บ้านเราฟุตบอลตีกัน ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะกระทบไปยังวงกว้าง แต่เมื่อเทียบกับต่างประเทศไม่ได้แปลกอะไร เราจะเห็นตัวอย่างใกล้ตัว คือ “ยูโร2016”
ยูโร 2016 มี “อันธพาลลูกหนัง” ที่กระจายไปเป็นวงกว้างอย่างเหลือเชื่อ ซัดกันเละ แต่ที่หนักสุดที่เกือบถูกตัดสิทธิ์ คือ “รัสเซีย”
“ตุรกี” ที่ขว้างพลุลงสนามหลังจากโดน สเปน ยำขาด 3-0 พร้อมกับมีป้ายของ นีโอนาซี (Neo-Nazism) สัญลักษณ์แห่งลัทธิที่เคลื่อนไหวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
อันที่จริง “ฮูลิแกน” Football hooliganism มีมานานแล้ว บันทึกไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดขึ้นหนแรกเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าต้องย้อนกลับไปศตวรรษที่ 14 ประมาณ ปี 1314 พระเจ้าเอ๊ดเวิร์ดที่ 2 ของอังกฤษ ได้ห้ามให้มีการเตะฟุตบอล เพราะเชื่อว่ามีความผิดปกติระหว่างแข่งขัน มีความวุ่นวายทางสังคม
สมัยนั้น “ลูกหนัง” ยังไม่มี ยังเป็นการใช้ “กระเพาะหมู” เตะกันอยู่เลย!!!
“อังกฤษ” ที่ถูกยกให้เป็น “ต้นตำรับฮูลิแกน” ในยุคที่บันทึกได้ก็เริ่มเปรี้ยวมาตั้งแต่ปี 1880 คือ เริ่มมีลีกก็ตีกันเลย จนกระทั่งมาหนักหาสาหัสในยุค 70 แกนนำ คือ เชลซี , ลีดส์ , สเปอร์ส , มิลล์วอลล์ และเวสต์แฮม ที่โหดกว่าใครในลีก โดยพวกตัวแสบจะแทนตัวเองว่า army , boys , casuals และ crew
จนมาถึงยุค 80 ฮูลิแกนเหิมหนักจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตอนนั้น นายกรัฐมนตรีหญิงอังกฤษที่ชื่อว่า “มาร์กาเร็ต แธตเชอร์” หรือฉายา “หญิงเหล็ก” ต่อสู้กับเรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อน
แธตเชอร์ เกิดในครอบครัวของอัลเฟรด-บีทรีซ โรเบิร์ตส์ สืบสายเลือดนักการเมืองจากบิดาผู้เป็นสมาชิกพรรคทอรี หรือพรรคอนุรักษ์นิยม และเป็นนายกเทศมนตรี โดยเฉพาะเหตุการณ์แฟนบอลลิเวอร์พูล ตีกับ แฟนบอลยูเวนตุส จนทำให้แฟนบอลชาวอิตาเลียน เสียชีวิต 39 คนที่เฮย์เซลล์ สเตเดี้ยม กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ก่อนเกมนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ 1985 ซึ่งตอนนั้น แธตเชอร์ อยู่ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป
หนึ่งในคณะรัฐมนตรีบอกว่า นี่คือความอับอายของประเทศ และควรจะยุบวงการฟุตบอลทิ้งซะ
แต่เธอตอบทันควันว่า “ไม่...ไม่มีทาง”
ก่อนที่ เธอนี่แหละที่เป็นแกนนำในการจัดการแฟนฟุตบอลอันธพาล หรือพวก “ฮูลิแกน” ที่ทำให้อังกฤษเสียภาพลักษณ์ จนราบคาบ
เมื่อเราเห็นภาพ “อันธพาลลูกหนัง” ที่นำเสนอไม่น้อยไปกว่าไฮไลท์ยูโร อันที่จริงตามตำราของ “ตำราแห่งฮูลิแกน” ก็มี “กฏเหล็ก” ประจำตัวของพวกเขา ไม่ใช่ว่า นึกอยากจะตีก็ซัดกันในทันใด
1.ไม่ทำร้ายเด็ก , สตรี และคนชรา ถ้าโดนเด็กตีให้ไปกระทืบผู้ใหญ่แทน
2.ไม่ลงไปสร้างความวุ่นวายในสนาม ถือเป็นฮูลิแกนไร้จรรยาบรรณ แต่นอกสนาม เชิญกระทืบกันได้
3.ต้องมีเรื่องกับฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น เราสัญญาจะไม่มีการกระทืบกันเอง
4.ห้ามมีเรื่องกันแบบ “หมาหมู่” ต้องซัดกันตัวต่อตัว
หาไม่แล้ว คุณคือ ฮูลิแกน ที่ไร้ซึ่งคุณธรรม!!!
หากเป็นไปตามกฏเกณฑ์ดังกล่าว คนไหนที่ฉีกกฏนี้ไป ก็น่าจะหาใช่ “ฮูลิแกน” อย่างที่เค้าว่า จึงขอใช้คำของกุนซือโครแอตที่ว่า พวกที่ก่อการไม่ดีในยูโรครั้งนี้ คือ...
“ผู้ก่อการร้ายแห่งโลกฟุตบอล”…
หาใช่ “ฮูลิแกน”ในตำนาน!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี