จาก”เทวดา”สู่”ซาตาน” หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัย หายเจ็บกลับมาพัง 2 ประตูให้ทีมชนะ อังกฤษ แต่นัดตัดสินเข้ารอบดันไปกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ทำให้ติดแบนยาวสุดสถิติบอลโลก 9 นัด
จะมีใครกล้าคิดบ้างว่า ฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมสุดท้าย
จะมีปรากฏการณ์ที่ว่า ทีมชาติคอสตาริก้า ปะทะกับ ทีมชาติกรีซ!!!
กรุณาอย่าตกใจ เพราะมันเกิดขึ้นแล้วในศึกเวิลด์คัพ ฉบับฉีกตำรา ทั้งที่สองทีมนี้ก่อนเข้าฟุตบอลโลก คือ “ม้านอกสายตา” ของทุกสำนัก
เป็นเต็ง 1 นับจาก”ข้างล่าง” ในทุกกรณี
สุดท้ายจะเป็นเกมสำคัญที่สองชาตินี้กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตัวเอง และวงการฟุตบอลโลก
เพราะไม่เคยผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้งคู่!
จาก”เทวดา”สู่”ซาตาน” หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัย หายเจ็บกลับมาพัง 2 ประตูให้ทีมชนะ อังกฤษ แต่นัดตัดสินเข้ารอบดันไปกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ทำให้ติดแบนยาวสุดสถิติบอลโลก 9 นัด
คอสตาริก้า เล่นได้อย่างสุดยอดทั้ง 3 เกมในรอบแรก เริ่มจากการปราบ อุรุกวัย 3-1 ต่อด้วยคว่ำ อิตาลี1-0 ตีตั๋วเข้ารอบได้ตั้งแต่สองเกม ก่อนจะเล่นแบบประคองตัวแต่ อังกฤษ ก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้
เข้ารอบมาแบบไร้พ่าย....เหลือเชื่อ!
คอสตาริก้า ปรุงทีมด้วยการเล่นเกมรับเหนียวแน่น ใช้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน ยืนปักหลักไม่มีการเติมเกมรุก และใช้มิดฟิลด์ตัวรับอีกสองคน คอยสอดประสานเมื่อเวลาที่ “วิงแบ๊ค” ทั้งสองข้างอย่าง จูเนียร์ ดิอาซ และ คริสเตียน กัมบัว เดินเกมรุก
จอร์จอส ซามาราส สังหารจุดโทษให้ทีมในนาทีที่ 93 นำ กรีซ เข้ารอบน็อคเอาท์หนแรก พร้อมกล่าวว่า “ผมจะไม่ลืมประตูนี้ไปชั่วชีวิต”
ขณะที่แนวรุก ไบรอัน รุยซ์ เล่นได้อย่างท็อปฟอร์มมาก ๆ เช่นเดียวกับ คริสเตียน โบนาญอส ที่รับเหมาลูกนิ่ง สร้างความปั่นป่วนรัญจวนใจให้กับทุกทีม
ส่วนหน้าเป้า โจเอล แคมป์เบลล์ หรือ โจเอล กัมเบลล์ พิสูจน์แล้วว่า ทำงานได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ มีซ้ายของเขา อาจจะไม่ต้องพึ่งขวาของใคร
11 ตัวจริง ในระบบ 3-4-2-1 กำลังลงตัวมาก ๆ และนี่เป็นหนที่สองในประวัติศาสตร์ที่เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เหมือนเมื่อปี 1990
แปลกดี 2 สมัยที่ผ่านมาที่ คอสตาริก้า ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จนั้น ทำได้ในวันที่ 20 มิถุนายนเหมือนเดิม แต่คนละ ค.ศ.
ลีโอเนล เมสซี่ ดาวดังอาร์เจนติน่า ยิงประตูชัยช่วงทดเวลาเอาชนะ อิหร่าน 1-0 พร้อมเป็นนักคนเดียวที่ได้ “แมน ออฟ เดอะ แมทช์” ทั้ง 3 เกมที่ลงเล่น
ข้ามฝั่งไปมองที่ ทีมชาติกรีซ ไม่มีใครเชื่อว่า พวกเขาจะเข้ารอบมาได้ หลังจากออกสตาร์ทสองนัดแรก มีแค่คะแนนเดียวเท่านั้น
ทีมของ เฟร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือโปรตุกีส ออกสตาร์ทเกมแรกแพ้ยับให้กับ โคลอมเบีย 0-3 ต่อด้วยเสมอกับ ญี่ปุ่น แบบเกือบตาย 0-0 เนื่องจากเหลือ 10 คนตั้งแต่ไก่โห่ แถมยังต้องลุ้นสองเด้ง เพราะนอกจากต้องชนะ ไอวอรี่ โคสต์ ยังต้องให้ ญี่ปุ่น แพ้อีกต่างหาก
ไม่น่าเชื่อว่า ทุกอย่างจะเป็นใจ และนิสัยเสริมส่ง กรีซ เอาชนะได้สำเร็จ ในช่วงทดเวลาจากการได้จุดโทษของ จอร์จอส ซามาราส นักเตะที่โลกลืม
ที่ว่าไม่น่าเชื่อก็เพราะ ซามาราส เล่นมา 270 นาทีไม่เคยยิงตรงกรอบแม้แต่หนเดียว
รวมถึงประตูของ อันเดรียส ซามาริส ที่ทำให้ทีมขึ้นนำ ถือเป็นลูกแรกในรอบ 331 นาทีของ กรีซ กับการแข่ง ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
เล่นบอลโลก 3 สมัย ชนะเกมนี้ได้เป็นครั้งที่ 2 แต่ได้เข้ารอบ นี่มันยิ่งกว่าปาฏิหาริย์จริง ๆ
เนย์มาร์ ความหวังหนึ่งเดียวของ บราซิล ทำประตูที่ 100 ในบอลโลกครั้งนี้ นัดเจอกับ แคเมอรูน และเป็นนัดที่ 100 ที่ บราซิล ลงเล่นในบอลโลก
เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ ทำให้หลายชีวิตเริ่มคิดย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่ง กรีซ ลงเล่นยูโร 2004 ในฐานะเต็ง 16 ของการแข่งขัน
เรียกกันง่าย ๆ ว่า”เต็งบ๊วย”นี่แหละ
หลังจากผ่านรอบแรกเข้าสู่รอบ 8 ทีม กรีซ ก็ยังเป็น “เต็ง 8” พอเข้าถึงรอบรองฯที่มี 4 ทีม กรีซ ก็ยังเป็น “เต็ง 4” จนกระทั่งเข้าชิง กรีซ ก็ยังคงเป็น”เต็ง 2”
หากว่า บราซิล ได้รับฉายา “เต็ง 1 ตลอดกาล”
คอสตาริก้า คว่ำทั้ง อุรุกวัย และอิตาลี ก่อนจะเสมอ อังกฤษ เข้ารอบเป็นอันดับ 1 ในสายที่ว่ากันว่าโหดที่สุด แบบพลิกล็อคช็อคทั้งโลก
เราอาจะเรียก กรีซ ว่า “เต็งบ๊วยตลอดกาล” ก็ไม่แปลกอะไร
สุดท้าย กรีซ ครองแชมป์ยูโรแบบโลกตะลึง นักเตะหลายคนแม้ชื่อจะเรียกยาก แต่ทุกวันนี้ แฟนบอลยังจำทุกคนได้ดี อันโตนิส นิโคโปลิดิส, ตรายานอส เดลลาส, ยูคาส ไซตาริดิส, ซีซิส ฟรีซาส, สเตลิออส ยานนาโคปูลอส, เธโอโดรอส ซาโกราคิส และอังเกลอส ชาริเตอัส เป็นอาทิ
จนถึงนาทีนี้ มีนักเตะที่หลงเหลืออยู่จากวันนั้นคือ คอสตาส คัตซูรานิส กับ จอร์จอส คารากูนิส ในแผงกลาง ซึ่งก็จะสลับกันลงสนาม
กิลเยร์โม่ โอชัว โกล์เม็กซิกัน กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน เมื่อเซฟลูกโขกของ เนย์มาร์ กองหน้าบราซิล อย่างเหลือเชื่อ ก่อนพาทีมเจ๊าเจ้าภาพและเข้ารอบ
ถึงตรงนี้ ยังบอกไม่ได้จริง ๆ ว่า จะเลือกใครเข้ารอบ รักพี่เสียดายน้อง จะเด็ดทีเดียวเสียทั้งคู่
คอสตาริก้า เล่นดีจนน่าสนใจ ขณะที่ กรีซ ก็มหาเฮงจนน่าจับตามอง
แต่สิ่งหนึ่งก็คือ ทั้งสองทีมได้แสดงให้เห็นถึงเรื่องของ “หัวจิตหัวใจ” และ “สายเลือดนักสู้” ไม่ว่าจะเป็นรองแค่ไหน หรือโอกาสน้อยเพียงใด
ฟาริด มอนดราก้อน โกล์โคลอมเบีย ทำสถิติเป็นนักเตะอายุมากที่สุดลงเล่นบอลโลก ด้วยวัย 43 ปี 4 วัน ทุบสถิติของ โรเจอร์ มิลล่า ของแคเมอรูน 42 ปี 39 วัน
พวกเขาไม่เคยยอมแพ้
ที่สำคัญ หากผ่านเกมนี้ไปได้ ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยิ่งจะเล่นได้อย่างสบาย เพราะมันมีแต่กำไรล้วน ๆ และจะก้าวผ่านคำว่า “จอมพลิกล็อค”
กลายเป็น”ม้ามืด”อย่างเต็มตัวประจำทัวร์นาเมนท์!
บี แหลมสิงห์
โกล์ไลน์เทคโนโลยี ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก ในจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า หัวหอกฝรั่งเศส สังหารประตู ฮอนดูรัส
มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าตัวเก๋าเยอรมนี ทำประตูที่ 15 ในบอลโลกของตัวเอง ในเกมกับ กาน่า ทาบสถิติของ โรนัลโด้ แห่งบราซิล ได้สำเร็จ
สเปน กลายเป็นแชมป์เก่า ชาติที่ 5 ที่ตกรอบแรกฟุตบอลโลก หลังจากแพ้ตั้งแต่สองเกมแรกให้กับ เนเธอร์แลนด์ และชิลี
ทีมชาติอังกฤษ กระเด็นตกรอบแรกฟุตบอลโลก เป็นหนแรกในรอบ 56 ปี และมีแค่คะแนนเดียวเท่านั้น
อิตาลี ที่ชนะตั้งแต่นัดแรก แต่กลับแพ้สองนัดติด ทำให้ตกรอบแรกฟุตบอลโลก สองสมัยติดต่อกัน เป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปี
ช็อตเด็ดของจริง เจอร์เมน โจนส์ กองกลางฟอร์มดีของสหรัฐ ทำเฟอะฟะ 3 หนติดเมื่อวิ่งชนกรรมการ, จับบอลกระแทกปากตัวเองอย่างแรง และวิ่งชนเพื่อนร่วมทีม ในนัดเจอเยอรมนี แต่สุดท้ายเข้ารอบ!
ช็อตเด็ดของจริง เจอร์เมน โจนส์ กองกลางฟอร์มดีของสหรัฐ ทำเฟอะฟะ 3 หนติดเมื่อวิ่งชนกรรมการ, จับบอลกระแทกปากตัวเองอย่างแรง และวิ่งชนเพื่อนร่วมทีม ในนัดเจอเยอรมนี แต่สุดท้ายเข้ารอบ!
ช็อตเด็ดของจริง เจอร์เมน โจนส์ กองกลางฟอร์มดีของสหรัฐ ทำเฟอะฟะ 3 หนติดเมื่อวิ่งชนกรรมการ, จับบอลกระแทกปากตัวเองอย่างแรง และวิ่งชนเพื่อนร่วมทีม ในนัดเจอเยอรมนี แต่สุดท้ายเข้ารอบ!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี