.
ฟุตบอลโลก เดินทางมาถึงปีที่ 88 และเป็นครั้งที่ 21 มีการใช้ถ้วยรางวัลทั้งหมด 2 ใบ
1.จูลส์ ริเมต์ ระหว่างปี 1930-1970
2.ฟีฟ่า เวิลด์คัพ ตั้งแต่ปี 1974 เป็นต้นมา
ถ้วยใบแรกเริ่มต้นขึ้นด้วยชื่อ "วิคตอรี่ (Victory)" หรือถ้วยแห่งชัยชนะ แต่ทั่วไปเรียกถ้วยนี้ตรงๆ ว่า World Cup และ Coupe du Monde
โทรฟี่ใบสำคัญนี้รังสรรค์จาก อเดล ลาเฟลอร์ ประติมากรคนดังชาวฝรั่งเศส
ลาเฟลอร์ เกิดที่ โรเดซ์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เป็นศิษย์เอกของยอดนักออกแบบคนดังอย่าง จูลส์-เคลมองต์ แชปแลง และฟรองซัวส์-โจเซปห์-ฮูแบร์ต ปองส์คาร์ม
เขาทำถ้วยจากเงินและทองหนัก 3.8 กิโลกรัม สูง 35 เซนติเมตร ทำจากเงินสเตอร์ลิ่งชุบทอง ส่วนฐานทำด้วยหินอ่อนสีขาวกับสีเหลือง
กระทั่งปี 1946
มติอย่างเป็นทางการของ ฟีฟ่า ให้เปลี่ยนชื่อถ้วย วิคตอรี่ มาเป็น "จูลส์ ริเมต์" เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานฟีฟ่าคนที่ 3 ที่รับใช้วงการลูกหนังยาวนานถึง 33 ปี ในช่วงปี 1921-1954 และเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันให้มีการจัดฟุตบอลโลกสมัยแรก
ประธานฟีฟ่า จูลส์ ริเมต์ กับโทรฟี่วิคตอรี่ ในยุคแรก ปี 1930
มาในปี 1954 มีการปรับปรุงบริเวณฐานของถ้วย จากเดิมคือหินอ่อน มาเป็นหินสีฟ้า (lapis lazuli)
จุดเด่นที่จดจำก็คือ ถ้วยเป็นรูปของ "เทพธิดาแห่งชัยชนะ" หรือที่เรียกภาษากรีกโบราณว่า Nike of Samothrace และภาษาอังกฤษ คือ "The Goddess of Victory"
ถ้วยนี้ถูกส่งไปยังประเทศอุรุกวัย เจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งแรก ด้วยเรือที่ชื่อ "SS Conte Verde" ณ ท่าเรือวิลฟรองเช่-ซูร์-แมร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองนีซ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 1930
มีการกำหนดเอาไว้ว่า หากชาติใด ได้แชมป์โลก 3 สมัยเป็นชาติแรก จะได้ถ้วยจูลส์ ริเมต์ ถือครองเป็นกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว กระทั่งการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 9 ที่ประเทศเม็กซิโก ปี 1970 จบลงด้วยชัยชนะของ "แซมบ้า" บราซิล ทำให้พวกเขาเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 3
คาร์ลอส อัลแบร์โต้ กัปตันทีมบราซิล กับการชิงแชมป์ถ้วยจูลส์ ริเมต์ ครั้งสุดท้าย ปี 1970
ฟีฟ่า ต้องจัดการรสรรหาถ้วยใหม่ขึ้นทันที
ผู้ชนะเลิศในการออกแบบถ้วยใบที่ 2 ในชื่อ "ฟีฟ่า เวิลด์คัพ" นั่นคือ ซิลวิโอ กาซซานิก้า ประติมากรชาวอิตาเลี่ยน
กาซซานิก้า เกิดที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อ 23 มกราคม ปี 1921 เป็นยอดนักออกแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้ว และเป็นที่รู้จักไปค่อนโลก หลังจากชนะเลิศการออกแบบถ้วยฟุตบอลโลก
กาซซานิก้า เคยกล่าวเอาไว้ว่า การออกแบบครั้งนี้ ผมทำขึ้นเพื่อสะท้อนถึงชัยชนะในระดับโลก เป็นความยินดีแห่งชัยชนะ เส้นรอบถ้วยใบนี้พุ่งขึ้นมาจากฐานเป็นรูปเกลียวขึ้นไปรองรับลูกโลก ซึ่งเส้นดังกล่าวจะเป็นนักกีฬาสองคนที่กำลังฉลองชัยชนะของพวกเขา
"การทำงานศิลปะเปรียบเสมือนกับการสร้างเด็กขึ้นมาหนึ่งคน แน่นอนว่า ผมไม่ได้หมายความถึงแค่ถ้วยฟุตบอลโลกเพียงถ้วยเดียว แต่หมายถึงทุกงานที่ผมรังสรรค์ขึ้น”
สำหรับถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพ ใบนี้ กาซซานิก้า คิดค้นเมื่อปี 1971 ก่อนจะทำขึ้นจากทองคำ 18 กะรัต และมีนำหนักราว 6 กิโลกรัม เริ่มใช้ครั้งแรกในฟุตบอลโลก ปี 1974 ที่ประเทศเยอรมันตะวันตก(สมัยนั้น) เป็นเจ้าภาพ และพวกเขาก็ได้แชมป์ไปครองเป็นทีมแรก
นักบอลคนแรกที่ได้ชูถ้วยนี้ในฐานะแชมป์โลกคือ “แดร์ ไกเซอร์” ฟรานซ์ เบ๊คเคนบาวเออร์ กัปตันทีมอินทรีเหล็ก นั่นเอง
ฟรานซ์ เบ๊คเค่นบาวเออร์ นักฟุตบอลคนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์ฟีฟ่า เวิลด์คัพ ปี 1974
ทั้งนี้ ถ้วยฟีฟ่า เวิลด์คัพ จะไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของทีมไหน โดยทีมแชมป์จะได้ถ้วยใบนี้ไปครองไว้ 4 ปี จากนั้นในการแข่งขันครั้งต่อไป ผู้ชนะจะได้รับถ้วยจำลองที่ทำจากทองผสม ซึ่งในตำแหน่งของฐานถ้วยที่มีแหวนคาดสองเส้น มีพื้นที่ไว้สลักชื่อผู้ชนะไว้ทั้งหมด 17 ช่อง ซึ่งจะเต็มทุกช่อง เมื่อถึงปีค.ศ.2038
เมื่้อถึงเวลานั้นค่อยมาว่ากัน
ว่าจะต้องออกแบบใหม่ หรือจะใช้ของเดิม!?!?!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี