3 ต.เกาะไม้ไผ่ หมู่ที่ 4 ต.เกาะหมากน้อยมีโรงเรียนเกาะปันหยี 1 แห่ง สอนในระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมต้น มีมัสยิด 1 แห่ง ที่เกาะแห่งนี้ไม่มีเอกสารสิทธิ หากจะทำกิจกรรมใดๆ เช่น ก่อสร้างบ้าน ต่อเติมบ้าน จะต้องขออนุญาตกับคณะกรรมการหมู่บ้านก่อนจึงจะทำการก่อสร้างได้ สะท้อนเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในการบริหารจัดการปกครองตนเองได้อย่างสันติ สงบสุข
การมีบ้านเรือนตั้งอยู่กลางน้ำเป็นอัตลักษณ์ที่น่าสนใจมาก ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจมาท่องเที่ยว ณ เกาะปันหยีแห่งนี้
หมุนเวียนปีละกว่า 1 ล้านคน ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต มีอาชีพหลักๆ เช่น ประมงน้ำตื้น ประเภทอวนลอย เลี้ยงปลากระชังโป๊ะ เลี้ยงหอยแครง เป็นต้น มีอาชีพค้าขายโดยขยายบ้านเรือนเป็นร้านอาหารรองรับนักท่องเที่ยว อาหารขึ้นชื่อถ้ามาที่นี่แล้วต้องซื้อน้ำพริกกุ้งเสียบ และกะปิ (หร่อยอย่างแรงส์)อร่อยมากๆ ครับ มีอาชีพขายของที่ระลึก โปสต์การ์ด ของที่ระลึกที่ทำจากเปลือกหอย และอีกอาชีพที่เหมาะกับท้องถิ่นมากคือ ไกด์ พานักท่องเที่ยวไปพายเรือแคนู คายัค ดำน้ำ ปีนหน้าผา ท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ที่สำคัญที่อยู่ใกล้กัน เช่น เขาตะปู เขาพิงกัน ถ้ำลอดเล็ก ถ้ำลอดใหญ่
สำหรับไกด์นั้นได้รับการอบรมปลูกฝังตั้งแต่เรียนหนังสือมาแล้วไม่ว่าจะภาษาอังกฤษที่ได้เรียนมาและก็สามารถใช้การได้ด้วย ที่โรงเรียนเกาะปันหยีจะค่อนข้างเน้นมากจะเห็นได้ว่าที่โรงเรียนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินมาท่องเที่ยวเป็นระยะๆ เสมอ นักเรียนก็สามารถฝึกการพูดทักทายแบบง่ายๆ จนติดเป็นนิสัยที่ดี เมื่อจบการศึกษาก็ไปประกอบอาชีพได้อีกด้วย
เมื่อราวๆ 4-5 ปี ก่อนเคยมีโฆษณาชิ้นหนึ่งทางทีวี.เป็นที่ตื่นตาตื่นใจมากว่าเหตุใดหมู่บ้านกลางน้ำแห่งนี้จึงมีนักฟุตบอลเก่งๆได้อย่างไร?
เมื่อ 30 ปีก่อน มีเด็กชายกลุ่มหนึ่งมีใจรักฟุตบอลฝันอยากเล่นเก่งเหมือนเปเล่ ซิโก้ แห่งบราซิล แต่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย มีแต่ภูเขากับทะเล ก็อาศัยเล่นตามชายหาดเวลาน้ำลงบ้างต่อมาก็หาเศษไม้มาต่อเป็นแพปลาแล้วเตะเล่นกันบนแพเสียเลย จนพัฒนามาเป็นสนามฟุตซอลเป็นสนามคอนกรีตก่อสร้างกลางทะเล 2 สนาม ปัจจุบันยังมีสนามที่เป็นโป๊ะพลาสติกลอยน้ำอีก 1 สนาม ทำให้ความฝันของน้องๆเป็นจริง หากมองมุมสูงจะสวยงามมากเป็นสนามฟุตซอลที่ลอยอยู่กลางทะเล นักท่องเที่ยวที่ขึ้นเกาะปันหยีต้องมาที่นี่ครับ เสมือนว่าหากขึ้นเกาะปันหยีแล้วไม่ได้มาดูสนามฟุตซอลกลางน้ำเสมือนมาไม่ถึงเกาะ นักเตะเยาวชนมีสโมสรชื่อ“ปันหยีเอฟซี” สัมผัสแชมป์มาแล้วหลายรายการ
การใช้ชีวิตอยู่กลางทะเล ระบบสาธารณูปโภคที่เกาะต้องใช้อย่างประหยัด ค่าครองชีพสูง ระบบไฟฟ้าต้องใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะปันหยี ผลิตไฟฟ้าจ่ายทั้งเกาะ ถ้าอยู่บนพื้นดินเราใช้ไฟฟ้าหน่วยละ 4-5 บาท แต่ที่เกาะปันหยีหน่วยละ 19 บาท และต้องเก็บค่าไฟฟ้าทุก 10 วัน เฉลี่ยประมาณ 3,000-4,000 บาท ถ้ารอถึง 1 เดือนจะดูเยอะมาก และช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น. น้ำประปาก็จะไม่ไหลหรือไหลช้าเพราะช่วงเวลาดังกล่าวทุกบ้านเรือนใช้น้ำพร้อมๆ กัน ต้องแบ่งปันกัน อีกอย่างหนึ่งที่ถือว่าแพงมากคือการก่อสร้างบ้านเรือน ยกตัวอย่างหากสร้างที่อื่น งบประมาณหลังละ 1 แสน ที่เกาะปันหยีจะใช้งบ 3 แสนบาท เพราะวัสดุ อุปกรณ์ อิฐ หิน ดิน ทราย ต้องขนมาทางเรือจึงแพงเป็น 2 เท่า
ท่านผู้อ่านท่านใดมีเวลาว่าง หรืออยากพักผ่อนมากับครอบครัว ขอเชิญแวะเวียนมาท่องเที่ยว นอกจากเกาะปันหยี ยังมีเขาตะปู เขาพิงกัน ถ้ำลอด ที่อยู่ใกล้ๆ กันอีกด้วย ความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนเกาะปันหยีที่ยังคงรักษาไว้ได้ในระดับดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมีหน้ามีตาให้ผู้คนได้มาเยือนตลอดเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี