การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในวันเสาร์นี้มีทั้งหมด 5 คู่ และมีผลต่อการคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรป ทั้งในศึกยูซีแอล หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รวมถึงการดิ้นรนหนีการตกชั้น

โดย 5 ทีมลุ้นพื้นไปยูโรเปี้ยน ทัวร์ ตอนนี้ ลงเล่นทั้งหมด “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 มี 55 คะแนน, “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี อันดับ 4 มี 54 คะแนน, “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 5 มี 52 คะแนน, อันดับ 6 “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส อันดับ 6 มี 52 คะแนน และ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่มี 46 คะแนน ส่วนการหนีตายนั้น“นกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ ทีมบ๊วยที่มี 21 แต้ม จะปะทะตรงกับ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่มี 33 แต้มและอีกสองทีมคือ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด มี 28 แต้ม และ “เดอะ เชอร์รี่” บอร์นมัธ มี 27 แต้ม จะออกไปเป็นทีมเยือนทั้งคู่

18.30 น. นอริช-ไบรท์ตัน : เจ้าบ้านกองอยู่บ๊วยและถ้าพลาดอีกน่าจะจบ แถม แซม ไบรัม, แกรนท์ แฮนลี่ย์, คริสโตฟห์ ซิมเมอร์มันน์ และมอริตซ์ ไลเนอร์ เดี้ยงยาวๆ ทำให้ตัวเลือกไม่ได้มีเยอะ โดยเกมรุก ติมู ปุ๊กกี้ ที่หยุดยิงมานานจนสถิติจอดอยู่ที่11 ประตู ยังต้องเข็นลงเล่นร่วมกับ ท็อด แคนท์เวลล์ และเอมิลิอาโน่ บวนเดีย เป็นตัวปั้นเกม

“นกนางนวล” เก็บ 4 แต้มจาก 3 เกมทำให้หายใจโล่งขึ้นเยอะเนื่องจากมีแต้มเหนือโซนตกชั้น 6 คะแนน แต่ยังประมาทไม่ได้ เกมนี้รอเช็คฟิต ดาวี่ พร็อพเพอร์ กับ อดัม เว็บสเตอร์ สองนักเตะตัวสำคัญซึ่งทีมกำลังลงตัวกับแผน 4-2-2-2 แอร่อน มอย เป็นห้องเครื่องกับเดล สตีเฟ่นส์ ส่วนคู่กองหน้าใช้ นีล มาวพาย กับ แอร่อน คอนนอลลี่

21.00 น. แมนยูฯ-บอร์นมัธ : “ปีศาจแดง” กลับมาเล่นได้อย่างคึกคักอย่างมาก หลังจากไร้พ่ายมาติดๆ กันถึง 15 นัดโดยเฉพาะในแผงกลางที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จัดให้เป็น 3 ประสานเนมานญ่า มาติช, ปอล ป๊อกบา และบรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่วนเกมรุกนั้นเมสัน กรีนวู้ด ยึดตัวจริงมาได้แล้วจาก แดเนี่ยล เจมส์ ลงประสานกับมาร์คัส แรชฟอร์ด และอองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล

ฝั่งผู้มาเยือนที่ยิ่งเล่นยิ่งแย่แพ้เรียบ 4 นัดติดต่อกัน โอกาสรอดตกชั้นเริ่มริบหรี่ลงทุกขณะ ไม่มี ไซม่อน ฟรานซิส กับ
ชาร์ลี แดเนี่ยลส์ ที่เจ็บ รวมถึง คัลลัม วิลสัน ความหวังในการพังประตูคนสำคัญก็มาติดโทษแบนเข้าไปอีกคน คาดว่าเกมนี้จะเล่นระบบ 4-5-1 เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา เล่นกองกลางร่วมกับ ลูวิส คุ้กและแดน กอสลิ่ง แล้วทิ้งให้ โจชัว คิง ปักเป็นกองหน้าตัวเป้า

21.00 น. เลสเตอร์-พาเลซ : “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ฟอร์มฝืดสนิท นับตั้งแต่กลับมาจากล็อกดาวน์ ยังไม่ชนะใครและเก็บได้ 2 แต้ม จาก 3 นัดหลังสุด หลังจากทีมขาดสมดุลฝั่งขวาชัดเจนมากๆ เพราะ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ต้องพักยาว อีกทั้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือก็ปรับแผนไปๆ มาๆ คาดว่าจะกลับไปเล่น 4-3-1-2 โดยให้ เจมส์ แมดดิสัน เป็นตัวฟรี แล้วให้ เคเลชี่อิเฮียนาโช่ ปักหอกร่วมกับ เจมี่ วาร์ดี้

ผู้มาเยือนถือว่าเล่นได้แกร่งจนกระทั่งมายุบในสองนัดหลัง ก็เนื่องจากสถานการณ์ที่ลอยตัว มี 42 คะแนนไม่ต้องดิ้นรนใดๆ แล้วเกมนี้ยังไม่มี เจฟฟรี่ ชลุปป์, มาร์ติน เคลลี่ และเจมส์ ทอมกินส์ เพราะเจ็บทั้งหมด รอเช็ค คริสติยง เบนเตเก้ เพื่อมายืนปักหลักเป็นกองหน้า ส่วน วินฟรีด ซาฮา พร้อมเดินเครื่องทางริมเส้น

23.30 น. วูล์ฟส์-อาร์เซนอล : การปะทะกันโดยตรงของสองทีมลุ้นไปยุโรป “หมาป่า” ของ นูโน่ ยังคงแข็งแกร่ง โดยเล่นในบ้านจะปรับมาเล่นรุกเต็มตัวที่ 3-4-3 ค่อนข้างแน่ โดยจะส่ง ดีเอโก้โชต้า ประสานพลังกับ ราอูล ฆิเมเนซ และ อดาม่า ตราโอเร่ ล่าตาข่ายซึ่งตอนนี้พวกเขาถือว่าฟิตสุดๆ ไม่มีนักเตะบาดเจ็บแม้แต่รายเดียว

ฝั่ง “ปืนใหญ่” เริ่มกลับมาฟอร์มดี ชนะมา 3 เกมรวด ในทุกรายการ เกมนี้รอ เมซุต โอซิล ผ่านฟิตลงมาช่วยเดินเกม แต่ แบรนด์ เลโน่ กับ ปาโบล มารี พักยาว โดยแดนกลางนั้น ดานี่เซบาญอส จะเดินเกม และมี กรานิต ชาก้า เป็นตัวบดกระดูก ส่วน3 ประสานเกมรุกนั้น รีส์ เนลสัน จะเบียดลงตัวจริงเล่นร่วมกับ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยัง และอเล็กซงดร์ ลากาแซตต์

02.00 น. เชลซี-วัตฟอร์ด : “สิงห์บลูส์” ต้องเรียกสถิติกลับมาหลังจาก ไปพลิกล็อกแพ้ เวสต์แฮม แบบเหลือเชื่อ เป็นไปได้ที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด อาจจะปรับทัพอีกครั้ง โดยเฉพาะทางแบ๊กซ้ายที่เป็นปัญหามาตลอด ล่าสุด มาร์กอส อลองโซ่ ก็บุกเพลินหลุดตำแหน่งจนทีมพัง ส่วนแนวรุกยังเป็น วิลเลี่ยน, คริสเตียน พูลิซิซและโอลิวิเยร์ ชิรูด์

ฝั่งทีมเยือนอาการยังไม่ดี มีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่คะแนนเดียวเท่านั้น ไนเจล เพียร์สัน กุนซือปรับมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 ให้ วิลล์ ฮิวจ์ส ยืนปักกลางร่วมกับ เอเตียน กาปู โดยแผงรุกนั้น โรเบร์โต้ เปเรยร่า ได้สตาร์ทตัวจริงร่วมกับ อับดูลลายดูกูเร่ และอิสไมล่า ซาร์ ส่วนหน้าเป้ายังเป็น ทรอย ดีนี่ย์กัปตันทีมเช่นเดิม