ในอดีตที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ มีกัปตันทีมชั้นดีมากมาย อาทิ รอน เยทส์, เอมลีน ฮิวจ์ส, ฟิล ธอมป์สัน, แกรม ซูเนสส์ และ อลัน แฮนเซ่น เป็นอาทิ
แต่ไม่มีใครเป็นกัปตันทีมได้ยาวนานกว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด
จุดเริ่มต้นอาจเป็นเพราะ เจอร์ราร์ด มักจะทำประตูสำคัญๆ ให้กับทีมบ่อยครั้ง
โดยเฉพาะปี 2000-01 แจ้งเกิดในการสังหารประตูทะลวงไส้ แมนฯยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาล ก่อนจะพุ่งแบบฉลามบกดีใจ หากเป็นบ้านเราคงโดนไม้เสียบลูกชิ้นทิ่มเข้าลำคอ
หรือจะเป็นการยิง อลาเบส ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพ ก่อนเป็น 5 แชมป์ในปีเดียว
แต่ด้วยสไตล์การเล่นที่มุทะลุดุดัน ซึ่งบางครั้งก็เกินกว่าเหตุ จนทำให้โดนลงโทษบ่อยครั้ง และต้องบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ แต่ด้วยพลังแฝงที่มีอยู่ในตัวของเขา
ทำให้ “ดร.ฮู” เชราร์ อุลลิเยร์ ผู้จัดการทีมในตอนนั้นเห็นอะไรบางอย่าง
ทำให้ อุลลิเยร์ มอบตำแหน่งกัปตันทีมลิเวอร์พูล จาก ซามี่ ฮูเปีย ให้กับ สตีวี่จี นำทัพเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2003 ก่อนจรดปากกาต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 4 ปี
แล้วปลอกแขนกัปตันสามารถเปลี่ยนคนได้ เหมือนกับที่ เดวิด เบ๊คแฮม เคยเป็น
เจอร์ราร์ด บอกว่านี่เป็นยิ่งกว่าความฝันของนักบอลคนหนึ่ง ที่เกิดที่นี่ เชียร์ทีมนี้ ได้เล่นบอลอาชีพกับทีมนี้ และได้มาเป็นกัปตันทีม
หากเป็นทีมตำบล หรือทีมรวม อบจ.คงไม่แปลก แต่นี่คือทีมที่มีแฟนฟุตบอลทั่วโลก
มันก็เป็นยิ่งกว่าความฝัน
ไม่น่าเชื่อว่า เด็กที่เตะบอลข้างถนนในเมือง ก่อนจะถูกค้นพบและเจียระไนโดย สตีฟ ไฮจ์เวย์, ฮิวจ์ แม็คออร์ลี่ย์ และเดฟ แชนน่อน จะมาได้ไกลมากๆ
เจอร์ราร์ด บอกว่า มันหมายถึงทุกอย่างสำหรับผม ผมเชียร์สโมสรมาตั้งแต่เริ่มดูฟุตบอล ครอบครัวของผม เพื่อนของผมหลายคนเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล และ ผมก็ยังอยู่ในเมืองนี้ ฉะนั้นเวลาที่เราชนะ ได้ผลการแข่งขันที่ดี และคว้าถ้วยแชมป์ ก็ยอมเป็นเรื่องเยี่ยมที่ได้มีส่วนร่วม และสนุกกับแฟนบอล
หากย้อนกลับไป วันแรกที่ เจอร์ราร์ด มาแอนฟิลด์ คือวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 1986 สตีฟ ไฮจ์เวย์ ได้ให้ตั๋ว 3 ใบให้กับ เจอร์ราร์ด พร้อมกับ พ่อของเขาและพี่ชาย เข้าไปดูเกมที่ “หงส์แดง” ไล่จิก โคเวนทรี ซิตี้ เกมนั้น แยน โมลบี้ ดาวเตะเดนมาร์ก ยิงแฮททริกจากลูกจุดโทษ 3 ลูก
ทำให้ เจอร์ราร์ด อยากเป็นนักบอล และในที่สุดเขาทำตามฝันพร้อมพังสถิติมือสังหารแซงหน้า โมลบี้ ได้สำเร็จ
ด้วยแรงบันดาลใจจากไปดูเกมแรกนัดนั้น ทำให้ เจอร์ราร์ด ชอบ โมลบี้ จากนั้นก็คลั่งไคล้ จอห์น บาร์นส์ ในฐานะกัปตันทีม และอยากจะเป็นกัปตันอย่างที่ปีกนิลกาฬ ทำได้ นอกจากนี้ เจมี่ เรดแน็ปป์ และร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ก็เป็นฮีโร่ของเจอร์ราร์ด
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ เจอร์ราร์ด ได้เป็นกัปตันทีมเหมือน บาร์นส์ และเป็นกองกลางเคียงข้าง เรดแน็ปป์ พร้อมร่วมงานกับ ฟาวเลอร์ ได้อย่างลงตัว
ไม่แปลกที่ เจอร์ราร์ด จะมีอิทธิพลต่อทีมสูงมาก จากสิ่งที่หยิบยกขึ้นมาให้เห็น
เป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจ และทำให้คนหลายล้านคนหันมาเชียร์ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะการนำทัพคัมแบ๊กกลับมาจากการตามหลัง เอซี มิลาน 0-3 กลับมาเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2005
นั่นคือค่ำคืนมหัศจรรย์ภายใต้กัปตันที่ชื่อ “สตีวี่จี”
‘บี แหลมสิงห์
Report form Liverpool’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี